ใจหายอัญเชิญฉัตรจากยอดพระเมรุมาศ


เพิ่มเพื่อน    

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้  องคมนตรีอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ วธ.-กรมศิลป์เริ่มรื้อถอนย้ายตามแผนแล้ว  ประชาชนใจหายน้ำตาไหลตลอดพิธี ตั้งจิตอธิษฐานขอตามรอยคำสอนของพ่อ
        ที่พระที่นั่งทรงธรรม มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และพิธีบวงสรวงการรื้อถอน/ย้ายพระเมรุมาศ และพิธีอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ โดยประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  
    เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา (ศน.) อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป ประกอบด้วย สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร, สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม, พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, พระพรหมดิลก วัดสามพระยา, พระธรรมปัญญาบดี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์, พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวราราม, พระเทพวีราภรณ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, พระเทพปริยัติมุนี วัดหงส์รัตนาราม, พระศริภัททิยบดี วัดชนะสงคราม และพระศรีวิสุทธิกวี วัดบวรนิเวศวิหาร สวดพระพุทธมนต์ 
    จากนั้นประธานในพิธีถวายเครื่องไทยธรรม ประธานในพิธีทอดผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์ 10 รูป สดับปกรณ์ พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานในพิธีกรวดน้ำรับพร เวลา 08.00 น. พระสงฆ์ 89 รูป ออกรับบิณฑบาตรอบพระเมรุมาศ โดยมีคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร และประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
         ในเวลา 10.10 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ ก่อนจะมีพิธีรื้อถอน/ย้ายพระเมรุมาศตามแผนงานที่กำหนด โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวรายงานต่อผู้แทนพระองค์ว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ท่านเป็นผู้แทนพระองค์ ในการเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศครั้งนี้ นับเป็นขวัญและกำลังใจอันสำคัญยิ่งต่อผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยทั่วกัน โดยที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสร็จสิ้นลุล่วงทุกประการแล้วนั้น ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพิธีเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศและรื้อถอนพระเมรุมาศกับอาคารประกอบทั้งปวงโดยลำดับต่อไป
         จากนั้น ในเวลา 10.19 น. ประธานในพิธีจุดธูปเทียนที่โต๊ะเครื่องสังเวยบวงสรวง เจ้าหน้าที่โหรพราหมณ์สั่นฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ จากนั้นประธานปักธูปบริวารที่เครื่องบวงสรวง เสร็จแล้ว จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและกราบ หัวหน้าพราหมณ์กล่าวโองการทำพิธีบวงสรวงการรื้อถอนและย้ายพระเมรุมาศ ประธานมายังหน้าชาลาพระเมรุมาศ ประพรมน้ำมนต์ที่หน้าชาลาพระเมรุมาศ รับค้อนจากเจ้าพนักงาน เคาะที่ชาลาหน้า 3 ครั้ง เจ้าหน้าที่โหรพราหมณ์ลั่นฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ ประธานโปรยข้าวตอก ดอกไม้ จากนั้นประธานอัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศเป็นอันเสร็จพิธี
         นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ในเบื้องต้น วธ.ได้จัดทำแผนการย้าย ดังนี้ บุษบก โครงสร้างเหล็ก ลิฟต์ นำไปจัดเก็บที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ประติมากรรมทั้งหมดเคลื่อนย้ายไปจัดเก็บยังอาคารประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ พระจิตกาธาน พระโกศจันทน์ เคลื่อนย้ายไปจัดแสดงที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร 
    สำหรับการรื้อถอน/ย้ายพระที่นั่งทรงธรรมบางส่วนนำไปก่อสร้างเป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี การรื้อถอน/ย้ายศาลาลูกขุน 1 จำนวน 4 หลัง ย้ายไปก่อสร้าง ณ สำนักช่างสิบหมู่ ศาลาลูกขุน 2 และทับเกษตร จำนวน 2 หลัง นำไปก่อสร้างบริเวณอาคารจัดแสดงนิทรรศการฯ รวมถึงเคลื่อนย้ายกระถางต้นไม้ประกอบภูมิทัศน์  
    ส่วนนิทรรศการที่จัดแสดงบนพระที่นั่งทรงธรรม จำนวน 61 บอร์ด ประกอบด้วย โซนที่ 1 เมื่อเสด็จอวตาร, โซน 2 รัชกาลที่ร่มเย็น และโซน 4 นำพระราชไมตรี 46 บอร์ด มอบให้พระราชวังพญาไท, โซน 3 เพ็ญพระราชธรรมจำนวน 10 บอร์ด มอบให้หอวชิราวุธานุสรณ์, โซน 5 พระจักรีนิวัตฟ้า 5 บอร์ด มอบกรมศิลปากร นำไปจัดแสดงที่หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนิทรรศการภายในศาลาลูกขุนทั้ง 6 หลัง จัดเก็บที่สำนักช่างสิบหมู่
        นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำหรับนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทางกรมศิลปากรจะได้อัญเชิญไปประดิษฐานยังกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ส่วนงานประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศจะทยอยขนย้ายทั้งหมดเก็บที่สำนักช่างสิบหมู่ รออาคารขนาด 30x60 เมตร จัดสร้างเสร็จ จะเปิดให้นักเรียน นักศึกษาได้เรียนรู้ สำหรับพระจิตกาธาน พระโกศจันทน์ รวมถึงฉากบังเพลิง 1 ทิศ กรมศิลปากรจะจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ก่อนเป็นเวลา 2 ปี หลังจากอาคารนิทรรศการที่จังหวัดปทุมธานีสร้างเสร็จ จะเคลื่อนย้ายไปจัดแสดงในอาคารดังกล่าวแทน โดยการรื้อถอนจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค.2561 จากนั้นจะส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรุงเทพมหานครในการปรับภูมิทัศน์ท้องสนามหลวงต่อไป
         ต่อมาเวลา 10.50 น. ที่บริเวณแปลงนาหมายเลข 9 งานภูมิสถาปัตยกรรมประกอบพระเมรุมาศ กรมการข้าวจัดพิธีเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในแปลงนาพื้นที่กว่า 1 ไร่ โดยมีคุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการประจำสำนักพระราชวังพิเศษ สำนักพระราชวัง, นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์, พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1, นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเป็นปฐมฤกษ์ ก่อนเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา และศูนย์วิจัยข้าวคลองหลวง เข้าเกี่ยวข้าวทั้งหมด จากนั้นร่วมกับประชาชนจิตอาสาทยอยขนย้ายต้นข้าวทั้งหมดออกจากแปลงนาเลข 9 ขึ้นรถบรรทุกเตรียมขนย้ายต่อไป
         นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า วันที่ 11 ม.ค. เป็นวันเก็บเกี่ยวผลผลิต และเป็นครั้งสุดท้ายที่กรมการข้าวจะทำงานร่วมกับประชาชนจิตอาสาในการขนย้ายต้นข้าวทั้งหมดจำนวน 58,000 กระถาง ออกจากแปลงนาภายในวันเดียว ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำไปจัดทำตัวอย่างต้นข้าวเพื่อจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ณ อาคารนิทรรศการกองประสานงานโครงการพระราชดำริ กรมการข้าว และสถานที่สำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำเป็นของที่ระลึกเมล็ดข้าวของพ่อ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 แจกจ่ายจิตอาสาที่ร่วมจัดสร้างแปลงนาเลข 9 และประชาชนในโอกาสสำคัญต่อไป 
        "เมล็ดข้าวที่สมบูรณ์มอบหมายให้ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานีนำไปนวดและปรับสภาพจัดทำเป็นของมงคลและของที่ระลึกเมล็ดข้าวของพ่อ ส่วนกระถางทั้งหมดที่พิมพ์ข้อความกระถางในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2560 จะเก็บไว้ที่ศูนย์วิจัยปทุมธานีเช่นกัน" อธิบดีกรมการข้าวระบุ
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมทำบุญตักบาตรและร่วมพิธีบวงสรวงรื้อถอนต่างขอต้นข้าวและรวงข้าวบางส่วนจากเจ้าหน้าที่กรมการข้าวเพื่อเป็นของที่ระลึกนำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลที่บ้าน รวมถึงบางคนเป็นเกษตรกรจะนำเมล็ดข้าวไปเพาะปลูกในพื้นที่นาของตนเอง
       นางมณีรัตน์ ลาวเลิศ ชาว จ.สมุทรสาคร อายุ 59 ปี กล่าวว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนซึ่งมาจาก จ.สมุทรปราการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ เดินทางมาถึงพระเมรุมาศเวลา 06.00 น. เพื่อรอร่วมพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศถวายในหลวง ร.9 และชมพิธีบวงสรวงรื้อและอัญเชิญฉัตรลงจากยอดพระเมรุมาศ โดยอยากอยู่ที่นี่จนวินาทีสุดท้าย เพราะมาร่วมพิธีตั้งแต่วันยกเสาเอกพระเมรุมาศ วันแรกที่รื้อถอนก็ต้องมา ตอนอัญเชิญฉัตรลงรู้สึกใจหาย น้ำตาไหลตลอด ตนตั้งจิตอธิษฐานจะขอตามรอยคำสอนของพ่อ ทั้งเรื่องทำความดี ซื่อสัตย์สุจริต และมีจิตอาสา ทุกคำสอนใช้ได้ผล จะนำไปสอนลูกหลานให้ปฏิบัติตาม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"