'เมียสันธนะ'ร่ำไห้ร้องกรรมการสิทธิฯ ถูกจนท.รัฐคุกคามหนัก-หวั่นโดนยัดข้อหา!


เพิ่มเพื่อน    


16 พ.ค. 61 - ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นางพรรณี ประยูรรัตน์ ภรรยาของพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์  อดีตรองผกก.สันติบาล ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์  เก็บค่าคุ้มครองผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง  เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( กสม.)  ผ่านนางอังคณา นีละไพจิตร กสม. ขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบุกค้นที่คอนโดย่านพหลโยธิน บ้านพักย่านรามอินทราและจับกุมพ.ต.ท.สันธนะ  

โดยนางพรรณี  กล่าวว่าหลังจากการตรวจค้นคอนโดที่ผ่านมา ส่งผลให้ตนเองไม่สามารถเข้าไปพักได้อีก เนื่องจากเกิดผลกระทบหลายอย่าง  โดยมีการดักฟังโทรศัพท์ของตนเอง ติดตามคนในครอบครัวและเจ้าหน้าที่ได้นำบัญชีธนาคารของตนและครอบครัว ไปทำให้เกรงว่าจะมีการยัดคดีอะไรให้อีกหรือไม่ เพราะเวลานี้มีการแจ้งข้อกล่าวพาพ.ต.อ.สันธนะเพิ่มขึ้นรวม 45 ข้อหา ผู้ต้องหาเพิ่มเป็น 11 คน แต่นับแล้วยังไงก็ไม่ครบ จึงเกรงว่าในจำนวนนั้นมีตนรวมอยู่ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน

"ส่วนที่ต้องมายื่นร้องต่อกรรมการสิทธิ เพราะไม่มีที่พึ่ง อยากให้กสม.คุ้มครองและเป็นการแจ้งให้หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบเรื่องสิทธิมนุษยชนได้เข้ามารับรู้เรื่องราวก่อนที่บางอย่างมันจะเกิดขึ้นแล้วแรงไปมากกว่านี้เพราะก็กังวลว่าจะเกิดอันตรายกับสามีและครอบครัว ไปมากกว่านี้"นางพรรณี กล่าวและว่า มีหลายเรื่องที่ไม่สบายใจแต่พูดตรงนี้ไม่ได้ ไม่เข้าใจทำไมเรื่องต่างๆ ต้องเกิดขึ้นกับตนและครอบครัว การที่ตำรวจปฏิบัติเช่นนี้กับครอบครัว ถามว่าคุณก็จะปฏิบัติแบบนี้กับครอบครัวอื่นๆ ด้วยมาตรฐานเดียวกันใช่หรือไม่

นางพรรณี กล่าวว่า ไม่คิดจะฟ้องกลับตำรวจ เพราะไม่ใช่คนนิยมความรุนแรง แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามกฎหมายอย่างยุติธรรม เท่าเทียมกันทุกครอบครัว  ให้ครอบครัวตนเป็นครอบครัวสุดท้ายที่ถูกกระทำ   และหลังจากนี้ก็จะพิจารณาว่าจะยื่นร้องต่อหน่วยงานใดอีกหรือไม่  แต่เบื้องต้นมีหน่วยงานในต่างประเทศติดต่อมาขอรายละเอียดแล้ว เรื่องนี้จึงไปถึงต่างประเทศแล้ว

ส่วนกรณีมีข่าวว่าจะมีการถอดยศพ.ต.ท.สันธนะนั้นก็ได้ทราบข่าวจากญาติเมื่อช่วงเที่ยงว่ามีการถอดยศแล้ว ซึ่งตนไม่กล้าที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะเรื่องยศ เป็นของสูงที่ต้องได้รับพระราชทาน  จึงไม่น่าเป็นเรื่องที่จะมาถอดกันง่ายๆ   สำหรับกรณีที่เปิดเผย 3 นายพลที่สามีจะฟ้องกลับ ยืนยันไม่กลัวอิทธิพลและอำนาจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่นางอังคณามารับเรื่อง นางพรรณีก็โผเข้ากอดพร้อมร่ำไห้และกล่าวว่า " เมื่อเช้าหนูหาที่พึ่งอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้จะพึ่งจะอะไรแล้ว" 

ด้านนางอังคณา  กล่าวว่าเบื้องต้นจะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่ามีการกระทำเกินกรอบของกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ส่วนกรณีที่ตำรวจเข้าไปบุกจับของพันตำรวจโทสันธนะภายในคอนโดมีเนี่ยมเมื่อวันที่12พฤษภาคม จะเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น เบื้องต้นรับแจ้งจากตำรวจว่ามีเหตุผลในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมมีหมายค้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูว่าการเข้าจับกุมมีความรุนแรงหรือไม่ รวมถึงพันตำรวจโทสันธนะได้รับสิทธินตามกฎหมายหรือไม่

นอกจากนี้นางอังคณากล่าวถึงกรณีที่ตำรวจออกหมายเรียกบิดาของพ.ต.ท.สันธนะเข้ามาให้ปากคำ จะต้องตรวจสอบว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของบุคคลไม่ใช่เรื่องของครอบครัว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"