ชลน่าน สรุปอภิปราย ข้องใจ ประยุทธ์ ทำเสียพื้นที่ล้านไร่ แลกกับไม่ถูกต่างชาติเอาผิดคดีเหมืองทองอัครา ซัด จุรินทร์ ไอซียู ปมทุจริตถุงมือยาง ระบุ ศักดิ์สยาม นิพนธ์ ณัฎฐพล แจงไม่เคลียร์ เชื่อหลังผลโหวต บิ๊กตู่ ปรับครม.แน่ รับเสียงอ่อย โหวตล้มไม่ได้ รอ คนชี้วัด วันเลือกตั้งอีก 2 ปี
19 ก.พ.64 - เวลา21.33 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย สรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีอีก 9 คนว่า ขอบคุณนายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ให้ความใส่ใจ สนใจ ทำให้การอภิปรายครั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ การอภิปรายด้วยใจสุจริต แม้การใช้ถ้อยคำ แสดงกิริยาอาจทำให้หลายคนไม่สบายใจ ต้องกราบขออภัย ต้องการตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ
ในญัตติมีข้อกล่าวหาโดยสรุป 4เรื่อง 1. ผิดพลาดบกพร่อง การบริหารราชการแผ่นดิน 2.ทุจริต เอื้อประโยชน์พวกพ้อง 3.ทำผิดกฎหมาย ทำผิดจริยธรรม หลักนิติหลัก นิติธรรม 4.การไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
สาเหตุโดยรวม ในสิ่งที่กล่าวหา ไม่ว่จะเป็นเรื่องล้มเหลว ทุจริต หรือทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย โดยแนวทางที่ประธานวิปเสนอไว้ 1.เกิดจากวิธีคิด จิตสำนึก คุณลักษณะบุคคลของตัวนายกฯ 2.เรื่องความเชื่อมั่น การยอมรับนับถือจากต่างประเทศ เรื่องการต้อนรับ ให้การยอมรับเป็นอย่างไร โดยรมว.ต่างประเทศระบุ ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง แต่ก็เป็นเพียงบางประเทศเท่านั้น 3.เรื่องภูมิปัญญา วุฒิภาวะ ไร้ประสิทธิภาพของนายกฯ
ผลกระทบตั้งแต่ปี2557 มีความเติบโตถดถอย อย่างต่อเนื่องทั้งระดับมหภาค จุลภาค ฐานรากครัวเรือน มีความยากจนเพิ่มขึ้น มีตัวเลขแสดงให้เห็น เกิดความเหลื่อมล้ำ รวยกระจุกจนกระจาย ผลกระทบที่เกิดขึ้น ได้เห็นนายทุนใหญ่ มีผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ร้อยละ90 ของประชาชนจนลง ศักยภาพแข่งขันกับต่างประเทศ เราลดลง ส่งออกสู้ใครไม่ได้ ธุรกิจออนไลน์ ที่จะเป็นโอกาสคนรุ่นใหม่ ถูกเบียดแย่งไป ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ในมิติที่จะเกิดปัญหา เลยได้เน้นย้ำ จะถูกนานาอารยะประเทศที่ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย ออกมาตรการกำหนดวิถีชีวิตของคนในบ้านเรา ในอนาคตอันใกล้ คงจะมีมาตรการบอยคอย แซงชั่น คว่ำบาตรกับเรา ก็หวั่นว่าจะเกิดจริงๆ ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป กฎหมายแมกเนสกี้ อันตรายมาก หากเรามีบุคคลละเมิดสิทธิมนุษยชน อาจถูกมาตรการทางกฎหมายนี้จัดการ
เหตุการณ์ต่างๆหรือผลที่เกิดทั้งหลายทั้งปวง มีเหตุ ไม่ใช่อยู่ๆก็มาเกิดขึ้น เหตุสำคัญคือการยึดอำนาจ การปกครองประเทศ วางแนวทางสืบทอดอำนาจ ใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือ จากอำนาจเบ็ดเสร็จ มาตรา44 ออกมาอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ อยู่ในอำนาจนี้ทั้งหมด ออกกฎหมาย ตีความกฎหมายได้ว่าชอบไม่ชอบ ทั้งที่ม.44 ต้องการให้ใช้ตามเจตนารมณ์ในรัฐธรรมนูญ เช่น การปฏิรูป เศรษฐกิจ การยับยั้งภัยพิบัติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น นายกฯสมัยเป็นรัฐบาลคสช. ได้ใช้ม.44 พร่ำเพรื่อ ไม่ว่าไปยกเลิก ยับยั้ง ยกเว้นกฎหมายต่างๆ ผลพวงจากการใช้มาตรา44 เป็นสิ่งที่ต้องมากล่าวหาต่อไป เช่น เหมืองทองอัครา ยกเลิกพรบ.ร่วมทุน ยกเลิกการทำผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) สิ่งที่ต้องเน้นย้ำอีกเรื่องคือ การทำลายล้าง การปกครองระบอบประชาธิปไตย มีกระบวนการสมคบคิด ร่วมกันคิด แบ่งแยกหน้าที่กันทำผ่านกระบวนการ3ป. ด้านการเมือง มีหัวหน้าพรรคการเมือง ด้านบริหารราชการแผ่นดิน ผ่านส่วนท้องถิ่น ก็คุมได้หมด กลไกลรัฐธรรมนูญ ก็มีคนมาดูเฉพาะ เป็นการทำลายล้างตามระบอบประชาธิปไตย
ไม่แปลกใจถูกต้องว่าเป็น สภาปลวก เพราะมีการกัดกินกัดเซาะ หวังว่าเพื่อนในสภาฯ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยกลับมาให้เป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยไทยไทย ถ้าเป็นประชาธิปไตยเพื่อคนไทยทั้งปวง ไม่มีใครว่า
คำตอบชี้แจงข้อกล่าวหาที่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ออกมาตอบตลอด การตอบน้อยไม่ได้เกิดประโยชน์ ผู้ถูกอภิปราย ท่านสูญเสียโอกาส เวลาสมาชิกอภิปราย มีอยู่หลายเรื่อง คือ 1.ไม่ตอบ เงียบไปเลย เช่น การตั้งที่ปรึกษามาจากธนาคารกรุงไทย ที่สร้างความเสียหาย 2.ตอบแต่เบี่ยงเบนประเด็น ถามเรื่องชดใช้ค่าเสียหาย ไปตอบจำนำข้าวต้องใช้หนี้ไป12ปี ขอนำภาษาสื่อมาบอก ถามวัวตอบควาย และมีอีกเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อสมาชิกอภิปรายเสร็จ ลุกขึ้นมาตอบทันที พร้อมแผ่นชาร์ต มาตอบทันที ก็เป็นเรื่องแปลก รู้ได้อย่างไร คนอื่นบอกว่า ข้อสอบรั่วหรือไม่ มั่นใจว่าไม่รั่ว สันนิษฐานว่า ท่านเองรู้แนว แต่ก็ไม่ตรงกับที่เขาถาม
การตอบ นายกฯมักมีถ้อยคำ พูดกับผู้อภิปรายว่า ไม่ให้เกียรติ ไม่สุภาพ กล่าวหารุนแรง เพราะการอภิปราย กล่าวหาว่าท่านกระทำผิด ทักษะลีลา เลยเป็นเหมือนที่ท่านทำผิด เหมือนการแสดงละครนั้นใช่ แต่ทำจริง พอหมดหน้าที่ เราก็เป็นเพื่อนกัน พวกกัน แต่เมื่อประชาชนเลือกเข้ามาทำหน้าที่เหมือนกัน แต่บทบาทต่างกัน เป็นธรรมชาติ แต่ว่าสิ่งที่แปลก เวทีแห่งนี้ในยุคหลัง หลายคนออกจากสภาฯไปแล้ว ไม่มองหน้ากัน
คำตอบสำคัญ ถ้าไม่ตอบ ถือว่า ยอมรับ เป็นไปตามที่กล่าวหา ถ้าไม่มีน้ำหนัก เราก็ถือว่าได้เปรียบ เหมือนกับแถลงการณ์ปิดคดี ที่ศาลบอกว่า ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ รับฟังได้ จึงสั่งจำคุก แต่ของเราไม่ใช่ เราอยากเห็นการยกมือไม่ไว้วางใจ อยากที่เห็น
การอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในพฤติการณ์การทำหน้าที่ การบริหารราชการแผ่นดิน ขอนำประเด็นที่กล่าวหา การตอบชี้แจง รัฐมนตรีแต่ละคนที่เป็นประเด็นสำคัญ เพื่อให้สมาชิกพิจารณาว่า จะลงคะแนนหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อภิปรายโดยเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสนใจมาก สมาชิกหลายคนถามว่า ก็ถามหาว่า รมว.พาณิชย์ไปไหน หลายคนบอกว่า ไปไอซียู เขาตัดสินใจไปแล้ว เรื่องทุจริตถุงมือยาง ผู้อภิปรายชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร คลิปเสียง หรือภาพถ่าย การทุจริต การทำสัญญาลวง เพื่อเอาเงินอคส.ออกมาใช้ 2พันล้านบาท เพื่อจัดหาผู้ที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศมูลค่ากว่า 1.2แสนล้านบาท กลไกลนี้ ผู้อภิปรายชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เชื่อมโยงอย่างไร ผู้ที่ทุจริต ต่างอยู่ใกล้ชิดกับ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์อย่างแนบแน่น เหตุการณ์เกิดสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่ง เหตุที่บอกว่าอยู่ในไอซียู เพราะตอนที่ท่านชี้แจง ทำไมกระดาษที่ท่านถือ มันสั่น ประเด็นที่ท่านตอบ กล้าพูดว่า อยู่ในไอซียู เพราะยอมรับโดยสุจริตใจว่า มีการทุจริตจริง ที่บอกว่าจะจัดการ ดำเนินการให้ถึงที่สุดกับผู้นั้นๆ ยอมรับว่า ทุจริตจริง
ผู้ที่ทุจริตอยู่ใกล้ชิด สนิทสนมกับท่าน ไม่ชี้แจง บอกว่า รู้จักแล้วทำไม คนทำผิดกฎหมายไม่ถูกลงโทษหรืออย่างไร ไม่ได้ชี้แจงต่อการทุจริตเลย เพราะจำนนต่อหลักฐานแล้ว เสียดาย เสียใจ ท่านเป็นรัฐมนตรีเป็นแค่ นายไปรษณีย์ในการแต่งตั้งประธานบอร์ด ไม่มีอำนาจแต่งตั้งอคส. สิ่งที่ท่านชี้แจง ถ้าเปรียบเป็นไปรษณีย์แค่นั้น ถ้าเป็นนายกฯจะพิจารณาคนแรก คงไม่อยากให้มาเป็นแค่ ไปรษณีย์ แต่ต้องกำกับดูแล ไม่ใช่ถือไปให้ครม.แต่งตั้งบอร์ด ท่านตอบไม่ชี้แจง ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ศาลตัดสินเลย จำคุก ถ้าเป็นคุกการเมือง ต้องยกมือไม่ไว้วางใจ
คนที่สองคือ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ เรื่องทุจริตขุดลอกคูคลอง ของอผศ. แม้เกิดตั้งแต่ปี 2558 เลยเอามาเป็นประเด็น เป็นข้อกล่าวหา โดยนส.นภาพร นายวิสาร นายนิคม และตน ท่านตอบเพียงว่า ไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวกับผม เท่ากับ ยอมจำนนต่อหลักฐาน เพราะไม่ชี้แจง แต่ผมมีหลักฐานที่จะนำเรียนต่อประธาน ที่เกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร ปล่อยปละละเลยให้เกิดอย่างไร คนที่อยากหารายได้พิเศษ ก็ไปขอขุคลอก ผ่านกระทรวงการคลัง แล้วครม.มีมติอนุมัติ ให้อผศ.ไปขุดลอก โดยเงื่อนไขต้องดำเนินการเอง ห้ามผ่านช่วง แต่เมื่อระเบียบไม่ห้าม ก็ทำสัญญาเช่าเครื่องมือ แต่กระบวนการหลังจากนั้น บริษัทนายหน้า ประจำภาคมีผู้รับเหมาช่วงไปดำเนินการ เรื่องมันแดง มีการฟ้องร้องกัน มีบริษัทหนึ่งที่ไปรับเหมา ถูกปลอมไปรับเช็ค เลยไปร้องต่อกองปราบ ไปร้องต่อรมว.กลาโหม คือ พล.อ.ประวิตร ในขณะนั้นด้วย แต่คดีเงียบ ไม่มีการสานต่อ เป็นเรื่องแปลก มีการออกระเบียบรองรับเงินทอนได้ร้อยละ10 จาก 2400 ล้านบาท คือ 240 ล้านบาท แต่การรับเหมาช่วง มีเงินทอนอีกร้อยละ 52 เหลือ 48 บาท เอาไปขุดลอก ที่เหลือคือ ปักป้ายแปะ หากินกับน้ำ หลักฐานแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเกิดในสมัยท่าน
ข้อกล่าวหานายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ในประเด็นที่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่สมาชิกอภิปราย แต่การที่ท่านชี้แจง ไม่มีน้ำหนักมากพอ ที่ทุกคนพูดกันไม่หยุดคือ การแต่งตั้งเลขาธิการเลขาสกสค. ท่านไม่ได้ชี้แจง บอกว่า ทำถูกต้องตามระเบียบ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ แต่สิ่งที่ถูกชี้คือ การตระเตรียม การออกระเบียบ และประเด็นการส่อไปในทางทุจริต การเตรียมแก้ไขระเบียบกฎเกณฑ์ เพื่อให้คนใกล้ชิดเข้าสู่ตำแหน่ง เป็นการเอื้อประโยชน์พวกพ้อง เลขาสกสค. ก็เป็นความจงรักภักดี ก็มาให้ข้อมูล แต่ก็ไม่ว่ากัน แต่การแต่งตั้งชัดเจน มีที่มาที่ไป รวมทั้งรองเลขาธิการสกสค. ต้องดำเนินการต่อ จงใจทำผิดกฎหมายปปช.มาตรา127 และ 126(4) และประเด็นองค์การค้า คุรุสภาฯที่เป็นหน่วยงานในสกสค. มีอำนาจพิมพ์หนังสือ
ขณะนี้การพิมพ์หนังสือ ที่เป็นหน้าที่องค์การค้า ต้องพิมพ์ส่วนใหญ่ สมัยท่านไปจ้างบริษัทภายนอก 100ละ100 กลไกลที่ทำมา บอกว่าขาดทุนเลยต้องเปลี่ยนโครงสร้าง ลดกำลงคนภายใน จะได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ดีขึ้น แต่ไปจ้างคนนอก เอาค่าใช้จ่ายมาควบรวมก็แพง ก็สูง ที่สำคัญไปกำหนดแนวทางที่จะมีแนวทางจัดพิมพ์มากขึ้น เช่น กำหนดราคากลางสูงขึ้น เพื่ออะไรไม่ทราบ ท่านก็พยายามยกเลิก พนักงานนับพัน เหลือประมาณ 200คน แม้จะจ่ายเยียวยาไปแล้ว แต่สิ่งที่น่าแปลก แม้องค์การค้าอยู่ภายใต้สกสค. เวลาจ่ายเงินค่าพิมพ์ องค์การค้าไปกู้เงินสกสค. แต่เวลาจ่าย สกสค.ไปจ่ายที่โรงพิมพ์ มีปัญหามาก สตง.ก็กำลังตรวจสอบ แต่ในประเด็นนี้ ท่านชี้แจงไม่ได้ ไม่ควรได้รับการไว้วางใจจากสภาฯ
เงินครู กองทุนสนับสนุนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ เงินสมทบ แต่ไม่ได้ชี้แจง ประเด็นที่ยึดเงินไป โดยเอาไปใช้หนี้ องค์การค้า ก็ชี้แจงไม่ชัดเจน ไม่อาจไว้วางใจให้เป็นรมว.ศึกษาธิการ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพื่อเอื้อกลุ่มทุน ท่านอ้างว่า ทำได้ และมีคำพูดตอบว่า กล่าวหาว่า รับประโยชน์ แล้วท่านบอก ใครได้ประโยชน์แล้วผิดกฎหมายอะไร กรรมเกิดจากการกระทำ แล้วผลการทำนั้นจะเห็นชัด แม้อยู่ในศาลปกครอง ก็ไม่รอ กลับรีบปรับเกณฑ์เพื่อจะเปิดประมูลใหม่
รัฐมนตรีถูกกล่าวหาเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ ที่ดิน ที่อ.จะนะ และก่อนหน้าก็มีปัญหาสมัยในนายกฯอบจ. หัวหน้าพรรคบอกว่า ถ้าเจอคนทุจริต จะจัดการทันที ขอฝากให้ไปดูด้วย แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมท่าน ในการต่อสู้ด้วย ส่วนตัวผมกับท่านสนิทกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันหลายเรื่อง แต่เราก็ทำหน้าที่ ไม่ได้โกรธเคืองกัน เพียงแค่ประเด็นนี้ คือ ผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มันชัดเจน
พระเอกของงาน นายกรัฐมนตรี ถูกอภิปรายทุกวัน ตามข้อกล่าวหาที่อยู่ในญัตติถึงครึ่งหน้ากระดาษ ข้อกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ แม้ไม่มีใบเสร็จ คำว่าใบเสร็จทางการเมือง คือ ใบเสร็จบุคคล พยาน เรื่องแรก ที่นายกฯไม่สมควรเป็นนายกฯ คือ คำอภิปรายคือ นส.จิราพร สินธุไพร ที่ได้กล่าวหา คดีเหมืองทองอัครา ใช้อำนาจโดยมาตรา44 ไปยึดคืนหรือปิดเหมือง แต่ถ้อยคำใน คณะอนุญาโตตุลาการ ใช้คำว่า การยึดหรือเวนคืนมาเป็นของรัฐ ซึ่งเป็นข้อห้าม ข้อตกลงการค้า ไทย-ออสเตรเลีย ใช้กฎหมายพิเศษตามอำเภอใจ เป็นเหตุให้ถูกฟ้อง กระบวนการเข้าต่อสู้ ข้อพิพาท ตอนนี้การไต่สวนข้อพิพาทเสร็จแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้คือ ต่อรอง ไกล่เกลี่ย ก่อนที่จะมีการเขียนคำชี้ขาดที่จะออกใน1-2เดือนนี้ เขาเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งหลักฐานมัดแน่น คณะเจรจาทำเรื่องนี้ แม้จะประชุมลับ แต่ก็ไม่มี คือการยกที่ให้ยุติ แลกกับการถอนฟ้อง สำรวจแร่ ล้านไร่ที่ เพชรบูรณ์ เพื่อรอการถอนฟ้อง แต่นายกฯตอบไปเรื่อง จำนำข้าว
และยังมาย้อนสัญญาณอันตราย โรคหลงตัวเอง ในข้อ18 ที่ไม่ทุจริตจนชาชิน เป็นการกล่าวหาพวกผม ทุจริตจนชาชิน เป็นหลักฐานมัดแน่น ตอบก็ไม่ชัดเจน ชี้แจงก็ไม่ได้ ทำไมต้องเอาทรัพยากรของเราไปแลกเพื่อปกป้องความผิดตัวเอง ชายชาติทหารน่าจะอาย เท่ากับ เสียแผ่นดิน ชายชาติทหารเมื่อก่อน เอาชีวิตปกป้องแผ่นดิน แต่โลกกลับตาลปัตรกัน
เรื่องการส่งส่วย ก็ยอมรับว่ามี ข้อกล่าวหาคือ ปล่อยปละละเลย ยอมรับว่ามี ท่านไม่มีความรู้ ความสามารถไปจัดการเรื่องนี้ได้ ไม่ควรเป็น นายกรัฐมนตรีต่อไป บอกว่าร้อยนายกฯก็แก้ไม่ได้ เป็นคำพูดก็เหมือนเป็นนายกฯคนอื่น ถ้าไม่มีโควิด เรื่องนี้ ก็ฝังแน่นไป ขอบคุณโควิด พิชิต ความเหลวแหลก ล้าหลัง ไร้ประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดินพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ความล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องเศรษฐกิจ ต่อเนื่องการระบาดโควิด การบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ เยียวยาไม่เหมาะสม เห็นคนในชาติเหมือนไก่ เงินเยียวยาที่มี เหมือนข้าวเปลือก โยนไปเหมือนให้อาหารไก่ ตัวไหนแข็งแรงก็ได้กิน ไก่ไม่แข็งแรง ถูกดีดอยู่วงนอกทั้งหมด ท่านก็รู้อยู่ คนอีก2ล้าน ต้องมาลงทะเบียน รู้ว่ามีเวลา 15-25ก.พ. รมว.คลังออกมาบอก ขาดการประชาสัมพันธ์ เกิดภาพรันทด เป็นสิ่งที่เราไม่อาจไว้ใจพล.อ.ประยุทธ์ พาประเทศไปสู่หายนะ
การเยียวยา ญี่ปุ่น เกาหลี เขาให้เป็นเงินสด ตรงกับความต้องการ ที่เขาจะเอาไปใช้ในวิถีชีวิตของเขา ของเราบอกว่าอยากจะพัฒนาจ่ายผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง บอกว่าครอบคลุมหมด ภาพเหมือนดีมาก แต่วิธีการคิดแบบนี้ ก่อผลร้าย มันเกิดลักษณะ โกงออนไลน์ ชาวบ้านมีบัตร ไปเสียบไปรูดได้ของแลกมา เจ้าของร้านใช้กลไกล เขาเอาไปร้านที่รูดสินค้า วงเงิน 1,000 บาทเขารับหมด ไปขายให้อีกร้านขอ 800 บาท ต้องการไปจ่ายค่าเทอมให้ลูก เอาไปซื้อยารักษา
แต่ที่โกงระดับชาติ ระดับรัฐบาล คือการใช้แอพแบบนี้ ตรวจสอบไม่ได้ เม็ดเงินที่ใช้ไปไหน ที่ทำคิดว่าดี แต่ส่งผลร้ายต่อประชาชน การค้าออนไลน์มีมูลค่า 4 ล้านล้านบาทต่อปี คนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือ จีน การใช้แอพ ถ้าไม่มีคิด ปรับปรุงใหม่ เราก็ตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจ ในแง่เศรษฐกิจ รัฐบาลนี้ ไม่มีมาตรการกำหนดราคาสินค้าชัดเจน ทำให้พ่อค้าขึ้นราคาได้ตามอำเภอใจ สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้คือ ค่าแรง ขึ้นยากมาก สวนทางกัน ราคาสินค้าขึ้น ค่าแรงต่ำ
เรื่องวัคซีน เป็นปัญหาของประเทศ การจัดหาวัคซีน ไม่เปิดโอกาสให้มีทางเลือกของประชาชน ปิดกั้นทางรอดประชาชน เราสามารถฉีดวัคซีนได้2ยี่ห้อ คือ แอสตร้า ซิเนก้า กับ ซิโน แวค เพราะว่ากลไกลจัดหาวัคซีน เราต้องขบวน ตรงนี้เป็นความด้อย คาดการณ์มองมิติใด มิติหนึ่งมากเกินไป วัคซีนต้องเร็ว กว้าง ไม่ควรปิดกั้นภาคเอกชนที่จะเข้ามา
เรื่องค่าโง่โฮปเวล นายสุทิน คลังแสง เปิดประเด็นไป มีการกำหนดวันหมดอายุที่ต้องชดใช้ การรับผิด การละเมิดของเจ้าหน้าที่ เรื่องนี้ คำตอบ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องบอกว่า ยังไม่ได้ดำเนินการหาตัวผู้ทำผิด มารับผิด เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต่อหน่วยงานรัฐเอง และกล่าวหา รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ เพราะออกคำสั่งยกเลิก เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ศาลปกครอง ไม่มีการแต่งตั้งกรรมการหา ผู้กระทำความผิด อายุความจะหมดเดือนเมษายน ต้องหา ผู้รับผิด ถ้าไม่แต่งตั้งกรรมการหาผู้รับผิด ก็เป็นความผิดท่าน
เรื่องการจัดซื้อ จัดจ้าง เครื่องแต่งการในกองทัพ และก็ไม่สามารถชี้แจงได้ บอกว่าเป็นไปตามกลไกล เพราะเมื่อไปดู การกำหนดคุณสมบัติ สเปค ผู้รับซื้อ รับจ้าง ไปในทางแสวงหาผลประโยชน์
เรื่องสุดท้าย เข้าไปมีส่วนร่วมแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการตำรวจที่เอื้ออำนวย ไม่ได้เป็นไปตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณธรรม คุณสมบัติอาวุโส และก็ไม่สามารถตอบตามข้อกล่าวหาว่า มีผลประโยชน์หรือไม่ รวมทั้งเรื่องตั๋ว ที่คนเขารู้ว่า ใครมีตั๋ว ก็ผ่าน
ผลเหล่านี้เป็นการกัดเซาะ บ่อนทำลาย โอกาสจะก้าวไปข้างหน้ามีแต่ หายนะ พฤติการณ์ของนายกฯและรัฐมนตรี เอามาขยายบางประเด็น แต่ทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีคำชี้แจง หรือคำตอบที่น่าพึงพอใจเลย ถ้าปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์และอีก9รัฐมนตรีทำงานต่อไป กระบวนการที่จะร่วมกันคิด แบ่งหน้าที่กันทำ ร่วมกันรับประโยชน์ จะคงดำรงอยู่กับประเทศชาติบ้านเมืองเรา ในภาวะวิกฤติแบบนี้ ประชาชนจะเป็นอย่างไร ต้องช่วยกัน สภาแห่งนี้ หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ อยากจะขอร้องไปที่จิตสำนึก เชื่อว่าท่านรักประเทศ จงรักภักดีสถาบันสูงสุด อยากเห็นลูกหลานมีอนาคต ที่ผ่านมา 7-8 ปี จบแค่นี้ อย่าให้ขยายต่อ นายกฯมองมาที่ระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขอใจท่าน ไม่พูดว่า เข้าสู่อำนาจอย่างไร เราให้อภัยท่าน ถ้าเริ่มคิดตั้งแต่วินาทีนี้ ส.ส.ในฐานะผู้ลงคะแนน กลับไปตรึกตรอง เว้นวรรคไปหนึ่งวัน มาลงคะแนน เพื่อให้ไปตรึกตรอง เรามาช่วยกัน ใช้วิถีทางตามรัฐธรรมนูญ เป็นตัวขับเคลื่อนด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ
ฝากไปยังนายกรัฐมนตรี กรอบความคิดที่ร่วมทำ ร่วมคิด ทำลายล้างระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คืนอำนาจให้ประชาชน เป็นทางรอด จะแก้วิกฤติที่รายล้อมอยู่ นายกฯตัดสินใจ มาธำรงรักษาไว้ เป็นการลงทุนที่น้อยมาก ไม่มีความสูญเสียเลย
ประธานก็อยากเห็นบ้านเมืองนี้ มีความผาสุข อยากเห็นสภาฯทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ขอนำจุดมุ่งหมาย ประธานวิปฝ่ายค้านเสนอไว้ ความมุ่งหวังอยากให้มีประชาธิปไตยแท้จริง พรุ่งนี้ มุ่งหวังสูงสุด ยกมือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทุกท่าน ตั้งแต่นายกฯเป็นต้นมา จะได้มีนายกฯ ครม.ชุดใหม่ เลือกจากรัฐสภาฯ นายกฯไปแต่งตั้งครม.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ต่อ แต่ความมุ่งหวัง คงไม่เกิด ที่หวังใจว่าไปตัดสินใจ อาจจะน้อยไป เสียงจะออกมาว่า ไว้วางใจ แต่ความไว้วางใจ จะมีนัยยะคือ การปรับคณะรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีหลายคน ที่แม้ไว้วางใจมีคะแนนเพียแค่ผ่าน จาก 487 ผ่าน 242 ท่านได้ แต่จะเป็นคะแนนไปบีบให้ พล.อ.ประยุทธ์ มองว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูด จะเปลี่ยนการทำงานเพื่อบ้าน เพื่อเมือง รัฐมนตรีที่ถูกปรับออก อย่าน้อยใจ ออกเพราะสภาฯ มีศักดิ์มีศรีมาก
หากนายกฯ รัฐมนตรีอยู่เหมือนเดิม ก็เปลี่ยนวิธีคิดเห็นแก่ชาติ ประชาชนมากขึ้น ปัญหาที่เกิดมา อย่าได้เพิกเฉย จะแก้ปัญหาใดๆ อดีตนายกฯประกาศสงครามความยากจน ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นการทุ่มเท เฉพาะเจาะจง เอาชนะให้ได้ ใช้ภาวะผู้นำเข้าไปสู้ ใช้กระบวนการภาครัฐไปสนับสนุนอย่างเต็มที่ เม็ดเงิน งบประมาณที่มี ก็ใส่เต็มที่ ไม่ต้องมาเกลี่ยๆ เป็นเตี้ยอุ้มค่อม
โควิดมีปัญหาก็ต้องสู้เต็มที่ ไปคลุกคลีกับมัน อดีตนายกฯเคยมี เคยทำแล้ว ไม่ได้หวงห้าม เอามาใช้ได้ และทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานขององค์ความรู้ สิ่งที่ล้มเหลวคือทำงานบนพื้นฐานไม่มีข้อมูลสนับสนุน เช่นการเยียวยา ประกาศสงครามเลย ทุ่มเทอย่างถึงที่สุด แม้ไม่เกิด3เรื่องนี้ ก็หวัง ตามเวลาปกติอีก2ปีข้างหน้า ให้ประชาชนตัดสิน การอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นไฟสุมขอน สุมเข้าไป ประชาชนจะเห็นว่า เรื่องโควิด ความเหลื่อมล้ำ เขาจะตัดสินวันที่เขามีโอกาสในอีก2ปี ซีกนี้อาจไปอยู่ซีกโน้น ก็หวังว่า ประธานจะมาอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน
พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด ไม่อาจไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นรัฐมนตรีทั้ง9ท่านและนายกรัฐมนตรี เพื่อนสมาชิก ถ้าตรึกตรองเห็นคล้อยดีแล้ว มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง
เวลา 23.10 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาฯ และสั่งปิดประชุม พร้อมทั้งกำหนดเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.พ. เพื่อมาลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |