ทนายสิทธิฯ ยันมีหลักฐานผู้ต้องหาเป็นแพทย์อาสา DNA เตรียมพิจารณาฟ้องกลับ


เพิ่มเพื่อน    

15 ก.พ.64 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของผู้ต้องหากลุ่มราษฎร 8 ราย คดีชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์หลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ว่า ตนรับมอบอำนาจจากผู้ปกครองและญาติของผู้ต้องหา นำเงินสดมายื่นขอประกันตัวทั้ง 8 คนต่อศาล โดยยื่นประกันต่อคน คนละ 35,000 บาท ให้เหตุผลว่าทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ไม่มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน มีแหล่งที่อยู่อาศัยชัดเจน ตามตัวได้

สำหรับ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาอายุ 19 ปี (นายปุรพล วงศ์เจียก อายุ 19 ปี) ที่เป็นอาสาสมัครทีมแพทย์ DNA ปรากฏภาพถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายขณะเข้าจับกุมในวันเกิดเหตุนั้น เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมขว้างปา ทำลายข้าวของ หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านการพยาบาล โดยมีหลักฐานเป็นกระเป๋าแพทย์ใช้ปฐมพยาบาล รวมถึงเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สัญลักษณ์อาสาสมัครแพทย์ที่ติดตัว และมีพยานเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของกลุ่ม DNA ยืนยันได้ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า อาสาทางการแพทย์คนดังกล่าวมีร่องรอยบาดเจ็บเป็นรอยลักษณะเป็นทางยาวที่บริเวณหลังและแขน น่าจะถูกกระบองฟาด

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการปรึกษากันว่าหลังจากนี้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายอาสาสมัครทางการแพทย์รายนี้ รวมถึงผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 7 คนด้วย

ด้าน นายเกียรติตระกูล ใจไทย อายุ 47 ปี เป็นนักเขียนนามปากกา "บิ๊กป๋วยใจไทย" พ่อของผู้ต้องหาอายุ 19 ปีอีกราย ที่ตกเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องหา (นายทองนพเก้า ใจไทย อายุ 19 ปี) เล่าว่า ตัวเองเห็นข่าวอาสาสมัครทางการแพทย์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายก่อนจับกุมตัวไปก็เริ่มตกใจ เนื่องจากรู้ภายหลังว่าลูกชายเข้าร่วมการชุมนุมในวันนั้นด้วย และไม่สามารถติดต่อได้เลยหลังเกิดเหตุ กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ เพิ่งทราบว่าลูกชายของตนถูกคุมตัวไปไว้ที่ ตชด.ภ.1 จากการพูดคุยกับลูกชาย 5 นาที ลูกชายยอมรับว่าอยู่ในจุดเกิดเหตุจริง แต่ส่วนตัวฝากตั้งคำถามไปถึงเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อลูกชายตนยอมทรุดนั่งลงกับพื้นยอมให้จับกุมแล้ว เหตุใดจึงยังต้องทำร้ายร่างกายขนาดนั้น ทั้งที่ตำรวจก็ยอมรับเองว่า จากการตรวจค้นไม่พบอาวุธอยู่ภายในตัวของลูกชายและผู้ต้องหารายอื่นๆ รวมทั้ง 8 คน ซึ่งตนก็คิดว่าคนที่ก่อเหตุยั่วยุ ขว้างปา ทำร้ายเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านั้น คงหนีไปหมดแล้ว พร้อมขอประณามการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังจับกุมบุคคลไม่มีทางสู้และไม่มีอาวุธ ว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ในฐานะหัวอกคนเป็นพ่อเห็นคลิปการทำร้ายร่างกายต่างๆ แล้วยอมรับว่าสะเทือนใจ และรับไม่ได้เพราะลูกใครใครก็รัก หากลูกชายตนเองเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"