เดรัจฉานตลอดกาล


เพิ่มเพื่อน    

       จับตาอย่ากะพริบ!

            มีนักการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง และเอ็นจีโอ พยายามดึงอเมริกา และองค์การสหประชาชาติ เข้ามาร่วมล้ม ม.๑๑๒

            ไม่กี่วันก่อนสำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกา (วีโอเอ) รายงานโดยอ้างถึงแถลงการณ์ จากโฆษกที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ระบุว่านายเจก ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ รัฐบาลนายโจ ไบเดน  ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดคุยทางโทรศัพท์กับ พล.อ.ณัฐพล  นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)  เมื่อวันจันทร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

            เนื้อหาการพูดคุย อเมริกาแสดงความกังวลถึงการจับกุมผู้ประท้วงในไทย และดำเนินคดีมาตรา ๑๑๒

            แต่ พล.อ.ณัฐพล เป็นงง!

            ไม่มีการพูดถึง ม.๑๑๒

            พูดจริงไม่จริงมิทราบ แต่สามารถสรุปได้ว่า อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงให้มีการแก้กฎหมายของไทย

            นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

            ทำไมถึงมีการพูดถึง ม.๑๑๒ กันมาก

            ย้อนกลับไปช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว "นายกฯ ลุงตู่"  ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

            "....สิ่งที่กังวลมากที่สุดในขณะนี้คือการละเมิดสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะกระแสข่าวการเคลื่อนไหวนอกประเทศ  โดยขอร้องอย่าเชื่อถือข้อมูลบิดเบือนที่เผยแพร่ตามสื่อต่างๆ เพื่อหวังสร้างความเกลียดชัง

                สำนึกไว้ด้วยว่ามาตรา ๑๑๒ ทำไมถึงไม่มีการดำเนินคดี และทำไมถึงมีคนฉวยโอกาสตรงนี้ขึ้นมา ทรงมีพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณกำชับมากับผมโดยตรง ๒-๓ ปีที่ผ่านมาไม่มีการใช้ มาตรา ๑๑๒

                ทำไมไม่คิดตรงนี้ ลามปามกันไปเรื่อย

                ทุกคนที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องช่วยกัน  โดยเฉพาะลูกหลานของท่าน ประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงประเทศโดยใช้ความรุนแรงเหมือนประเทศอื่น ต้องศึกษาดูด้วย ทุกคนมีพฤติกรรมเหล่านี้มา วันหน้าทำงานยาก บริษัทห้างร้านก็จะไม่ต้องการคนแบบนี้ จะทำอะไรกิน  ห่วงเขาตรงนี้ต่างหาก ซึ่งเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ อยู่ที่คนชักนำเขาต่างหาก....."

            จะเห็นได้ว่านับแต่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงขึ้นครองราชย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ จนถึงต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีการฟ้องร้องด้วย ม.๑๑๒ เลย

            ไม่มีจนแก๊งล้มเจ้าได้ใจ

            อานนท์-เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์-สมยศ ฯลฯ กล่าวให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่องเป็นปี ใช้ข้อมูลเท็จยัดใส่สมองมวลชน ๓ นิ้ว

            กลายเป็นว่าถ้าคนรุ่นใหม่คนไหนไม่ต่อต้านสถาบัน เท่ากับว่าคนนั้นไม่เท่!

            ฟางเส้นสุดท้ายขาดเมื่อมีการพาดพิงไปถึงในหลวง  ร.๙ ทำให้ ม.๑๑๒ ถูกนำกลับมาใช้ เพื่อปกป้องพระเกียรติภูมิของสถาบัน

            แต่กลายเป็นว่า ม.๑๑๒ เป็นกฎหมายปิดปาก 

            อเมริกามองว่าเป็นเครื่องมือของเผด็จการ

            แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมที่ต่างกัน

            อเมริกันไม่คุ้นชินการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

            เช่นเดียวกันคนไทยไม่คุ้นชิน ประชาธิปไตยแบบอเมริกา ที่มีเสรีภาพมากมายก่ายกอง ไม่เว้นกระทั่งเสรีภาพในการสังหารหมู่

            คนไทยรู้สึกประหลาดใจที่ชาวอเมริกันสามารถถืออาวุธสงคราม เดินเพ่นพ่านบนถนนได้ แถมยังขู่จะเปิดสงครามกับทหารประเทศตัวเอง ดังที่ม็อบหนุนโดนัลด์  ทรัมป์ ทำก่อนหน้านี้

            อเมริกันเคยชินกับการสังหารหมู่ตามโรงเรียน เพราะอาวุธปืนคือวัฒนธรรมของอเมริกา

            เจมส์ แมดิสัน (James Madison) ประธานาธิบดีคนที่  ๔ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา

            เป็นทั้งนักปฏิวัติ ลอร์ดผู้ครอบครองทาส

            เมื่อดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี เจมส์ แมดิสัน  ได้ร่าง "Bill of Rights" หรือ "บัญญัติสิทธิ" ขึ้น ตามด้วยข้อกฎหมายต่างๆ ที่พร้อมให้เสรีภาพแก่ประชากรอเมริกัน

            มาตราที่เกี่ยวกับอาวุธปืนในกฎหมายที่ยังบังคับใช้ตราบถึงปัจจุบันนั้น ได้ผ่านการยกร่างถึง ๗ ครั้ง

            ก่อนจะมีการลงมติเห็นชอบของสภาคองเกรสเมื่อปี  ๑๗๙๑ 

            ใจความสำคัญของกฎหมายนี้คือ เป็นสิทธิของพลเมืองที่จะครอบครองและพกพาอาวุธได้โดยเสรี

            ปัจจุบัน บนแผ่นดินอเมริกามีอาวุธปืนอยู่ประมาณ  ๓๐๐ ล้านกระบอก

            ขณะที่ประชากรในอเมริกามีประมาณ ๓๓๐ ล้านคน

            ตีซะว่าอเมริกัน ๑ คน ครอบครองอาวุธปืน ๑  กระบอก

            แล้ว อเมริกาเคยคิดจะแก้ไขกฎหมายนี้หรือไม่

            คำตอบคือ เคย แต่แก้ไขไม่ได้ เพราะมันเป็นวัฒนธรรมอเมริกัน

            คาวบอยไม่มีปืน จะเป็นคาวบอย ได้อย่างไร

            สำหรับ ม.๑๑๒ ของไทย ก็เช่นกัน

            มีบริบททางวัฒนธรรมไม่ต่างไปจากอเมริกา

            แต่ในทางสังคมนั้นแตกต่างกันมาก

            ทศวรรษที่ ๙๐ มีผู้เสียชีวิต ๓๖ รายจากเหตุกราดยิงโรงเรียน ๑๓ ครั้ง

            ขณะที่นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๓-๒๕๖๑ มีผู้เสียชีวิตถึง ๖๖  ราย จากเหตุกราดยิง ๒๒ ครั้ง

            แล้ว ม.๑๑๒ ของไทย ทำให้คนตายไปกี่คน?

            ม.๑๑๒ ไม่เคยฆ่าใคร

            บางคนอาจแย้งว่า จะนำ ๒ เรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ก็แล้วแต่จะคิดครับ

            แต่ในมุมรากเหง้าของประเทศแล้ว ทั้ง ๒ กรณีนี้ต่างก็มีที่มาที่สำคัญ และต่างมีส่วนในการสร้างชาติเหมือนกัน

            สาเหตุที่ปืนกลายเป็นวัฒนธรรมของอเมริกา เพราะเมื่อครั้งยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษและมีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพ ทางการอังกฤษจึงมีความพยายามเข้ามายึดอาวุธ

            เพราะฉะนั้นอเมริกาจึงถือว่าสิทธิในการครอบครองอาวุธนั้นมีความสำคัญในการปกป้องตนเองจากรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม

            เมื่อเริ่มก่อตั้งประเทศ อเมริกามีอาชญากรรมมากมาย  โดยเฉพาะยุคคาวบอย ประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว กฎหมายออกตามมาไม่ทัน  

            ปืนจึงเป็นเครื่องการันตีในชีวิตและทรัพย์สิน

            ไทยสร้างชาติภายใต้การนำของพระมหากษัตริย์

            การเคารพนับถือพระมหากษัตริย์สืบทอดต่อเนื่องมานับร้อยๆ ปี

            ฉะนั้นการมีกฎหมายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็คือการปกป้องรากเหง้าของชาติ

            อธิบายแบบนี้อเมริกาจะเข้าใจหรือไม่ก็ช่างมัน

            แต่คนไทยบางคนที่แสร้งไม่เข้าใจ แล้วที่พยายามดึงอเมริกาเข้ามาเพื่อต่อต้าน ม.๑๑๒ แนวความคิดนี้จึงไม่ต่างไปจากการล้มล้างสถาบัน

            ไล่ไปอยู่ประเทศอื่นมันโหลไป

            สำหรับคนไทยพวกนี้มีจุดจบเดียวคือเป็นเดรัจฉาน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"