18 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.50 น. นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกรทะรวงมหาดไทย กรณีโครงการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจะนะ เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ว่า นายนิพนธ์เป็นคนวิ่งเต้นโครงการดังกล่าว ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ. โดยในวันที่ 16 ก.พ. 61 นายนิพนธ์ ได้เข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ จนในวันที่ 21 ม.ค. 63 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ประกาศให้เป็นโครงการเขตเศรษฐกิจฯ อย่างไรก็ตาม พบว่าโครงการนี้เบื้องหลังเกิดมาจากกลุ่มทุนทีพีไอพีพี ที่มาพร้อมกับโครงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และอย่าลืมว่ากลุ่มทุนนี้มีความใกล้ชิดแนบแน่นกับคนในรัฐบาลชุดนี้
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า บุคคลที่มีชื่อรับเงินแทนนายนิพนธ์แทบจะเป็นกลุ่มคนเครือข่ายครอบครัวนามสกุลเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัททีพีไอพีพียังมีชื่อเป็นผู้บริจาคให้โต๊ะจีนพปชร จะเห็นว่ากลุ่มทุนนี้ใกล้ชิดทั้งพลังประชารัฐ และนายนิพนธ์ จึงเห็นความพยายามผลักดันโครงการให้กับกลุ่มทุนอย่างแข็งขัน วันที่ 18 ส.ค. 63 มีมติให้เปลี่ยนผังเมือง 3 ตำบลในอำเภอจะนะ จากพื้นที่สีเขียวห้ามตั้งโรงงานที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นที่สีม่วงคือพื้นที่อุตสาหกรรมหนัก ทั้งนี้ พบว่า มีการกว้านซื้อที่ดินก่อนที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม แสดงว่านายหน้ากลุ่มนี้มีอินไซด์มาก
อย่างไรก็ตาม มีการคว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านไปขายให้นายทุน คือนักการเมืองระดับชาติ ที่คนที่นี่รู้จักกันดี โดยดำเนินงานในนามของลูกชาย ทนาย และเครือญาติ นั่นคือ นายนิพนธ์ ที่กำกับดูแลกรมที่ดิน
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ตัวละครที่สำคัญ คือ 1.นายนิธิกร บุญญามณี ลูกชายของนายนิพนธ์ เป็นเจ้าของบ.ค้าที่ดิน 2.นายสิรภพ เริงฤทธิ์ อดีตเคยเป็นผู้ช่วยนิติกร สมัยนายนิพนธ์เป็นนายก อบจ. 3.นายวุฒิชัย วัตตธรรม ลูกพี่ลูกน้องของภรรยานายนิพนธ์ และยังเป็นผู้ถูกหุ้นร่วมกันในธุรกิจครอบครัวบุญญามณี 4.นายชัยโรจน์ จิวระประภัทร์ คู่เขยนายนิพนธ์ คนเหล่านี้ มีชื่ออยู่ในสารบบซื้อขายที่ดินทั้งสิ้น ตนได้ข้อมูลในเดือนม.ค.63 เท่านั้น และเป็นเพียง 3 ตำบลในอำเภอจะนะ
จากการตรวจสอบพบว่ามีการซื้อขายผิดปกติ ของ 2 กลุ่มใหญ่ คือ หนึ่ง กลุ่มเครือญาติของนายนิพนธ์ 23 ธุรกรรม จำนวน 464 ไร่ รวมมูลค่า 110 ล้านบาท อีกกลุ่มที่มีปริมาณการซื้อขายผิดปกติ คือ กลุ่มทีพีไอพีพี 25 ธุรกรรม จำนวน 450 ไร่ มูลค่า 271 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาที่ดินที่สองกลุ่มข้างต้นซื้อมาจากชาวบ้านแตกต่างกัน โดยกลุ่มเครือญาตินายนิพนธ์ซื้อได้ในราคาเฉลี่ย 2.6 แสนบาทต่อไร่ และกลุ่มทีพีไอพีพี เฉลี่ยไร่ละ 6.02 แสนบาท
“การซื้อที่ดินของกลุ่มทีพีไอพีพี เงินตกถึงชาวบ้านไม่ถึง 1 ใน 5 ของมูลค่าการซื้อขาย เพราะในจำนวนทั้งหมด กลุ่มทีพีไอพีพีซื้อจากนายชัยโรจน์และนายวุฒิชัย 224 ล้านบาท และซื้อจากชาวบ้านเพียง 17 เปอร์เซ็นต์ ครอบครัวนายนิพนธ์รู้ล่วงหน้าว่ามติครม.จะออกมาวันใด ถึงได้เร่งซื้อเร่งโอนที่ดินก่อนที่มีมติครม.ออกมา ดังนั้น นายนิพนธ์จึงมีพฤติกรรมใช้ข้อมูลภายใน จากฐานะรมต. เอื้อประโยชน์ให้เครือญาติจัดซื้อที่ดิน” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว
ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการซื้อขายที่ดินแบบผิดปกติ ที่ดินแปลงหนึ่งที่พีทีไอพีพีรับซื้อจากนายวุฒิชัยและนายชัยโรจน์ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 โดยบริษัทเอกชน ซื้อ 4 แปลง หรือ 181 ไร่เศษ 105ล้านบาท จากนายวุฒิชัย และรับซื้อจากนายชัยโรจน์ เป็น นส.3 ก. 4 แปลง 180 ไร่ 119 ล้านบาท รวมซื้อที่ดินจากกลุ่มเครือญาติในวันเดียว ไม่น้อยกว่า 361 ไร่ มูลค่า 226 ล้านบาท ลึกลงไปกว่านั้น ที่ดินที่นายวุฒิชัยและนายชัยโรจน์ขายให้เอกชนนั้น ซื้อมาจากบริษัททาวน์แอนด์ซิตี้ พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีลูกชายนายนิพนธ์และลูกสาวถือหุ้นอยู่ โดยซื้อมาในเมื่อวันที่ 24 ม.ค.63 มูลค่า 78 ล้านบาท ผ่านไป 4 วัน นายวุฒิชัยและนายชัยโรจน์นำไปขายต่อให้เอกชน 224 ล้านบาท ถือว่าฟันส่วนต่างเน้นๆ 147 ล้านบาท ขอตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการขายที่ดินอำพรางหรือไม่ และอยากถามรมว.คลังว่าการซื้อขายแบบนี้มีเจตนาอะไร และอยากถามนายกว่าการที่เครือญาติรัฐมนตรีในรัฐบาลของท่านมีพฤติกรรมซื้อขายที่ดินอำพรางกับนายทุนเหมาะสมหรือไม่
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจาก ครม. มีมติ เดินหน้านิคมอุตสาหกรรมจะนะ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มี พล.อ. ประวิตร เป็นประธาน ประชุมวันที่ 21 ต.ค.2562 ซึ่งนายนิพนธ์ก็นั่งอยู่ในที่ประชุมแห่งนั้นด้วย ได้มีมติให้สำนักงานที่ดิน จ.สงขลา อ. จะนะ, อ. เทพา, อ. นาทวี สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สนับสนุน การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วน หลังมติ กพต. ออกมา นายนิพนธ์ก็รับลูกอย่างรวดเร็ว ผ่าน “ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.สงขลา-นครศรีธรรมราช” เร่งดำเนินการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ โดยในปี 2563 งบฯ ของศูนย์ดังกล่าว อนุมัติเฉพาะ 4 ตำบล ต. นาทับ, ตลิ่งชัน, ป่าชิง, บ้านนา ซึ่งที่อยู่ในเขตสีม่วงทั้งหมด ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ เพราะ จ.สงขลามี 16 อำเภอ มีเพียง 4 อำเภอที่อยู่ในโครงการสำรวจออกโฉนด อ.จะนะมี 14 ตำบล มีเพียง 4 ตำบล ที่เป็นพื้นที่นิคมฯ ที่เป็นเป้าหมายการเดินสำรวจ ที่คิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็เพราะประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับนี้ลงนามโดยนายนิพนธ์ ก็เพื่อเป็นการรวบรวมที่ดิน นส. 3ก. ให้บริษัท TPIPP ไปออกโฉนดหรือไม่
"การออกโฉนดที่ดินขนานใหญ่ของกรมที่ดิน บังเอิญเสียเหลือเกินที่เกิดพร้อมกับกลุ่มเครือข่ายเครือญาตินายนิพนธ์ กลุ่มที่ผมได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ทาวน์แอนด์ซิตี้ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ของลูกนายนิพนธ์,นายวุฒิชัย, นายชัยโรจน์ และนายสิรภพ ซึ่งทำการไล่รวบรวมซื้อเอกสารสิทธิ์ นส. 3ก. จากชาวบ้าน และบังเอิญอีกเช่นเดียวกัน ที่มีที่ดิน นส. 3ก. จำนวนมากถูกออกเป็นโฉนดโดย TPIPP อย่างพอดิบพอดีกัน เป็นการไปเน้นออกโฉนดให้กลุ่มทุนแต่ละเลยไม่เหลียวแล สค.1, นส. 3ก, ของชาวบ้านที่รอออกโฉนดมากว่า 70 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มเครือญาตินายนิพนธ์ ได้รวบรวมเอกสารสิทธิ์ นส. 3ก. แล้วไปขายต่อให้บริษัท TPIPP เพื่อออกโฉนดที่ดิน และการออกโฉนดที่ดินต้องมีการรับรองจากเจ้าพนักงานที่ดิน จ. สงขลา สาขาจะนะ ซึ่งดูเหมือนว่า การรังวัดออกโฉนดที่ดินของบริษัท TPIPP ที่กลุ่มเครือญาตินายนิพนธ์เป็นนายหน้าให้นั้น จะได้รับความสะดวกมากผิดปกติจากเจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งผมต้องให้หมายเหตุด้วยว่า มีการย้ายเจ้าพนักงานที่ดินสงขลา สาขาจะนะ ในช่วงเดือน เม.ย. 2563 ชาวบ้านในพื้นที่ครหาว่าคนที่ย้ายมาใหม่ ซึ่งเซ็นออกเอกสารสิทธิ์ที่ชาวบ้านคัดค้านกันอยู่ที่ศาลตอนนี้ มีความสนิทใกล้ชิดกับนายนิพนธ์" นายประเสริฐพงษ์ กล่าว
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นายนิพนธ์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลกรมที่ดิน แต่กลับมีเครือญาติเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ในพื้นที่ที่ตัวเองผลักดันโครงการ และร่วมออกมติ ครม.ผลักดัน มีการออกนโยบาย และใช้อำนาจในทางบริหารเร่งรัดออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ใช้ข้อมูลภายในในฐานะรัฐมนตรี ร่วมคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติดำเนินโครงการ เอื้อประโยชน์ให้เครือญาติกว้านซื้อที่ดิน รวมทั้งรู้เห็นเป็นใจให้ญาติสนิทที่เป็นเครือข่ายตนใช้อิทธิพลทำข้อตกลงขายที่ดินในราคาไม่เป็นธรรม รวมทั้งบังคับ ข่มขู่ กดดัน ให้ชาวบ้านยอมขายสิทธิ์เหนือที่ดินทำกินในราคาถูก ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจให้นายนิพนธ์ต่อไปได้ รวมถึงไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่รู้อยู่แล้วว่าคนคนนี้มีประวัติที่ไม่โปร่งใส ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีเรื่องร้องเรียนอยู่ใน ป.ป.ช. นับ 10 คดี แต่ท่านก็ยังแต่งตั้งคนคนนี้ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อีกทั้งในฐานะหัวหน้าคณะรัฐมนตรี และประธาน ศอ.บต. ท่านยังเป็นคนผลักดันโครงการเขตพัฒนาพิเศษจะนะ ที่เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนและเครือข่ายของนายนิพนธ์มหาศาล ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ให้สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปเช่นเดียวกัน และตนก็เชื่อว่าพี่น้องชาวจะนะ และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ก็ไม่ไว้วางใจท่านเช่นเดียวกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |