15 ก.พ. 64 - ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องทวงถามนายกรัฐมนตรี กรณีสำนักตรวจเงินแผ่นดินสงขลาได้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สงขลา สมัยที่มีนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นนายก อบจ.สงขลา และอดีตนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา กว่า  34 ล้านบาท ที่นำไปอุดหนุนให้กับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา ประจำปีงบประมาณ 2558-59 โดยมิชอบนั้น

ซึ่งต่อมาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้มีมติเมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ว่าเป็นการอุดหนุนเงินงบประมาณเกินอำนาจหน้าที่และเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2543 และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มีหนังสือเห็นพ้องด้วยกับข้อทักท้วงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสรุปว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาซึ่งมีนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นนายก ตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลาเกินอำนาจหน้าที่และการใช้จ่ายไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยมีหนังสือของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เมื่อ 17 มิ.ย.62  แจ้งท่านนายกฯเพื่อเป็นข้อมูล-หลักฐาน ประกอบการพิจารณาตัดสินใจไม่เสนอชื่อบุคคลบางคนให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ตามม.158 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วด้วย

นอกจากนั้นในกรณีดังกล่าว ได้มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา คือ นายอนันต์ หยดย้อย ได้มีหนังสือร้องเรียนกล่าวโทษนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว และต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2563 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และต่อมาสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปยังผู้ร้องแล้ว ซึ่งในหนังสือฉบับดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ได้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอํานาจแต่งตั้งหรือถอดถอนของผู้ถูกร้อง ดําเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอํานาจ ตามมาตรา 64 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.63 ที่ผ่านมา กระทั่งจนบัดนี้ ก็ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าในการปฏิบัติให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่านายนิพนธ์ บุญญามณี จะถูกลงโทษหรือดําเนินการทางวินัยตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา160 (4) (6) และ (8) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และต้องไม่มีประวัติหรือกระทำการอันมีลักษณะการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม (ก.ม.จ.) ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ซึ่งมีอำนาจตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 19 ของกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะต้องดำเนินการลงโทษนายนิพนธ์ บุญญามณี ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติได้ส่งเรื่องมาให้ดําเนินการทางวินัย แต่หากนายกฯเพิกเฉยนายกรัฐมนตรีก็อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้ และหรืออาจถูกฝ่ายค้านนำไปอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ได้

"เมื่อความปรากฏเช่นนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงใคร่กราบเรียนมายังนายกฯ เพื่อสอบถามว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาดำเนินการลงโทษนายนิพนธ์ บุญญามณี ตามครรลองของกฎหมายที่ ป.ป.ช.แจ้งมาแล้วหรือไม่ อย่างไร และถือว่านายนิพนธ์ บุญญามณี มีคุณสมบัติการเป็นเป็นรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา160 บัญญัติหรือไม่ รวมทั้งขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ อย่างไรด้วย" นายศรีสุวรรณ ระบุ.