ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 166 ราย ข่าวดีหายป่วยวันเดียวเกือบ 1 พันราย "สธ." ห่วงคลัสเตอร์แม่ค้าตลาดปทุมธานี หลังพบเดินทางไปหลายจังหวัด เตือนใครสัมผัสพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดพรพัฒน์หากมีอาการต้องรีบพบแพทย์ ผงะ! พบผู้ป่วยสายพันธุ์แอฟริการายแรกแล้ว
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประเทศไทยประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 166 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 138 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 49 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 89 ราย ในจำนวนนี้มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ จ.สมุทรสาคร 11 ราย, ปทุมธานี 67 ราย, นนทบุรี 1 ราย, ระยอง 3 ราย, ตาก 7 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 28 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 24,571 ราย
"วันนี้มีผู้หายป่วยถึง 931 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 22,111 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,380 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 80 ราย" ศบค.ระบุ
ทั้งนี้ มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา 12 จังหวัด, มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในช่วง 3-6 วันที่ผ่านมา 2 จังหวัด, มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในช่วง 7-14 วันที่ผ่านมา 4 จังหวัด, มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในช่วง 15-28 วันที่ผ่านมา 13 จังหวัด, มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 28 วัน 32 จังหวัด และมีจังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อ 14 จังหวัด ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 109,101,906 ราย เสียชีวิตสะสม 2,405,387 ราย
ขณะที่ ศบค.กรุงเทพมหานครรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. มีผู้ติดเชื้อใหม่ 11 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด แบ่งเป็นเพศชาย 3 ราย อายุ 30-47 ปี เพศหญิง 8 ราย อายุ 26-66 ปี เป็นสัญชาติไทย 10 ราย และสัญชาติเมียนมา 1 ราย อาชีพพนักงานมหาวิทยาลัย 1 ราย, แม่บ้าน 1 ราย, ค้าขาย 3 ราย, พนักงานบริษัท 3 ราย, ลูกจ้างหน่วยงานรัฐ 1 ราย, ว่างงาน 1ราย, ไม่ระบุ 1 ราย เคยมีประวัติติดเชื้อ 1 ราย มีอาการ 6 ราย ไม่มีอาการ 5 ราย โดยผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 ราย, โรงพยาบาลเอกชน 7 ราย, โรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย และอยู่ระหว่างประสานงาน 1 ราย ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.2563-14 ก.พ.2564 รวมอยู่ที่ 923 ราย อยู่อันดับ 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในประเทศ รองจาก จ.สมุทรสาคร ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 15,508 ราย
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 166 ราย ติดเชื้อในประเทศ 138 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการสาธารณสุข 49 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 89 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 28 ราย โดยเป็นที่น่าสังเกตว่ามีการติดเชื้อจากต่างประเทศค่อนข้างสูง ทั้งนี้ สถานการณ์ในพื้นที่สมุทรสาครมีผู้ป่วยรายใหม่ 44 ราย ถือว่าควบคุมได้ดี จากการควบคุมพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคสูงในโรงงาน รวมทั้งคัดกรองเชิงรุกรอบๆ โรงงาน ส่วนสถานการณ์ กทม. วันนี้มี 11 ราย ใกล้เคียงกับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นอกจากนั้นมีการพบผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุกใน จ.ปทุมธานี และ จ.ตาก
ห่วงคลัสเตอร์แม่ค้าปทุมฯ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในการพบผู้ป่วยภายในประเทศค่อนข้างคงตัว แปลว่าแหล่งการแพร่ระบาดใหญ่ๆ เริ่มลดลง ส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดเล็กๆ และการติดเชื้อไม่ค่อยสูง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อใน 10 จังหวัด แสดงว่ามาตรการของจังหวัดอื่นๆ ค่อนข้างได้ผล ทำให้ไม่พบผู้ติดเชื้อ
นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนสถานการณ์รวมรอบ 7 วันที่ผ่านมา ที่ จ.สมุทรสาคร แนวโน้มการพบผู้ป่วยลดลง ส่วน กทม.บางวันเพิ่มบางวันลด แต่ที่ต้องจับตาดูคือที่ จ.ปทุมธานีและ จ.ตาก โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดพรพัฒน์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยจากที่เรารวบรวมข้อมูลค้นพบผู้ติดเชื้อประมาณกว่าร้อยราย จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกกว่าพันราย โดยมีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทั้งหมด 4 วัน และวันนี้ยังคงลงพื้นที่ตรวจเพิ่มเติมกันอยู่
"สำหรับเหตุการณ์ติดเชื้อในตลาดในครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรก มีหลายเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ตลาดมหาชัยในพื้นที่สมุทรสาคร เนื่องจากมีแม่ค้าที่ขายหลายตลาด เวลามีการติดเชื้อขึ้นมาก็จะมีการติดเชื้อไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยในกรณีนี้พบว่าผู้ป่วยรายแรกมีการค้าขายที่สมุทรสาคร และค้าขายที่ปทุมธานี ส่วนเหตุที่มีการติดเชื้อในตลาดแม้จะเป็นอาคารในที่แจ้ง แบ่งเป็นล็อกๆ ทีมสอบสวนโรคลงไปดูและตั้งข้อสังเกตว่า ส่วนใหญ่อาคารค่อนข้างเตี้ย ตรงกลางอากาศไม่ค่อยถ่ายเท แม่ค้ามีการรับประทานอาหารด้วยกัน และอากาศร้อน บางครั้งไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้นจึงเป็นจุดที่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องตลาด ทั้งการถ่ายเทของอากาศ ความเคร่งครัดการใส่หน้ากากอนามัย การระบุคนที่เข้า-ออกตลาด จึงเป็นเรื่องที่จะต้องแจ้งเตือนคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งแม่ค้าและลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัย และต้องให้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี" นพ.โอภาสกล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า สิ่งที่ต้องแจ้งเตือนขณะนี้พบแม่ค้าหรือผู้เกี่ยวข้องกับตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี มีการเดินทางไปจังหวัดอื่น ทำให้โรคกระจายไปจังหวัดอื่นเพิ่มเติม เช่น นครนายก เพชรบุรี สระบุรี กทม. พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครราชสีมา และจังหวัดแพร่ หากใครที่พบหรือเคยสัมผัสกับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดพรพัฒน์ ระหว่างวันที่ 9-13 ก.พ. หรือก่อนหน้านี้ประมาณ 7 วัน หากไม่แน่ใจหรือมีอาการผิดปกติ ให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อซักประวัติและให้คำแนะนำ เพื่อจะได้มีการดำเนินการที่ถูกต้องต่อไป หรือหากสงสัย สามารถสอบถามมาที่กรมควบคุมโรค สายด่วน 1422 ซึ่งเรื่องนี้ต้องแจ้งเตือนจริงๆ เพราะหากทราบข้อมูลว่าสัมผัสผู้ติดเชื้อแล้วไปรับการตรวจก็จะทำให้โรคไม่แพร่ไปยังจังหวัดอื่นๆ
นพ.โอภาสกล่าวว่า ในส่วนสถานการณ์ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่พบผู้ป่วย ขณะนี้มีการตรวจเชิงรุกชุมชนตลาดสีมอย ตลาดพาเจริญ ชุมชนอันซอ ตรวจตามโรงงานต่างๆ และซุ้มเลี้ยงไก่ชน โดยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 112 ราย ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีการติดต่อมีการระบาดในชุมชนซึ่งเชื่อมโยงกับชาวเมียนมา โดยทาง จ.ตาก ได้มีการปิดพื้นที่บางส่วน และมีการค้นหาเชิงรุกในชุมชน ทั้งนี้ ในพื้นที่แพร่ระบาดขอให้สวมหน้ากากอนามัย 100% และเว้นระยะห่าง
นพ.โอภาสยังกล่าวถึงการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ และมีสายพันธุ์ South African Variant รายแรกของไทย ว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นชายไทย อายุ 41 ปี มีโรคประจำตัวหอบหืด ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกิน ค่าเฉลี่ย BMI อยู่ที่ 31 และมีประวัติเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ ทำอาชีพรับซื้อพลอยในแทนซาเนีย โดยอยู่ที่แอฟริกานาน 2 เดือน ระหว่างที่อยู่ที่นั่นมีการร่วมงานเลี้ยง ซึ่งวัฒนธรรมของคนแอฟริกาไม่สวมหน้ากาก โดยให้เหตุผลว่าประเทศไม่มีผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 29 ม.ค. โดยมาต่อเครื่อง มาจากเอธิโอเปีย ตรวจคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีไข้ หรืออาการป่วย จึงนำตัวไปกัดที่ State Quarantine โดยมีการเก็บตัวเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ให้ผลเป็นบวก จึงถูกนำตัวรับการรักษาที่ รพ.รัฐในวันที่ 4 ก.พ. และเริ่มพบว่ามีไข้ต่ำ จึงแยกรักษาในห้องแยก ความดันลบ และมีทีมสอบสวนเก็บตัวอย่างเชื้อ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. โดยพบตรวจของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ สภากาชาดไทย พบว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ South African Variant เมื่อวันที่ 12 ก.พ. จากนั้นทีมสอบสวนโรคจึงได้ลงไปสอบสวนโรค ผู้ที่สัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายใหม่ ทั้งใน State Quarantine และ รพ. รวม 41 คน โดยพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนสวมเครื่องป้องกันตนเองอย่างดี
"การพบผู้ป่วยติดเชื้อรายนี้ ถือว่านำตัวเข้าระบบได้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้ไปสัมผัสกับผู้อื่น เนื่องจากเมื่อมาถึงไทยได้เข้าอยู่ใน State Quarantine ซึ่งสายพันธุ์แอฟริกาใต้นี้พบว่ามีผลกับประสิทธิภาพของวัคซีน จึงเป็นสาเหตุให้มีรายงานหยุดการใช้วัคซีนบางชนิด ไป แต่ยังไม่พบอัตราป่วยหรือแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น สำหรับประเทศที่มีรายงานพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกานี้ ได้แก่ ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ทั้งนี้ มาตรการคัดกรอง ต้องทำให้รวดเร็ว หากพบผู้เดินทางมาจากแอฟริกา ต้องเก็บตัวอย่างทันทีที่ถึงไทยเพื่อเฝ้าระวัง" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
ชี้เจรจาวัคซีนโดยตรงเหมาะ
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีข่าวไทยตกขบวนรับวัคซีนฟรีจากโครงการโคแวกซ์ หรือ COVAX หรือโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลกว่า ไทยได้ส่งหนังสือแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงต้นของโครงการแล้ว แต่เนื่องจากกรอบการจัดสรรวัคซีนและข้อตกลงการจองวัคซีนที่กำหนดโดยองค์การอนามัยโลกในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงต้นของการพัฒนาวัคซีนทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่าแม้ทำการจองไปแล้ว จะยังไม่ทราบว่าวัคซีนที่จองไปแล้วนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ การตัดสินใจของรัฐบาลเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบ ท่ามกลางข้อจำกัดและบริบทหลายด้าน ผ่านคณะทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและนอกกระทรวง ทั้งด้านวิชาการ กฎหมาย การเงิน เพื่อร่วมกันพิจารณาเงื่อนไขของการทำข้อตกลงสั่งจองวัคซีน จึงเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานระหว่างผลประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะอาจจะไม่ได้รับวัคซีนหากการพัฒนาไม่สำเร็จ ล่าช้า และจำเป็นต้องเสียเงินค่าจองล่วงหน้า
"เมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดที่มีทั้งหมดในการเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์แล้ว การที่ประเทศไทยทำความตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 จากผู้ผลิตโดยตรงจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ เนื่องจากมีความยืดหยุ่นกว่า สามารถต่อรองราคาและเงื่อนไขได้โดยตรงกับผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลยืนยันว่า เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนไทยเป็นหลัก รัฐบาลไม่ปิดกั้นการเจรจากับที่ใด หากโคแวกซ์ปรับเงื่อนไข รวมถึงข้อเสนอต่างๆ ซึ่งหากไทยเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ยังสามารถทำข้อตกลงผ่านโคแวกซ์ได้ในอนาคต" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการออกหมายเรียกนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ และผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าเจ้าตัวยังไม่ได้แจ้งว่าจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 ก.พ.นี้หรือไม่ แต่หากไม่มาก็ต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2
มีรายงานว่า ทนายความของดีเจมะตูมได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาไปก่อน อย่างไรก็ตาม หากวันที่ 17 ก.พ. ดีเจมะตูมไม่ติดต่อเข้ามา พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกอีกครั้งทันที.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |