18 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.55 น. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ไม่สามารถไว้วางใจ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องรับผิดชอบครูและนักเรียนกว่า 6แสนคน กระทรวงศึกษาฯได้รับงบประมาณกว่า 4แสนล้านบาทต่อปี แต่ภาพรวมการศึกษาตกต่ำมาตั้งแต่รัฐประหาร2557 ไม่น่าแปลกใจนักเรียนหลายกลุ่ม หลายโรงเรียน ครูออกมาแต่งชุดดำ ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปการศึกษา ขับไล่รมว.ศึกษาธิการ ครูหลายคนลงโทษ ข่มขู่นักเรียนที่แสดงออกทางการเมือง ไม่น่าแปลกใจเพราะรมว.ศึกษาธิการ เคยร่วมเป่านกหวีดขับไล่รัฐบาลก่อนหน้า มาจากอำนาจนิยม ไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับการใช้อำนาจเหล่านี้ ทำลายสิทธิเสรีภาพของนักเรียนหรือไม่ เมื่อดูจากกราฟข้อมูลที่นำมาแสดงเห็นว่า จากการบริหารงานของรมว.ศึกษาธิการ ระยะเวลาหนึ่งปี 2562-2563 ทำให้นักเรียนยากจนจำนวนมาก มีการเปลี่ยนแปลงมติครม.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ส่งผลให้นักเรียนกว่า3แสนคน หมดโอกาสไป แม้ประเทศจะประสบภาวะโควิดระบาดรอบที่สอง แต่ไม่มีปัจจัยเกี่ยวกับโรงเรียน นายณัฏฐพล กลับสั่งปิดโรงเรียน ส่งผลกระทบทั้งทางการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม โยนภาระให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์ตามมีตามเกิด ปล่อยให้เลื่อนชั้น โดยไม่ต้องจัดสอบวัดผล หากยังมีรัฐมนตรีคนนี้ทำงานอยู่ ความเหลื่อมล้ำจะตกอยู่ที่ลูกหลานหลายเจนเนอร์เรชั่น สร้างความเสียหายในวงการครูอย่างมหาศาล เกี่ยวกับครูอัตราจ้าง เดิมเป็นลูกจ้างก็ไม่มั่นคงแล้ว แต่กลับจ้างเหมาบริการเดือนต่อเดือนทั้งครูและภารโรง ทำลายทั้งครู นักเรียน นักการภารโรง เราจะปล่อยให้ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อหรือ มีแค่อ้างว่า ได้เพิ่มค่าอาหารกลางวันจากเดิมแค่บาทเดียว
นายปดิพัทธ์ กล่าวถึงการเลือกเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ใกล้ชิดรมว.ศึกษาธิการ โดยคนที่เข้ามา ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นนักธุรกิจด้านอาหารมาก่อน เหยียบหัวคนอื่นขึ้นมา อีกทั้งองค์กรสก.สค.ก่อนหน้ามีปัญหาเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น สงสัยว่า บุคคลดังกล่าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งนี้ได้อย่างไร
เมื่อถึงช่วงนี้ นายชวน ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ปรามว่า ไม่ได้ขอให้ถอนคำพูด แต่อย่าเอ่ยชื่อคนภายนอก ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ขอเตือนว่า อย่าไปเอ่ยให้เขาเสียหาย ขอให้นึกถึงหัวอกเขา หัวอกเรา
นายปดิพัทธ์กล่าวอ้างว่า ในการเลือกเลขาธิการสกสค. มีการแก้ระเบียบบางอย่าง เพื่อเอื้อให้คนใกล้ชิดเข้ามานั่งในตำแหน่งเลขาธิการ โดยรมว.ศึกษาธิการ ใช้อำนาจแทรกแซง เอื้อพวกพ้องหรือไม่ จากข้อกล่าวหาที่ตนได้อภิปราย ขอเชิญเพื่อนส.ส.เพื่อประโยชน์นักเรียน ด้านการศึกษา ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ควรยกมือโหวตไม่ไว้วางใจ รมว.ศึกษาธิการให้ออกจากตำแหน่งไป
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงว่า ได้เดินทางไปโรงเรียนต่างจังหวัดหลายครั้ง เห็นปัญหาของการศึกษาไทยว่ามีความซับซ้อน ฝังรากลึก แต่เราอย่าเพิ่งด้อยค่าการศึกษาไทย ยังมีความหวังและมั่นใจต่อการขับเคลื่อนการศึกษา ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาการศึกษา เราไม่สามารถพลิกเปลี่ยนระบบการศึกษาของไทยได้ รับทราบปัญหาดี ไม่เคยหลบหรือหนีปัญหาของกลุ่มนักเรียน ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของการศึกษา ยกประเด็นปัญหาต่างๆที่เป็นข้อเรียกร้องของนักเรียนมารับฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรงผมและเครื่องแต่งกาย มีการเชิญกลุ่มนักเรียนเลวมาร่วมรับฟัง ในส่วนของเรื่องกองทุนเพื่อความเสมอภาคนั้น หน่วยงานนี้มีบอร์ดอิสระขึ้นตรงต่อนายกฯ ไม่ใช่หน่วยงานภายใต้กำกับกระทรวงศึกษา ที่ผ่านมางบเพิ่มขึ้นทุกปี หน่วยงานนี้สมควรได้รับงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี เพราะมีนักเรียนยากจน มั่นใจว่าการที่เด็กๆไม่ได้รับการดูแลนั้นจะได้รับการดูแลอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลา ภายในอีก 3-4 ปี หากเราร่วมกันทั้งสภาฯช่วยวางแผนทำให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ เราพลิกการศึกษาไทยได้แน่นอน
เวลา 18.50 น.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นายณัฏฐพล ไม่ยึดหลักการ ในการแต่งตั้งเลขาธิการสกสค. รองเลขาสกสค. เลขาธิการคุรุสภา โดยเฉพาะการแต่งตั้งเลขาธิการสกสค.นายณัฏฐพล แก้ระเบียบ หลักเกณฑ์ เพื่อช่วยเหลือคนใกล้ชิด เมื่อไปดูคุณสมบัติความเหมาะสมของผู้เสนอตัวอีกคนนั้นจะเหนือกว่า แต่กลับไม่ถูกแต่งตั้ง ถือว่ารมว.ศึกษาธิการ ทำลายหลักธรรมาภิบาล และรู้สึกแปลกใจ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว กลับยอมมาเป็น รองเลขาธิการสกสค. ยิ่งทำให้เห็นว่า คนนี้ยิ่งใหญ่จริง
การอภิปรายของนายยุทธพงศ์ ถูกส.ส.พลังประชารัฐ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ประท้วงว่า พูดวนเวียนซ้ำซาก ไม่ได้อยู่ในประเด็น ทั้งที่ควรอภิปรายรมว.ศึกษาธิการ ในการบริหารงานผิดพลาดเป็นหลัก แต่กลับอภิปรายถึงแต่คนนอก โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ตักเตือนนายยุทธพงศ์บ่อยครั้ง ไม่ให้พาดพิงบุคคลภายนอก ที่ไม่มีโอกาสมาชี้แจง แต่นายยุทธพงศ์ ก็ยังอภิปรายต่อไปจนเกือบหมดเวลาการอภิปราย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |