ป้อมปลุกปชช.หนุนตู่นั่งนายกคนนอก


เพิ่มเพื่อน    

“พี่ป้อม” ปลุกประชาชนเป็นหลังพิงให้ “น้องตู่” นั่งนายกฯ คนนอก ลั่นยังไม่ถึงเวลารับปากสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ย้ำถึงเวลานักการเมืองรุ่นใหม่ “เด็ก พท.” ยุส่งชื่อ “ประยุทธ์” ท้าชิงอย่ารอเทียบเชิญ สนช.โวทำเลือกตั้งท้องถิ่นทันแน่ “ประวิตร” ตีมึนไม่รู้ “ปู” ใช้พาสปอร์ตไหน มาร์คอัดหากรัฐบาลไม่เริ่มล่าก็อย่าฝันได้ตัวยิ่งลักษณ์
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เดินสายอวยพรปีใหม่แกนนำพรรคว่า เขาออกมารับการอวยพรปีใหม่กันไม่ใช่หรือ ก็เป็นการอวยพรกันธรรมดา จะทำอย่างไรได้ ส่วนจะมีนัยสำคัญทางการเมืองหรือไม่ ก็เป็นคนเก่าๆ ทั้งนั้น เราต้องการการเมืองแบบใหม่ไม่ใช่หรือ นักการเมืองก็เป็นนักการเมืองเก่าๆ ก็ว่ากันไป  
    ถามว่า ที่อยากให้มีการเมืองแบบใหม่ หมายความว่าอยากให้มีนักการเมืองหน้าใหม่ๆ เข้ามาใช่หรือไม่  พล.อ.ประวิตรตอบทันทีว่า มันก็ควรจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เมื่อถามย้ำว่านักการเมืองรุ่นเก่าควรวางมือใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ นักข่าวต้องไปถามเขาดู
    เมื่อสอบถามต่อว่า นักการเมืองรุ่นใหม่มองหรือไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “กลุ่มอย่างพวกคุณนี่ไง” เมื่อถามอีกว่านายกฯ ถือเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร พร้อมย้อนถามว่า “พวกคุณคิดว่านายกฯ เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ไหมล่ะ ผมถามคุณ ก็แล้วแต่พวกคุณจะคิด และแล้วแต่ประชาชนจะเห็นอย่างไรด้วย”
    ผู้สื่อข่าวถามกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตั้งพรรคการเมืองสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ คนนอก  พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ผมไม่รู้ ผมไม่ใช่นายไพบูลย์ ตอบไม่ได้” เมื่อถามย้ำว่าเห็นด้วยกับนายไพบูลย์ที่หนุนพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็น่าจะเห็นด้วยนะ ถ้าประชาชนเห็นด้วย เพราะประชาชนเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ ความเห็นผมไม่มีความสำคัญหรอก ผมจะไปตอบคนเดียวว่าให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ไม่ได้ ต้องให้ประชาชนตอบ”
    เมื่อถามอีกว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนนอก พร้อมเป็นกองหนุนให้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กองหนุนอย่างไร ทำอะไร ไม่รู้ ก็แล้วแต่จะคิด ส่วนถ้าเป็นนายกฯ คนนอกจริง จะช่วยงานต่อหรือไม่นั้น  ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลานั้นเลย พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ ยังไม่รู้เลย เมื่อถามว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรสวนว่า อย่ามาสมมุติ อย่ามาถ้าเผื่อ เผื่อไม่ได้
    เมื่อถามต่อว่า ในฐานะที่ทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ มานาน รู้ใจกันหลายเรื่อง คิดว่าในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์เป็นนักการเมืองเต็มตัวได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า แล้วคุณคิดว่าได้หรือเปล่า ถ้าคุณว่าได้ก็ได้ เอาตามที่คุณว่าเลย” เมื่อถามต่อว่าการเข้ามาเป็นนักการเมืองก็ต้องพร้อมรับกับการตรวจสอบด้วย พล.อ.ประวิตรสวนว่า ตรวจสอบก็ตรวจสอบสิ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
    นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรระบุว่าประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรเป็นนายกฯ คนนอกหรือไม่ ว่าเมื่อจะให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ ถือเป็นเรื่องดี ระบอบประชาธิปไตยต้องรับฟังเสียงคนส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือประชาชน หากให้ประชาชนเป็นคนให้คำตอบก็ไม่ควรรอการเป็นนายกฯ คนนอก ไหนๆ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเป็นนักการเมืองแล้ว ควรให้พรรคการเมืองที่อยากสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ส่งชื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนเลือกเป็นนายกฯ ไปเลย เพราะวิธีเข้าสู่ตำแหน่งเช่นนี้จะสง่างามมากกว่าการรอเป็นนายกฯ คนนอก ที่สำคัญการเข้ามาด้วยวิธีที่ประชาคมโลกให้การยอมรับจะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะจะสร้างความยอมรับจากนานาชาติและนักลงทุน
โวพร้อมเร่งเลือกท้องถิ่น
    สำหรับความคืบหน้าในการร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า สนช.ยังไม่ได้รับร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าในวันที่ 15 ม.ค. ที่จะประชุมคณะกรรมการประสานงานระหว่าง สนช.และรัฐบาลก็น่าจะหารือกัน ถ้ามีผลสรุปแล้ว ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ สนช.ต่อไป 
“ประเด็นที่จะแก้ไขเท่าที่ผมทราบ น่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะมาสมัครเท่านั้น ไม่ได้แก้ไขอะไรมากมาย ดังนั้นหากเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ก็คาดว่าจะใช้เวลาการพิจารณาไม่มาก เนื่องจาก สนช.ได้มีคณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องนี้ไว้แล้ว และต้องเป็นไปตามกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดว่าจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นกลางปี 2561” นายพีระศักดิ์กล่าว
    เมื่อถามว่า จะตัดสิทธิ์ผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกมาตรา 44 สอบสวนอยู่หรือไม่ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า โดยหลักการคงไม่มีอะไรไปตัดสิทธิ์ เพราะทาง คสช.ก็ได้เร่งให้มีการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 44 ให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง
    ส่วนนายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า กกต.ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของร่างกฎหมายท้องถิ่นเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคตมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นปัญหาและอุปสรรค แก้ปัญหานโยบายประชานิยม แก้ปัญหาผู้บริหารท้องถิ่นลาออกก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ และกรณีลาออกหนีความผิด โดยล่าสุดได้ลงนามกับสำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้ทำความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลตรวจสอบทรัพย์สินที่ครอบครอง ทำให้เมื่อถึงช่วงการเลือกตั้งจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวน เพราะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น สามารถรู้ได้ว่าบุคคลดังกล่าวมีทรัพย์สินอะไรบ้าง รวมทั้งข้อมูลการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ เพียงแค่ตรวจสอบ 5 นาทีก็รู้ข้อมูลเชิงลึกของบุคคลนั้น 
“ผมมั่นใจว่า กกต.ชุดนี้มีผลงานที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ชุดใหม่เข้ามาก็จะทำงานสบาย เพราะเราทำไว้มากแล้ว แม้ไม่มีเลือกตั้ง แต่เราก็เตรียมไว้ทุกอย่าง ไม่เฉพาะแค่ด้านสืบสวน ด้านการเลือกตั้งก็มีการเตรียมเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง” นายบุญส่งระบุ 
    นายบุญส่งยังกล่าวถึงการที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะตัดประเด็นการขอตรวจค้นโดยไม่มีหมายศาลของ กกต. ว่าหากจะตัดออกและไม่เขียนไว้ในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ส.ส.ก็ไม่เป็นไร เพราะเจ้าหน้าที่ กกต.ก็มีอำนาจตามกฎหมายอาญาในเรื่องการตรวจค้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเขียนไว้ในกฎหมายหมาย ก็น่าจะทำให้การทำงานได้ง่ายขึ้น และการลงพื้นที่ของ กกต. และเจ้าหน้าที่ก็มีตำรวจร่วมไปด้วย แม้จะตัดประเด็นดังกล่าวออกไปก็ไม่เป็นปัญหากับ กกต. ไม่ต้องกังวลว่าพนักงานของ กกต.จะใช้อำนาจตามอำเภอใจหรือเกินขอบเขต เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจะมีความผิด และมีบทลงโทษแรงกว่าคนธรรมดา โทษสูงกว่าเจ้าหน้าที่อื่น 
ป้อมยังมึนใช้พาสปอร์ตไหน
    วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าเคยบอกแล้วว่าให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องดำเนินการ ทั้งอัยการ ตำรวจ และกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องร่วมมือกัน  เป็นเรื่องของกฎหมาย จะมาถามความคิดเห็นตนเองไม่ได้
    เมื่อถามว่า รัฐบาลจะกำชับให้เร่งดำเนินการหรือไม่  พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำก็เจอมาตรา 157“
    ถามย้ำว่า ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ปรากฏออกมาเหมือนเย้ยฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เย้ยหรอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้หนังสือเดินทางของประเทศไหนยังไม่รู้เลย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าใช้หนังสือเดินทางของประเทศเพื่อนบ้านนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะไปตรวจสอบ ไม่รู้ขั้นตอนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และตอนนี้ยังไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้หนังสือเดินทางของประเทศอะไร
    ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ 101 องศา กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจขอลี้ภัยทางการเมืองที่อังกฤษ ว่าอย่าเพิ่งสรุปว่าจะขอลี้ภัย เพราะตามข้อเท็จจริง หากถือหนังสือเดินทางประเทศอื่นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขอลี้ภัย และอาจเป็นการขอเข้าประเทศในฐานะนักลงทุนก็ได้  
    ”เรื่องขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองเป็นเรื่องเจ้าตัวกับประเทศนั้นๆ ซึ่งเราไปยุ่งไม่ได้ก็จริง แต่สำหรับการติดตามตัวเป็นเรื่องของไทย ซึ่งขณะนี้อัยการยังไม่ขอตัว และตำรวจยังไม่ออกหมายแดง โดยชี้แจงว่าเอกสารยังไม่สมบูรณ์ โดยต้องรอรัฐบาลชี้แจงว่าจะทำอะไรหรือไม่อย่างไร เพราะหากต้องการขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ถ้าไม่เริ่มต้นขอ ก็ไม่มีทางที่ประเทศนั้นๆ จะส่งมา เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าประเทศเขาถูกต้องตามกฎหมาย” นายอภิสิทธิ์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"