19 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 18.25น. นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกรทะรวงมหาดไทย ร่วมกันสมคบคิดแย่งอำนาจไปจากประชาชน โดยการทำรัฐประหาร ทำต่างชาติไม่คบค้าสมาคม ทำลายระบบเศรษฐกิจ ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุนบางกลุ่ม ทำรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจของตัวเอง โครงการต่างๆของรัฐบาลมีการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ขาดการกำกับดูแล มีการเซ็นรับงานทั้งที่โครงการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เช่น โครงการชุดบ่อน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งที่หลักฐานปรากฎในหลายจังหวัด
นอกจากนี้ในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 ปี ของพล.อ.ประวิตร มีการทำผิดกฎหมาย โดยนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย หรือเจ้าพ่อเหล็กไหล มอบเหล็กไหลเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดให้พล.อ.ประวิตร ดังนั้น พล.อ.ประวิตร จึงเข้าข่ายขัดหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่คำนวนเป็นเงินได้ ที่ห้ามไม่ให้พนักงานของรัฐรับทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากกว่า 3,000 บาท หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายคทาเทพได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน และประเมินมูลค่าทรัพย์สินของตนไว้แล้วซึ่งมีมูลค่าสูงหลายสิบล้านบาท จากพยานหลักฐาน ราคาเหล็กไหลจึงมีมูลค่าสูงเกินกว่า 3000 บาทที่พนักงานราชการจะรับได้แน่นอน
ทั้งนี้ ตนจะส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยให้พล.อ.ประวิตรพ้นจากตำแหน่งเป็นการเฉพาะตัว และจะขอให้ป.ป.ป.ไต่สวนกรณีการทุจริตต่อหน้าที่ และดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป
นายนิคม กล่าวว่า ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องที่ดิน ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ท่านออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์นายทุน การออกประกาศฉบับนี้ ทำให้มีกลุ่มการเมือง และนักการเมืองหลายคนไปกว้านซื้อที่ดิน สปก. เหล่านี้หมดแล้ว มีการสร้างโรงงานน้ำตาลเพื่อรับซื้อผลผลิตของชาวบ้านมาทำน้ำตาล แต่ผิดวัตถุประสงค์ ที่ต้องจัดสรรให้พี่น้องเกษตรที่ไม่มีที่ดินทำกินำไปใช้ประโยชน์ ไม่ใช่นำมาใช้ประโยชน์เอื้อนายทุนแบบนี้ นักการเมือง นายทุนได้ประโยชน์ แต่พี่น้องประชาชนเสียประโยชน์ จึงไม่อาจไว้การทำหน้าที่ของร.อ.ธรรมนัส
หลังจากที่นายนิคมอภิปรายจบ พล.อ.ประวิตร ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า “สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด ไม่เป็นความจริง” แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทันที
ขณะที่ รอ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า ในอดีตผู้ที่กำกับดูแลสปก. มีการเปลี่ยนแปลง กำหนดวัตถุประสงค์ของการใช้ที่ดินเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยมาโดยตลอด ส่วนประกาศที่ตนประกาศไป เกี่ยวข้องมาจากประกาศเดิมในอดีต ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบการอะไรทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการระบุวัตถุประสงค์ลงไปให้ชัดว่า อะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ ไม่ให้อยู่ในดุลพินิจกรรมการปฏิรูปที่ดินในจังหวัด ที่จะเป็นช่องทางในการทุจริต จึงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจทำ สิ่งทีได้ทำไป วัตถุประสงค์ เพื่อต้องการให้พี่น้องเกษตรกรหลุดจากกับดักความยากจนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจร.อ.ธรรมนัส มีเพียงนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย คนเดียวเท่านั้นที่ยื่นอภิปรายร.อ.ธรรมนัส โดยระบุข้อกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ปกปิดข้อมูลความจริงที่ควรบอกในการแจงการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลกร่างเถื่อน สร้างอิทธิพลให้บริวารพวกพ้อง เสนอให้มีการแต่งตั้งคู่สมรสเป็น ข้าราชการการเมืองโดยไม่คำนึงถึงคุณวุฒิและความเหมาะสม แต่ปรากฏว่า นายนิคมอภิปรายร.อ.ธรรมนัส เฉพาะเรื่องนโยบายที่ดินส.ป.ก.เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆในญัตติไม่ได้มีการอภิปรายแต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |