ส.ส.ก้าวไกล ซัด 'ประยุทธ์-ประวิตร' เป่าหมายแดงช่วย 'บอส วรยุทธ'


เพิ่มเพื่อน    

16 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.30 น. นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส แม้เรื่องนี้จะเกิดตั้งแต่ปี 2555 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หลังจากนายวรยุทธ หนีคดีไปต่างประเทศ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ประสานออกหมายแดงไปยังตำรวจสากล เป็นหมายเปิดแบบสาธารณะให้คนรับรู้ทั่วกัน เมื่อวันที่ 21ส.ค.2560 

แต่ต่อมาวันที่ 30 ส.ค.2560 พล.ต.ต.อภิชาติ ถูกสั่งย้ายเข้ากรุ เป็นผบก.ประจำภูธรภาค 3 โดยผู้ที่นั่งหัวโต๊ะสั่งย้ายคือ พล.อ.ประวิตร มีการเปลี่ยนหมายแดงสากล เป็นหมายบุคคลทั่วไป ในเดือน มี.ค.2561 เป็นหมายแดงปาหี่ ใส่เลขพาสปอร์ตที่ยกเลิกไปแล้ว ไม่ใส่ไฟล์ลายนิ้วมือ และใบหน้ายืนยันตัวตน 

นายธีรัจชัยกล่าวว่า เดือนต.ค.2561 พล.ต.ต.อภิชาติ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.) จากนั้นวันที่ 29 ส.ค.2562 พล.ต.ต.อภิชาติ ถูกสั่งย้ายไปอยู่ไปอยู่กองส่งกำลังบำรุง ผู้ที่นั่งหัวโต๊ะสั่งย้ายคือ พล.อ.ประยุทธ์ และวันที่ 7ต.ค.2562 นายวรยุทธขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ครั้งที่ 14 วันที่ 20 ม.ค.2563 อัยการสูงสุดจึงสั่งไม่ฟ้อง ส่งเรื่องมายังกมค. หากพล.ต.ต.อภิชาติ ไม่ถูกโยกย้าย นายวรยุทธจะต้องถูกสั่งฟ้อง แม้ต่อมาตำรวจจะสั่งฟ้องนายบอส แต่ยังตามตัวไม่ได้ เพราะยังคงใช้หมายปาหี่ 

ต่อมาสถานทูตออสเตรีย แจ้งมายังสตช.ว่า นายวรยุทธขอวีซ่าเชงเก้น ที่เข้าออกได้ 26 ประเทศในสหภาพยุโรปได้ แต่สิ่งที่ตำรวจทำคือ ส่งจดหมายไปยังกระทรวงต่างประเทศ ขอให้สถานทูตไทยในกรุงเวียนนา ตามสืบหาที่อยู่นายวรยุทธและแจ้งมาให้ทราบ แสดงให้เห็นว่าตำรวจไม่กระตือรือร้น ติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดี แบบนี้ผบ.ตร.ขณะนั้นต้องถูกฟ้องเอาผิด ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายกฯต้องตั้งกรรมการสอบวินัย ผบ.ตร.หรือไม่ แบบนี้ซูเอี๋ยกันหรือไม่ หรือเป็นเพราะอดีตผบ.ตร.คนนี้ จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคพลังประชารัฐ แน่จริงนายกฯกล้าเปิดรายงานฉบับเต็มหรือไม่ แต่คิดว่าไม่กล้า เพราะไม่ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน แต่กำลังขายกระบวนการยุติธรรม ปล่อยให้ตำรวจชั้นผู้น้อยรับโทษทางวินัย  

"ผมยืนยันว่าคดีนี้ ไม่ใช่เพียงคดีอาญาสะเทือนขวัญทั่วไป แต่เป็นคดีที่สั่นคลอนความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชนมีต่อระบบยุติธรรมไทย ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไม่สมคบกันใช้อำนาจในฐานะผู้บริหารประเทศ แทรกแซงกระบวนการเอาผิดนายวรยุทธตั้งแต่ต้นน้ำ นี่ไม่ใช่การกระทำของคนระดับนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี แต่เป็นพฤติกรรมมาเฟียเก็บค่าต๋งที่ใช้อำนาจบารมีปัดเป่าให้ใครที่มาสวามิภักดิ์และเสนอผลประโยชน์ให้ตนเอง นี่คือที่บอกว่า รัฐประหารมาเพื่อความสามัคคีคนในชาติ ปราบทุจริต แต่สุดท้ายเข้ามาเพื่อสร้างระบบมาเฟีย ช่วยคนมีเงิน มีอิทธิพลบนความเจ็บปวดของตำรวจชั้นผู้น้อย บดขยี้ศักดิ์ศรีกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่ ผมไม่อาจทน มีนายกฯ และรองนายกที่มีพฤติกรรมมาเฟียเช่นนี้ได้ ขอไม่ไว้วางใจทั้งสองคน”นายธีรัจชัย กล่าว 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"