“ประยุทธ์” ยิ้มร่ารับศึกอภิปรายวันแรก อึ้ง! เปิดประชุมไม่ทันตามเวลาเหตุผู้ทรงเกียรติมาหร็อมแหร็ม “สมพงษ์” เสนอญัตติอภิปรายท่ามกลางประท้วง ก่อนซัด “รัฐบาลปรสิต” โอ่ 4 วันจะไฮด์ปาร์กเป็นแสงแห่งความหวังไล่ความมืดมนที่ “ลุงตู่” สร้างไว้เกือบ 7 ปี ฝ่ายค้านพาเหรดถล่มเรื่องเก่าตั้งแต่โฮปเวลล์จนถึงบ่อนพนัน “นายกฯ” สวนหมัดไม่รับเงินชั่วๆ แม้แต่บาทเดียว “อมรัตน์” ขึ้นเวทีซัดเรื่องภาษีบ้านพักค่ายทหาร สุดท้ายวิษณุยกประมวลรัษฎากรฉบับไม่ตัดทอนสั่งสอน เด็กรัฐบาลพาเหรดสวนรัฐบาลใครปรสิตทำจำนำข้าว

เมื่อวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติด่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 10 ราย ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กับคณะ 208 คน เป็นผู้เสนอ
โดยก่อนประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงอาคารรัฐสภาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยเมื่อถามถึงการเตรียมตัว พล.อ.ประยุทธ์ตอบเพียงสั้นๆ ว่า จ้ะ และเมื่อถามว่านายกฯ จะอยู่ร่วมฟังการอภิปรายตลอดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบอีกครั้งว่า "จ้ะ จ้า"  และเมื่อถามว่าไม่มีอะไรกังวลเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า "จ้ะๆ" และเมื่อถามย้ำว่าคะแนนโหวตรัฐมนตรีจะเท่ากันหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วแต่จ้า"
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวเรื่องนี้เช่นกันว่า มีแต่ความจริงมาชี้แจงให้ประชาชน สิ่งที่กระทรวงทำก็ทำตามภารกิจหน้าที่ มั่นใจว่าจะชี้แจงประเด็นข้อสงสัยได้ทุกเรื่อง ส่วนการที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเกี่ยวกับโควิด-19 ถือเป็นวาระที่จะได้ชี้แจงในสิ่งที่เขาเข้าใจผิด คนที่ไม่ได้ทำงานจะมารู้ดีกว่าคนทำงานได้อย่างไร
“เสียงพรรคภูมิใจไทยโหวตให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเต็มแน่นอน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเรามีมติแล้วว่าเราร่วมรัฐบาลเดียวกัน ต้องมีมติที่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกคน ถ้าเขาอธิบายชัดเจน ด้วยความเป็นธรรม เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องมีมารยาทในการอยู่ร่วมกัน เพียงแต่ต้องยึดถือประโยชน์ของประชาชนและไม่โกง” นายอนุทินกล่าว
    ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพร้อมตอบคำถามทุกเรื่อง ขอแค่ให้ได้มีเวลาเพียงพอ ส่วนเรื่องคะแนนนั้นไม่กังวล เพราะเรามีคนที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว คือคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า มีความพร้อมในการชี้แจง และไม่มีประเด็นไหนหนักใจเป็นพิเศษ
ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่มีอะไรจะต้องติวบรรดารัฐมนตรี นอกเสียจากว่ารัฐมนตรีจะถามมา หากเป็นข้อมูลที่จำได้ ก็จะได้แจ้งให้ทราบ และหากเป็นเรื่องที่รู้เรื่องก็อาจช่วยชี้แจงให้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะเพียงแค่อธิบายให้รัฐมนตรีไปตอบเองได้
    ในขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางมาถึงสภาพร้อมถือแหนบ 2 อันโชว์ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า หากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะอ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วกระทบต่อสถาบันจนจะลุกขึ้นประท้วงและนำแหนบไปถอน
    ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลา 09.00 น. ตามกำหนดการเปิดประชุม ปรากฏว่ามีเพียง ส.ส.มาลงชื่อประชุมเพียง 81 คน จาก 487 คนเท่านั้น จนกระทั่งเวลา 09.48 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดประชุม โดยนายชวนได้ขอความร่วมมือจากสมาชิก ห้ามออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ  
ต่อมาบรรดา ส.ส.ได้หารือถึงเรื่องการประท้วงและการควบคุมการประชุม ซึ่งนายชวนยืนยันว่า ท่านทั้งหลายมีวุฒิภาวะไม่เท่ากัน ประชาชนกำลังจับตามอง ใครประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม แม้ประธานคุมไม่ได้ แต่ประชาชนคุมได้ ถ้าเราเข้าใจข้อบังคับการประชุม ก็จะลดการประท้วงได้ในระดับหนึ่ง และได้ย้ำว่า สภาแห่งนี้ไม่ใช่ใครโกหกเก่งชนะ แต่ต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ อย่าไปคิดว่า 4 วันจะจบ จะให้โอกาสทุกฝ่ายเท่าเทียมกัน
เวลาต่อมา บรรดา ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านได้อภิปรายโต้เถียงกันไปมาถึงการอภิปรายที่อาจโยงไปยังสถาบัน โดยใช้เวลากว่า 30 นาที ก่อนที่นายชวนจะตัดบทให้นายสมพงษ์ได้อ่านเปิดญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ซัดรัฐบาลปรสิต
    จากนั้นเวลา 10.45 น. นายสมพงษ์ได้เริ่มอ่านข้อกล่าวหาของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะกรณีกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ตามญัตติ ทำให้ ส.ส.พรรค พปชร.ประท้วงเป็นระยะ นายชวนได้วินิจฉัยว่านายสมพงษ์อ่านตามญัตติ ยังไม่มีตกหล่น และอนุญาตให้นายสมพงษ์อ่านญัตติต่อไป  
    นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันที่จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะเป็นวันเริ่มต้นนับถอยหลังไปสู่จุดจบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 4 วันนับจากนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านจะเปิดเผยความไร้ประสิทธิภาพ ขลาดเขลา เบาปัญญาของผู้บริหารประเทศอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉลของ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ และจะเปิดหน้ากากของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทำร้ายประเทศชาติ บั่นทอนประชาธิปไตย และคุกคามเสรีภาพของประชาชน
    “เวลา 6 ปี 8 เดือน 26 วันที่ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศนี้ ทั้งในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ หลังการรัฐประหาร และในฐานะนายกฯ จากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบ เพื่อ พล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชาติพังพินาศ ประชาชนทุกข์ยากแสนเข็ญยิ่งกว่ารัฐบาลใดๆ ในรอบ 8 ทศวรรษ แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะคิดเก่ง ทำเก่ง ดังเช่นที่เขาเคยโอ้อวด รัฐบาลชุดนี้จึงเป็นได้เพียงรัฐบาลปรสิต ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศ และกลืนกินความฝันของประชาชน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายสมพงษ์กล่าวย้ำว่า เราเชื่อมั่นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นแสงแห่งความหวังที่ส่องสว่างไปทุกแห่งหน เพื่อไล่ความมืดมนที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้มาเกือบ 7 ปี และเพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า จากแม่สายถึงเบตง จากแม่สะเรียงถึงศรีเมืองใหม่ ว่าเราต้องมีความหวังอยู่เสมอ เพราะจุดจบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กำลังมาถึงในไม่ช้านี้
    ต่อมาเวลา 11.15 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรค พท. อภิปรายว่า จะทำหน้าที่เหมือนเครื่องบินนำร่องชี้เป้า เพื่อให้เพื่อน ส.ส.อีก 36 คนทิ้งระเบิดใส่เป้า วันนี้ประเทศมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจและเชื่อมโยงไปถึงปัญหาสังคม ซึ่งในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นหากเทียบกับยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ นอกจากนี้ตัวเลขบ่อนก็สูงขึ้น รวมถึงยาเสพติดก็ระบาด ขายเกลื่อนในชุมชน 3 เม็ดร้อย ทั้งนี้ การที่นายกฯ ยอมรับแล้วว่าปราบไม่ได้ และหมดปัญญาแก้ปัญหาสังคม ซึ่งชาวบ้านจะอยู่อย่างไร
ทั้งนี้ นายสุทินยังได้อภิปรายในเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิดที่ล้มเหลว, ค่าโง่โฮปเวลล์ และเหมืองทองอัครา ก่อนทิ้งท้ายว่า ด้วยการบริหารของนายกฯ อย่างที่กล่าวมาจะปรับบุคลากรคงไม่พอแล้ว นายกฯ ต้องลาออก หวังว่าการอภิปรายทั้งหมดจะเกิดประโยชน์ นายกฯ ก็ควรเสียสละ ตัดไฟแต่ต้นลม ให้จอดที่นายกฯ ก็จบ อย่าให้มันเลยป้าย เมื่อเลยป้ายตนก็ได้เตือน เพราะหากเป็นนายกฯ ประเทศอื่นคงลาออกไปนานแล้ว แต่กลับมาชี้หน้าด่าคนอื่น                
ต่อมาการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงบ่ายนั้น เป็นการอภิปรายของหัวหน้าเสรีรวมไทย เกี่ยวกับบ่อนการพนัน ซึ่งอภิปรายวกวนและเน้นไปเปิดคลิปวิดีโอสมัยเป็นจเรตำรวจ รวมถึงการอ้างอิงสื่อมวลชน โดยระหว่างการอภิปรายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ต่างลุกขึ้นประท้วงกันไปมาเสียเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง
บิ๊กตู่ลั่นไม่รับเงินชั่วๆ
     จากนั้นเวลา 16.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงถึงเรื่องบ่อนการพนันที่ระบุว่า ร้อยนายกฯ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ว่าใช้เวลานั่งฟังมาค่อนวัน ขอชี้แจงบางประเด็นก่อน มีสมาชิกให้ลองหลับตา ก็หลับดูมันก็มืด แต่พอลืมตาขึ้นก็สว่างเหมือนเดิม จะให้หลับตาเพื่ออะไร ไม่เข้าใจ หลับมากๆ ก็เวียนหัว หัวทิ่มอีก ทุกอย่างเปิดเผยได้อยู่แล้ว อยู่ในกระบวนการยุติธรรม หากจะกล่าวอ้างว่าใครผิดใครถูกต้องไปกระบวนการยุติธรรม ไปฟ้องร้องและต่อสู้คดีกันไป การพูดในลักษณะเช่นนี้เกิดมีผลกระทบกับหลายคนและหลายพรรคการเมือง ส่วนมีการเรียกรับผลประโยชน์ ขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด และคลิปที่นำมากล่าวหานั้น ก็เป็นเพียงข้อมูลดิบ ดังนั้นจึงต้องไปหาพยานหลักฐาน พยานบุคคลมา การนำข้อมูลมาจากสื่อมวลชน จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
     “ส่วนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับบ่อนการพนัน แล้วทำให้มีการแพร่ระบาดโควิด-19  นั้น ยืนยันว่าผมได้กระทำตรงกันข้ามกับที่มีการกล่าวหาโดยสิ้นเชิง ผมไม่มีผลประโยชน์อะไร อย่าอ้างว่าผมมีผลประโยชน์ อย่าหมิ่นประมาทกันและกัน ในส่วนตรงนี้ถ้าผมไม่เอาจริง ผมจะตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทำไม ผมยืนยันได้ว่ารัฐบาลได้เข้มงวดกับการกวาดล้างการพนันทุกรูปแบบ ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ไม่มีการปล่อยปละละเลยตามที่มีการกล่าวหา เงินชั่วๆ ผมไม่รับ รับแต่สิทธิประโยชน์ของผมตามกฎหมายเท่านั้น ทุกท่านก็รู้โดยเฉพาะ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ เพราะพวกท่านก็เป็นข้าราชการการเมืองเหมือนกัน ถ้าท่านรู้ว่ามีการรับเงินจากทางอื่น ท่านต้องแจ้งความ” นายกฯ กล่าว  
    นายกฯ ยังได้เปิดคลิปเต็มที่เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบ่อนการพนัน เพื่อโต้ตอบฝ่ายค้าน โดยนายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูดว่า “มีนายกฯ ร้อยคนก็ปราบไม่ได้” เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ถูกบิดเบือน และเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ตัดต่อคำพูดของตน  
     ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกฯ กล่าวว่า รู้สึกคิดถึงสภาแห่งนี้ ไม่ได้หวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น แต่ยังเป็นโอกาสดีด้วยซ้ำที่เราสองฝ่ายจะได้ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนของเรา แม้ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง และขอฝากไปถึงประชาชนให้ฟังการอภิปรายครั้งนี้ด้วย และคิด แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตัดสินใจด้วยตนเอง
    ต่อมาเวลา 15.55 น. รัฐมนตรีหลายคนที่ถูกพาดพิง ทั้งที่มีชื่อและไม่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างทยอยลุกชี้แจงที่ถูก ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงในหลายเรื่องๆ ทั้งโครงการโฮปเวลล์, นานาชาติไม่ยอมรับรัฐบาล และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไล่มาตั้งแต่นายศักดิ์สยาม, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ, นายวิษณุ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม
     เวลา 16.40 น. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายโดยเริ่มต้นว่า สังเกตนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า ท่านดูซูบเซียวลงไป แขนขาท่านยาวขึ้น ไม่ทราบว่าท่านไปโหนอะไรมาเยอะแยะมากมายหรือเปล่า ก่อนจะอภิปรายในประเด็นบ้านพักหลวงในค่ายทหาร โดยกล่าวหาว่าไม่แสดงบัญชีทรัพย์สิน และการรับประโยชน์ค่าไฟฟ้าเกิน 3,000 บาททุกเดือน รวมถึงการเสียภาษีของนายกฯ เป็นเวลา 76 เดือนตั้งแต่พ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ. พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายกฯ นำภาษี ภ.ง.ด.90 ตั้งแต่ปี 2558-2563 มาแสดง
         ทั้งนี้ ในขณะที่ น.ส.อมรัตน์อภิปราย มีการใช้คำพูดที่เสียดสีเป็นระยะ ทำให้นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย และวัฒนา กทม. และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรค พปชร. ลุกขึ้นประท้วง และขอให้ถอนคำพูดเสียดสีหลายครั้ง ซึ่งประธานก็ได้ให้ถอน ซึ่งนางอมรัตน์ก็ถอนคำพูดที่เสียดสีเดิม แต่ได้ใช้คำเสียดสีใหม่เข้ามาทดแทน จนทำให้ น.ส.ปารีณาต้องประท้วงว่าไม่ได้รับสมัครคนขับรถ ซึ่งก็ไม่มีการตอบโต้จาก น.ส.อมรัตน์ และทำให้การตอบโต้ไปมาซาลง
เตี้ยลงๆ เพราะหลบหลังม็อบ
         จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ลุกกล่าวสั้นๆ ว่า หลายเรื่องอยู่ในกระบวนการพิจารณาขององค์กรต่างๆ ทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วในมติที่ออกมา พร้อมขอบคุณที่สังเกตว่าตัวผอมลง สูงขึ้น อะไรทำนองนั้น แสดงว่าก็ห่วงใยสุขภาพของตนเองอยู่เหมือนกัน ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุมสภาได้อีกครั้ง ก่อนกล่าวต่อไปว่า “ผมก็ห่วงท่านอยู่เหมือนกัน ดูท่านเตี้ยลงๆ ทุกวัน เพราะท่านก็ไปหลบอยู่หลังม็อบทุกวันๆ เหมือนกัน"
ต่อมานายวิษณุชี้แจงเรื่องการเสียภาษีว่า ถ้านายกฯ จะต้องเสีย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งประเทศ ถ้าหากทั้งประเทศไม่เสีย นายกฯ ก็จะไม่เสีย เรื่องนี้คำตอบมีอยู่ในประมวลรัษฎากร ข้อความมาตรา 42 ถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ดูเลยไปถึงอนุมาตรา 6 ซึ่งระบุไว้ชัดว่า เงินได้พึงประเมินต่อไปนี้ไม่นำมาคำนวณสำหรับเสียภาษีเงินได้
นางอมรัตน์ลุกขึ้นแย้งว่า นายวิษณุชี้แจงนั้นไม่ได้รวมถึงค่าน้ำและค่าไฟ ทำให้นายวิษณุอธิบายว่า ค่าน้ำค่าไฟเป็นส่วนหนึ่งของเงิน หรือค่าที่คำนวณได้จากการได้อยู่บ้านหลวง ถึงเวลาบ้านชำรุดทรุดโทรม หลวงก็ซ่อมให้ เป็นส่วนหนึ่งที่กรมสรรพากรถือคำนวณว่าเป็นส่วนของบ้านที่ได้อยู่ทั้งสิ้น ในฐานะที่จะเป็นส่วนดอกผล หรือผลประกอบ
    เวลา 17.32 น. นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ถึงการแพร่ระบาดไวรัสโควิดที่เกิดจากสนามมวย รวมทั้งประเด็นบ่อนการพนัน โดยระบุว่า ไม่อาจไว้วางใจนายกฯ เพราะทำเป็นไฟไหม้ฟาง พอใกล้อภิปรายก็จับที ทำเป็นไฟไหม้ฟาง ทำเป็นลิงหลอกเจ้า และทำให้ประเทศชาติเสียหาย ตำรวจมีอำนาจรัฐซ้อนรัฐอยู่ ท่านรู้ดีแต่ก็แก้ไม่ได้
     พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทั้งตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ก็ได้มีมาตรการเข้มข้นขึ้น เราจะสืบสวน ใครเป็นเจ้าของบ่อน มีการยึดทรัพย์ เราได้ใช้ทุกมาตรการ ประโยคที่บอก ต่อให้ร้อยนายกฯ ก็แก้บ่อนการพนันไม่ได้ ขอให้นำคำพูดเต็มๆ หลังจากนั้นมาด้วย เพราะได้พูดว่า ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน ในการนำคนผิดมาลงโทษ หากท่าน ส.ส.มีข้อมูล ก็ขอให้ส่งข้อมูลมาให้ตน เน้นย้ำประชาชน อย่าไปเล่นการพนัน ตราบใดที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่มีส่วนร่วมรับผลประโยชน์
    เวลา 18.20 น. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ อภิปรายว่า ไล่ตั้งแต่การยึดอำนาจ 22 พ.ค.2557 ก่อนระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สร้างทุนผูกขาด ให้เจ้าสัวแข็งแรง สมประโยชน์ เพราะบางคนช่วยท่านยึดอำนาจ ส่วนจริงหรือเท็จ ท่านรู้อยู่แก่ใจ สร้างระบบยุติธรรมสามานย์ขึ้น ชาวบ้านพูดกันว่า มีอดีตผู้บัญชาการเก่าในพื้นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องพระ ลือกันว่า พระที่แขวนบนคอของท่านหลายองค์ อดีตผู้บัญชาการคนนี้เป็นคนมอบใหม่ มีราคา 8 หลักขึ้นไป บางคนบอกว่าราคาไม่กี่สตางค์  แต่ถ้าราคาเกิน 3,000 บาท ถือว่ามีความผิด ต้องส่งให้ ป.ป.ช.ไปดำเนินการ ในวันนั้นนายกฯ ล้วงเอาพระอยู่ในคอออกมาโชว์ อยากรู้ว่าองค์ไหนที่อดีตผู้บัญชาการมอบให้                
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชี้แจงนายสงครามถึงกรณีการเชิญนักการเมืองปรับทัศนคติว่า พูดเหมือนกันมา 3-4 ครั้ง ตรวจสอบไปยังกองทัพเมื่อปี 2557 ท่านอยู่ในพื้นที่ควบคุม เพื่อหยุดยั้งความรุนแรง ซึ่งความรุนแรง มีมาตั้งแต่ปี 2553 มีเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง การใช้อาวุธ M79 ตัวท่านเองตนเองก็ให้กลับได้ แต่ท่านบอกอยากอยู่ต่อ มีใครมาทวงหนี้หรือเปล่า ตอนนั้นก็ดูแลเป็นพิเศษ ขอให้เลิกพูดได้แล้ว

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกว่า   ช่วงเช้ามีปัญหาขรุขระเรื่องการจราจร กว่าจะครบองค์ประชุมก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ส่วนเรื่องการประท้วงของฝ่ายรัฐบาลนั้น ไม่ใช่เป็นการตีรวน ถ้าอยู่ในกฎระเบียบ ในกฎเกณฑ์ หรือไม่มีการเสียดสี พูดจาฟุ่มเฟือย ก็ปล่อย มีหลายท่านแทบไม่ได้มีการประท้วงเลย แต่ก็มีบางท่านคึกคัก ก็เป็นไปตามธรรมชาติ
“วันนี้เป็นการอภิปรายนายกฯ เขียนในญัตติก็ดุเดือด แต่คนที่มาอภิปรายก็เป็นไปอย่างที่เห็น ก็ไม่สมราคาเหมือนที่เขียนในญัตติ  ซึ่งนายกฯ ก็ใจเย็นขึ้นเยอะ เมื่อปีที่แล้วถือว่าท่านใจเย็นแล้ว แต่ปีนี้ใจเย็นกว่า และเวลาตอบท่านตอบแบบเนื้อหาสาระเต็มๆ ไม่มีน้ำเลย”
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวตอบโต้นายสมพงษ์ที่อภิปรายรัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลปรสิต กัดกร่อนอนาคตของประเทศ ว่าตลอดการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ มีผลงานมากมาย หากเทียบกับรัฐบาลในยุคของนายสมพงษ์ มั่นใจว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน และแก้ไขปัญหาได้มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา หากผู้นำฝ่ายค้านในสภาจะเปรียบเทียบรัฐบาลเป็นปรสิต ก็ขอให้ย้อนดูตัวเองก่อนว่าใครกันแน่ที่เป็นปรสิต และผู้นำรัฐบาลพรรคไหนกันแน่ที่ติดอันดับเป็นผู้นำที่เลวในการจัดอันดับผู้นำที่เลวของโลก นายสมพงษ์ลองกดเข้าไปดูในกูเกิล จะพบรายชื่ออย่างแน่นอน
นายราเมศ รัตนะเชวง ในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวเช่นกันว่า เป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริง เพราะตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศก็มุ่งเน้นทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ถ้าเป็นรัฐบาลปรสิตคงจะสูบกินประเทศเหลือแต่กระดูก เหมือนรัฐบาลหนึ่งที่ออกนโยบายรับจำนำข้าว ซึ่งต้องเป็นรัฐบาลที่มีการทุจริต โกงประเทศอย่างเป็นระบบ.