19 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการที่มีการแก้ไขใหม่ มาตรา 18 กำหนดให้คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีจำนวน 15 คน ประกอบด้วย ประธาน ก.อ. ปัจจุบันคือนายอรรถพล ใหญ่สว่าง (มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) โดยมีอัยการสูงสุดเป็นรองประธาน ก.อ. ส่วน ก.อ.ประกอบด้วย รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คน โดยตำแหน่ง และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน ซึ่งมาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย ประกอบด้วย อัยการชั้น 5 ขึ้นไปจำนวน 4 คน อัยการที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2 คน รวมเป็น 6 คน นอกจากนี้ยังมี กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 คน ซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นอัยการมาก่อนและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือการบริหารจัดการ (มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) รวมเป็น 15 คน
โดยให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นเลขานุการ ก.อ. ซึ่งกรรมการ ก.อ. ทั้ง 15 คนจะเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาความเหมาะสมแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการ และการพิจารณาดำเนินการทางวินัยและการสั่งลงโทษทางวินัยข้าราชการอัยการที่กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งการพิจารณาออกระเบียบบริหารงานบุคคลอัตรากำลังข้าราชการฝ่ายอัยการ
ทางสำนักงานอัยการสูงสุด ได้จัดให้มีการเลือก ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.ก.อ.ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป 2.ประเภท ก.อ.ผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญ 3. ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ
โดย ก.อ.ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไปมีผู้เสนอตัวเข้ารับการคัดเลือก 12 คน (รับ 4 คน) ประกอบด้วย 1. นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ 2. นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ 3. นางสาวนารี ตัณฑเสถียร 4. นายพรชัย ชลวาณิชกุล 5. นายมานัส รัตนนาคะ 6. นายวุฒิรัตน์ มีผดุง 7. นายศักดา ช่วงรังษี 8. หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ 9. เรือโท สายันต์ สุโขพืช 10. นายสุวิช ชูตระกูล 11. นายอรัญ ทั่งทองแท้ 12.นายอิทธิพร แก้วทิพย์
ประเภท ก.อ.ผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญมีผู้เสนอตัว 3 คน (รับ 2 คน) ประกอบด้วย 1.นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ 2.นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ 3.นายพีระศักดิ์ ศรีสุพล
ประเภท ก.อ.ด้านงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ (ก.อ.คนนอก) มีผู้เสนอตัว 8 คน (รับ 2 คน) ประกอบด้วย 1. ศาสตราจารย์ ดร. กำชัย จงจักรพันธ์ 2. นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร 3. นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล 4. นายณัฐเมศวร เรืองพิชัยพร 5. นายธรรมนิตย์ สุมันตกุล 6. นายนันทวัชร์ สุพัฒนานนท์ 7. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุริยเดว ทรีปาตี 8. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
ทั้ง 3 ประเภทสามารถดูรายละเอียดประวัติได้ตามลิงค์ดังนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม https://www2.ago.go.th/index.php/poll/9/1156
สำหรับ การเลือก ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 มาตรา 18 (4) (ก) (ข) (5) สำนักงานอัยการสูงสุดได้กำหนดให้มีการคละบัตร ส่งบัตร ปิดผนึกหีบบัตร ปิดผนึกช่องใส่บัตร และนับคะแนนการเลือกกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิตามกำหนดการดังนี้
1. การคละบัตรและส่งบัตรลงคะแนนในวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.30 น.ที่ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
2. การปิดผนึกหีบบัตรลงคะแนนในวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. ที่ห้องอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
3. การปิดผนึกช่องใส่บัตรลงคะแนนในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 เวลา 16.30 น. ที่ห้องอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
4. การนับคะแนนในวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จที่ ห้องประชุม 302 ชั้น 3 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือกตั้ง ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิในประเภทที่จะแข่งกันดุเดือด จะเป็นประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป เนื่องจากประกอบไปด้วยอัยการที่มีชื่อเสียงอยู่ในตำแหน่งสำคัญ เคยลงสนามเลือกตั้งในหลายสนามไม่ว่าจะเป็นขององค์กรอัยการหรือเนติฯ มาแล้ว ที่โด่ดเด่น ได้แก่ นายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองภูเก็ตที่เคยสร้างปรากฏการณ์ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 ในสายอัยการ ในการเลือกตั้งเนติฯ จนได้เป็นเลขาฯสำนักอบรมฯ เนติฯ ที่จะมาลงสนามในองค์กรครั้งแรก
หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขาฯ สถาบันนิติวัชร์เป็นหน่วยงานใหม่ในสำนักงานอัยการฯ ซึ่งเป็นมือบริหาร พัฒนาองค์กร และเป็นมือสั่งคดีสำคัญ มีบทบาทในการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบขององค์กรให้ทันสมัย ผลักดันสวัสดิการของอัยการ มีฐานเสียงและ FC กระจายอยู่ทั่ว
น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย และ ก.อ.จากเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาที่มีฐานเสียงเดิมตุนอยู่ อีกทั้งเป็นคิวอัยการสูงสุดต่อจากคนปัจจุบัน 2 รุ่นซึ่งจะเป็นอัยการสูงสุดหญิงคนแรกขององค์กร
นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ โฆษกอัยการใหม่ป้ายแดงที่พลาดฉิวเฉียดจากเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาลงสู้เต็มที่ ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักของน้องๆ อัยการ, นายพรชัย ชลวาณิชกุล ก.อ.เลือกตั้งซ่อมที่มีฐานเสียงคะแนนเดิม, นายสุวิช ชูตระกูล ก็มีเสียงดีได้ใจจากน้องๆ อัยการ, นายวุฒิรัตน์ มีผดุง อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการซึ่งมีฐานะเลขานุการ ก.อ.ก็อยู่วงในในการโยกย้ายแต่งตั้ง ยังมี นายมานัส รัตนนาคะ และเรือโทสายันต์ สุโขพืช ที่ได้พลังหนุนจากเพื่อนในรุ่น ด้าน นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์, ชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ และนายอรัญ ทั่งทองแท้ ขอเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ นับว่าสายนี้คะแนนเสียงคงกระจายกันไป
ส่วนประเภทที่แข่งกันสนุกอีกคงเป็นประเภท ก.อ.บุคคลคนนอก ที่โดดเด่นจะได้แก่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีต รอง ผบ.ตร.นายตำรวจนักกฎหมายที่เป็นที่รู้จักของประชาชนและอัยการที่เคยทำงานร่วมกันมานาน, ศาสตราจารย์ ดร. กำชัย จงจักรพันธ์ ดีกรี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายนิติกรรมสัญญาและกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ, นายณัฐเมศร์ เรืองพิชัยพร อดีต ก.อ. 2 สมัย (ระหว่างปี 2554 -2558) ซึ่งเป็นที่รู้จักของพี่น้องอัยการ รองศาสตราจารย์ นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผ.อ.ศูนย์คุณธรรมที่มีนโยบายพัฒนาองค์กรขึ้นเป็นองค์กรคุณธรรม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |