"แรมโบ้" นำทีมฝ่าย กม. แจ้ง ปอท.ดำเนินคดี "อมรัตน์" ส.ส.ก้าวไกล ผิด "พ.ร.บ.คอมพ์-ม.112" ชี้หลักฐานชัดโพสต์โจมตีนายกฯ และจาบจ้วงสถาบัน แถมเป็นนายทุนหนุนม็อบ 3 นิ้ว ปัด "บิ๊กตู่" สั่งจับ "พิธา" โวยปิดปากฝ่ายค้านลั่นพร้อมสู้คดี "สุเทพ" ฟ้องศาล "สุทิน” หมิ่นฯ อภิปรายพาดพิงเรื่องโฮปเวลล์ ยันโดนใส่ร้าย

    ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) วันที่ 18 ก.พ. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี, นายทศพล เพ็งส้ม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และคณะทีมวอร์รูมฝ่ายกฎหมาย ของคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.สอบสวน บก.ปอท. และ ร.ต.ท.นัฐพล ทะเลน้อย รอง สว.สอบสวน กก.3 บก.ปอท. แจ้งความดำเนินคดีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 และประมวลกฎหมายอาญา ม.112
    นายสุภรณ์กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายและวอร์รูมรัฐบาลนำหลักฐานเป็นการโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอของนางอมรัตน์ ในการอภิปรายที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกทั้งเกี่ยวข้องสนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมาย ม.112 ด้วยการไปร่วมชุมนุมและให้ทุนม็อบของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายอานนท์ นำภา มาแล้วหลายครั้ง จึงต้องมาแจ้งความต่อ ปอท. เพื่อทำให้เป็นบรรทัดฐาน และไม่ให้เป็นแบบอย่างกับ ส.ส.รายอื่นๆ รวมถึงเยาวชน
    ส่วนนายทศพลเสริมว่า การแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้เป็นการปิดกั้นการอภิปรายในสภา แต่การอภิปรายต้องเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเท็จ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดำเนินคดีนางอมรัตน์คนเดียวก่อนส่วนรายอื่นๆ จะดูตามพยานหลักฐานเพิ่มเติม
    ขณะที่นายพิธา? ลิ้มเจริญรัตน์? ส.ส.บัญชีรายชื่อ? และหัวหน้าพรรคก้าวไกล? กล่าวว่า ในการอภิปรายของนางอมรัตน์ มีคำถามต่อเรื่องของภาษี การไม่จ่ายค่าน้ำ?ค่าไฟของนายกฯ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ตอบโดยตรง นายวิษณุ? เครืองาม? รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ตอบโดยตรง เราไม่ได้พูดเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นนายกฯ ต่อได้หรือไม่ แต่เราพูดเรื่องศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยกรณีของค่าน้ำ ค่าไฟ ภาษี และการรับผลประโยชน์เกิน 3,000 บาท
    "เมื่อถามไปก็ไม่มีการตอบ แต่จะปิดตาด้วยกฎหมายแทน จะเห็นได้ว่านายสุภรณ์?พยายามใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาปิดปากนางอมรัตน์ ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเอกสิทธิ์ในการอภิปรายของ? ส.?ส. ผมได้คุยกับนางอมรัตน์แล้วว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคจะยืนเคียงข้างกับลูกพรรค ดังนั้นให้นางอมรัตน์รีบไปรับคำร้องมา จะได้รู้ว่าถูกร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างไร เพื่อจะได้ให้ทีมกฎหมายของพรรคเตรียมต่อสู้ด้วยข้อกฎหมาย แต่ตอนนี้ที่เราสามารถทำได้ทันที คือจะถามไปยังผู้เสียหายโดยตรงคือนายกฯ ว่าเห็นด้วยกับการกระทำอย่างนี้หรือไม่ และได้มอบอำนาจไปหรือไม่ เพราะการกระทำแบบนี้คิดว่าไม่สง่างามสำหรับชายชาติทหาร และกับคนเป็นนายกฯ ที่จะทำอย่างนี้กับ ส.ส.ที่เป็นสุภาพสตรี" นายพิธากล่าว
    ถามว่าพรรครอบคอบแค่ไหนในประเด็นเกี่ยวกับสถาบัน ?ได้มีการกำชับอะไรหรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า นี่คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐบาล ดังนั้น?การจะพูดอะไรเรายึดตามญัตติและข้อบังคับ เรามีวุฒิภาวะด้วยเหตุด้วยผล และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งวุฒิภาวะคนมาเป็นผู้แทนราษฎร เราไม่ตระหนกกลัว แต่จะทำหน้าที่เต็มที่
    "เราไม่ได้อภิปรายสถาบัน แต่อภิปรายนายกฯ รัฐบาลและวิธีปฏิบัติของรัฐบาล ส่วนการจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ แต่ก็ต้องถามกลับว่าเสียหายเพราะอะไร ซึ่งเราต้องสู้ การฟ้องปิดปากกลั่นแกล้งหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเหตุเป็นผล มีวุฒิภาวะ และไม่ทำให้สถาบันเสียหายแน่นอน" หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าว
    ด้านนางอมรัตน์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า   "อยากให้เล่นในกติกา ด้วยการหาหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาของส.ส.ฝ่ายค้าน ตามกลไกการตรวจสอบของระบบรัฐสภามากกว่า"
    อย่างไรก็ตาม นายสุภรณ์ให้สัมภาษณ์กรณีถูกกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์สั่งให้ไปแจ้งความนางอมรัตน์ว่า พฤติกรรมของนางอมรัตน์อภิปรายแล้วไม่จบ ยังไปโพสต์ต่อที่บ้านในเพจส่วนตัว กล่าวหาโจมตีนายกฯ และยังพยายามจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันตลอด ตนมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งทีมวอร์รูมมีหลักฐานหลายชิ้น และมีคลิปที่บันทึกเสียงไว้เรียบร้อย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่านางอมรัตน์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มของแกนนำกลุ่มราษฎรในการชุมนุมล้มล้างสถาบัน หรือจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน
    "การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้เป็นการสกัดกั้น แต่เป็นลักษณะการที่ปากของนางอมรัตน์พาไปหาคุกเอง เพราะการกล่าวหรือการโพสต์ต่างๆ ไม่มีความระมัดระวัง โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กจะเห็นชัดเจนว่าจะมีคำว่ากล้ามาก เก่งมาก ซึ่งมีเกือบทุกเพจ เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะเหมือนเป็นการล้อเลียนหรือหมิ่นสถาบันชัดเจน ไม่เหมาะสม ถือเป็นพฤติกรรมของ ส.ส.ที่ปากพาไปหาคุกเอง" นายสุภรณ์กล่าว
    ที่ศาลอาญา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา ม.326, 328 กรณีนายสุทินอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2564 โดยมีเนื้อหาพาดพิงนายสุเทพเรื่องโครงการโฮปเวลล์
    นายสุเทพกล่าวว่า นายสุทินอภิปรายในสภากล่าวหาว่าตนได้กระทำการด้วยความประมาทเลินเล่อในกรณีโฮปเวลล์ แล้วทำให้รัฐเสียหาย 26,000 ล้านบาท หาว่า พล.อ.ประยุทธ์ช่วยเหลือตน พยายามประวิงเวลาไม่ให้ถูกดำเนินคดี ให้คดีหมดอายุความก่อน ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ ส.ส.อภิปรายในสภา คิดเอาเองว่าได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย พูดอะไรก็ได้ เราก็จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มี ส.ส.หลายคนพูดจาไม่เหมาะสม ไม่พูดความจริง บิดเบือน ด่าว่านายกฯ และรัฐมนตรีอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสภา เขาทำได้เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง แต่ว่ากฎหมายได้ปกป้องสิทธิคนที่อยู่นอกสภา ถ้าพาดพิงถึงบุคคลภายนอกเสียหาย กฎหมายไม่คุ้มครอง บุคคลภายนอกฟ้องคดีต่อศาลได้ ตนต้องการทำให้เห็นเป็นกรณีตัวอย่าง
    ด้านนายสุทินกล่าวถึงกรณีนายสุเทพฟ้องร้องว่า เป็นธรรมดา การเป็นฝ่ายค้านเมื่อทำงานเราทำใจอยู่แล้วว่าจะต้องมีคนได้รับผลกระทบและต้องใช้สิทธิ์ฟ้อง เมื่อนายสุเทพคิดว่าเสียหายก็เป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนตนจะต้องชี้แจงต่อศาลว่าหน้าที่คืออะไร ได้ทำไปตามกรอบกฎหมายหรือไม่ มีเจตนาที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในส่วนรวมหรือไม่ เรื่องนี้ไม่วิตก เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และถือเป็นครั้งแรกของตนที่ถูกฟ้องร้อง เพราะปกติพูดในสภาก็ไม่มีคนประท้วง
    วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องบ้านพักหลวงเพิ่มเติมว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงเพิ่มเติม กรณีค่าน้ำค่าไฟบ้านพักหลวงของนายกฯ นั้น ?ทั้งหมดปรากฏชัดอยู่ในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ค่าน้ำค่าไฟนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลวง เขาให้อยู่โดยไม่เก็บเงิน ก็จะรวมเข้าไปตรงนั้น เรื่องนี้มีระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก และระเบียบว่าด้วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟซึ่งบ้านหลวง หลวงจะเป็นผู้ออกให้
    "กรณีคำพิพากษาศาลฎีกาที่นางอมรรัตน์ พรรคก้าวไกล ยกขึ้นมาอภิปรายนั้นมีอยู่จริง แต่นั่นเป็นเรื่องของการเช่าบ้านเอกชน ซึ่งเอกชนได้รับสิทธิในการเช่าบ้านและเบิกเงิน ฉะนั้นค่าน้ำค่าไฟก็เป็นเรื่องของเขาเอง ถ้าใช้น้ำไฟหลวงก็ต้องจ่ายเป็นภาษี เอามาเทียบเคียงกันไม่ได้? เพราะนี่เป็นบ้านหลวง?" นายวิษณุกล่าว.