ไม่มีอะไรในกอไผ่ "วิษณุ" เผยเตรียมตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน "บวรศักดิ์" เป็นประธาน ระบุมิถุนายนนี้ "บิ๊กตู่" ปักหมุดมอบหมาย "ประจิน" ถ่ายทอดว่าทำอะไรไปบ้าง ขณะที่เพื่อไทยตกข่าว ยังคงยืมคำพูด "ดร.ปื๊ด" ยำใหญ่รัฐบาล คสช. 4 ปีมีแต่ล้มเหลว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย ระบุการปฏิรูปติดขัดเพราะระบบราชการว่า ตนพบกับนายบวรศักดิ์บ่อยครั้ง นายบวรศักดิ์บอกให้ฟังอยู่เสมอในเรื่องนี้ ท่านอาจจะบ่นหน่อย แต่เป็นธรรมดา ใจท่านไม่มีอะไรหรอก เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่ ความจริงมันเป็นความรู้สึกคล้ายกันของคณะกรรมการปฏิรูป 11 คณะ ว่าการปฏิรูปเป็นเรื่องยาก
"นายบวรศักดิ์เป็นแชมเปียนในเรื่องการปฏิรูป ได้ตระหนักรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ท่านไม่ได้บ่นในความหมายว่าท้ออะไร และอยากจะทำอะไรอีกตั้งเยอะแยะ มีการเสนอเข้ามาหลายเรื่อง ตอนนี้อยู่บนโต๊ะทำงานผม และโต๊ะทำงานนายกฯ อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเรื่องการปฏิรูปเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ต่างจากปฏิวัติที่ทำใน 24 ชั่วโมง ข้ามคืนได้ แต่ผลจะเป็นอย่างไรไม่รู้"
รองนายกฯ กล่าวว่า ที่มีการพูดกัน การปฏิรูปคงไม่สำเร็จหากจะฝากผีฝากไข้ให้กับส่วนราชการทำนั้น ความจริงไม่ถึงขนาดนั้น นายบวรศักดิ์ตระหนักรู้ในเรื่องนี้ดีว่าการปฏิรูปนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงสังคม สิ่งที่คนเคยชินมาเป็น 100 ปี บางรัฐบาลใช้วิธีทำจากบนลงล่าง บางรัฐบาลใช้วิธีทำจากล่างขึ้นบน แต่ไม่สำเร็จ ระยะหลังเราจับจุดได้ว่าต้องทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน จึงมีคณะกรรมการปฏิรูปเป็นคนคิดแผนปฏิรูป และให้ส่วนราชการทำ เพราะมันเกี่ยวพันกับเขา โดยมีคณะกรรมการปฏิรูปทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบ ว่าส่วนราชการได้ทำตามแผนหรือไม่
ถ้าถามว่า ตั้งแต่ คสช.เข้ามาได้ปฏิรูปอะไรไปหรือไม่ อยากบอกว่าได้ทำอะไรไปแล้วมาก ตั้งแต่ยังไม่มีแผนปฏิรูป และอีกในไม่ช้าคงมีการทยอยชี้แจงแสดงผลกันออกมา นายกฯ จึงมีความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจที่จะบอกว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลยในเรื่องปฏิรูป ถ้าเราดูไปรอบตัวเราหลายอย่างมันมีความเปลี่ยนแปลงที่ได้เริ่มแล้ว เพียงแต่เราอาจจะยังไม่เห็นผลหมดทุกเรื่องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการไปปรับในส่วนของราชการหรือไม่ หลังนายบวรศักดิ์ออกมาท้วงติง นายวิษณุ กล่าวว่า ปรับอยู่แล้ว ซึ่งในเดือน มิ.ย. นายกฯ จะมาปักหมุด โดยได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี คิดว่าจะถ่ายทอดออกไปได้อย่างไร จะดึงเอาบางเรื่องที่ต้องการขับเคลื่อนออกมาถ่ายทอด
เมื่อถามว่า จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน มีนายบวรศักดิ์เป็นประธาน ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมายที่มีหน้าที่วางแผนปฏิรูป แต่คณะกรรมการชุดนี้แยกออกมาต่างหาก เพราะเป็นชุดที่ทำ เนื่องจากบางเรื่องเป็นกฎหมายที่ไม่มีกระทรวงเป็นเจ้าภาพ หรือหลายกระทรวงเป็นเจ้าภาพ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงการปฏิรูปมีความคืบหน้าไปพอสมควร แม้จะมีการติดขัดบ้าง แต่นายบวรศักดิ์มีส่วนช่วยหลายอย่าง เพียงแต่การปฏิรูปไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลง หลายคนไม่อยากเปลี่ยนแปลงตนเอง ตนเชื่อมั่นว่าระยะเวลา 8 เดือนที่เหลือของรัฐบาลชุดนี้ จะมีโครงการที่เกี่ยวกับการปฏิรูปออกมา เช่น สัปดาห์หน้าจะมีเรื่องป่าชุมชนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงจะมีการปฏิรูปโครงสร้างของกระทรวงมี 3-4 กระทรวงที่จะเข้าสู่การปฏิรูป ยกตัวอย่างเช่น จะนำกระทรวงวิทยาศาสตร์มารวมกับสำนักงานอุดมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกระทรวงใหม่ที่ใช้ชื่อว่ากระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย ซึ่ง 2-3 เดือนข้างหน้ากฎหมายจะเสร็จสิ้น เหมือนกับการปรับปรุงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ก่อนหน้านี้ เมื่อก่อนการปฏิรูปกระทรวงทำได้แต่พูด แต่ 8 เดือนหลังจากนี้มันจะเกิดขึ้น
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นความสำเร็จของ คสช. คือการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ยังไม่เห็นว่าการปฏิรูปจะเดินไปในทิศทางใด ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ยังไม่สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้ แม้สํานักงานสถิติแห่งชาติจะมีผลสำรวจระบุว่าประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น 20% แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ที่มีรายได้มากและมีทุน ขณะที่รายได้ของประชากรส่วนใหญ่ 80% ยังอยู่ในระดับเดิม และไม่ขยับขึ้น หรือยากจนกว่าเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นกระจุกตัวอยู่ในหมู่คนรวยเท่านั้น
"แม้ คสช.จะอ้างว่าการปฏิรูปต้องใช้เวลา แต่ตัวเองก็ได้เตือนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการปฏิรูปจะเป็นการเสียเวลา ซึ่งทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ต้องใช้เวลา 2-3 ปี ในการจัดทำแผนปฏิรูป แต่ก็ไม่สามารถผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ เพราะไม่มีอำนาจออกกฎหมายใดๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้เวลาศึกษาและจัดทำแผนการปฏิรูปเป็นปี และเพิ่งได้มีการทำอย่างจริงจังในช่วงท้ายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการจัดทำแผนปฏิรูปใหม่ ซึ่งเหมือนกับเป็นการเริ่มต้นใหม่" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ต้นเหตุที่ปฏิรูปไม่เกิดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้เลยว่าได้เกิดการปฏิรูปในเรื่องใดบ้าง ที่ยกตัวอย่างมาอวดอ้างว่าเป็นการปฏิรูป ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทำงาน ไม่ได้เป็นความสำเร็จมากมายอะไร เช่น รถไฟทางคู่ 4 ปียังทำได้ไม่ถึงสามกิโลเมตร การทำประปาเข้าหมู่บ้าน การทำถนนในท้องถิ่นเป็นเรื่องดี แต่ก็ยังทำได้ไม่มาก เพราะว่าเอางบประมาณไปใช้ด้านอื่นเสียมากกว่า ที่ยกตัวอย่างเรื่องการออกกฎหมายเพียงบางฉบับก็ยิ่งทำให้เห็นว่าที่นายบวรศักดิ์พูดว่าการปฏิรูปกฎหมายไม่คืบหน้าเป็นเรื่องจริง
นอกจากนั้น ที่ยกตัวอย่างเรื่องการปฏิรูปการบุกรุกป่า การจัดการปัญหาที่ดิน บริหารจัดการน้ำ ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราว ที่น่าตกใจคือ พล.อ.ประยุทธ์ยกความสำเร็จในเรื่องการทำประโยชน์ให้แก่เกษตรกรและคนยากจน รวมทั้งยกตัวอย่างโครงการไทยนิยม สวนทางกับผลโพลที่เพิ่งจะออกมาระบุว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักโครงการไทยนิยม
"การปฏิรูปเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเข้าสู่อำนาจของคสช. และเป็นข้ออ้างเพื่ออยู่ในอำนาจตลอดมา และกำลังเป็นข้ออ้างที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป ที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาพูดในครั้งนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่าผู้ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ไม่เกิดการปฏิรูปใดๆ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ไม่รู้แม้แต่ความหมายของการปฏิรูปนี่เอง" นายจาตุรนต์ระบุ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการปฏิรูป 4 ปีของรัฐบาล คสช.ว่า อย่างที่เคยบอกไว้ตั้งแต่ตอนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส.เขามาเรียกร้องให้ปฏิรูปแล้วว่า การปฏิรูปนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา และต้องได้การมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีทางอยู่แล้วที่จะทำเสร็จในเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องเห็นความคืบหน้า
“ถามว่าในเวลา 4 ปี ถ้ามีความตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปจะต้องเห็นผลในระดับหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่เราเห็นในขณะนี้ ความก้าวหน้า หรือความคืบหน้าในเรื่องของการปฏิรูปนั้น เรียกว่าแทบจะไม่ได้ไปไหนเลย ผลงานที่ออกมาน้อยกว่าระยะเวลาที่ผ่านไป” นายพงศ์เทพกล่าว
มีรายงานว่า วันที่ 17 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. แกนนำพรรค พท. นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายนพดล ปัทมะ, นายวัฒนา เมืองสุข เป็นต้น จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรื่อง “4 ปี คสช. นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย” ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การบอกว่ารัฐบาลพร้อมรับผิดชอบอยู่แล้วหากการปฏิรูปล้มเหลว อยากถามว่ารัฐบาล คสช.จะรับผิดชอบอย่างไร ลาออก หรือจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลหลังเลือกตั้งมาขับเคลื่อนการปฏิรูปต่อ หรือรับผิดชอบโดยการตำหนิคนเห็นต่าง แล้วก็ทำเหมือนเดิมโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ที่ขณะนี้ถูกมองว่า 4 ปีล้มเหลวว่า ในฐานะที่อยู่หน่วยปฏิรูปประเทศมาตั้งแต่ สปช. มา สปท.ต้องบอกว่าคนที่เข้ามาทำหน้าที่มีความตั้งใจ และต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ให้สำเร็จ แต่ทุกอย่างล้วนมีข้อยุ่งยากและอุปสรรคที่ต้องฟันฝ่าผ่านไปให้ได้หลายระดับ รวมถึงความเคยชินของระบบราชการเดิม ผลประโยชน์ที่คนมีหน้าที่เคยได้รับ การใช้อำนาจเหนือประชาชน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น
"จึงต้องทำความเข้าใจกันว่า การปฏิรูปมีความหมายตามพจนานุกรมว่า การปรับปรุงอย่างเหมาะสมหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ" นายเสรีกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |