ทางการจีนสั่งระงับการออกอากาศของสถานีบีบีซีเวิลด์นิวส์ อ้างละเมิดแนวทางปฏิบัติในการออกอากาศ หลังจากสื่ออังกฤษรายงานขุดคุ้ยเกี่ยวกับการปฏิบัติของจีนต่อชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในเขตซินเจียง

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า การตัดสินใจของสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีนที่ห้ามการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์บีบีซีเวิลด์นิวส์ของอังกฤษในจีนแผ่นดินใหญ่ เกิดไม่กี่วันหลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษเพิกถอนใบอนุญาตออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ไชน่าโกลบอลเทเลวิชันเน็ตเวิร์กส์ (ซีจีทีเอ็น) ของจีน โดยอ้างว่าซีจีทีเอ็นทำผิดกฎหมายเจ้าของกิจการที่มีรัฐสนับสนุน ภายหลังสอบสวนพบว่าบริษัท สตาร์ไชน่ามีเดีย ครอบครองใบอนุญาตโดยมิชอบ และทำให้จีนกล่าวหาว่าอังกฤษเซ็นเซอร์สื่อของจีน

    แถลงการณ์ที่ออกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีกล่าวว่า รายงานของบีบีซีเวิลด์นิวส์เกี่ยวกับจีนนั้นละเมิดแนวทางปฏิบัติในการออกอากาศของจีนอย่างร้ายแรง แนวทางดังกล่าวรวมถึงการกำหนดว่า ข่าวควรเป็นความจริงและยุติธรรม และต้องไม่ทำร้ายผลประโยชน์แห่งชาติของจีน สำนักงานไม่อนุญาตให้บีบีซีออกอากาศต่อไปในจีน และจะไม่ยอมรับการยื่นขออนุญาตออกอากาศแบบรายปีครั้งใหม่ด้วย

    บีบีซีเพิ่งเผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ บอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการทารุณทรมานและความรุนแรงทางเพศต่อสตรีชาวอุยกูร์ภายในค่ายของจีนที่ซินเจียง แต่กระทรวงการต่างประเทศของจีนปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

    นอกเหนือจากรายงานเกี่ยวกับซินเจียง บีบีซียังรายงานขุดคุ้ยเกี่ยวกับคำกล่าวหาว่าจีนปกปิดเกี่ยวกับต้นตอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่พบครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2562

    ด้านบีบีซีกล่าวว่า รู้สึก "ผิดหวัง" กับการดำเนินการของจีน ซึ่งมีผลภายในจีนแผ่นดินใหญ่ แม้ว่าทางการจีนได้เซ็นเซอร์บีบีซีอยู่แล้วก่อนหน้านี้และห้ามการฉายในโรงแรมข้ามชาติ "บีบีซีเป็นสถานีข่าวต่างประเทศที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก และรายงานเรื่องราวจากทั่วโลกอย่างยุติธรรม, เป็นกลาง และปราศจากความหวาดกลัวหรือเข้าข้าง" โฆษกหญิงของบีบีซีกล่าว

    โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า การห้ามบีบีซีออกอากาศในจีนเป็น "การลิดรอนเสรีภาพสื่อที่ยอมรับไม่ได้"

    การดำเนินการของจีนเกิดในช่วงยามที่ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับจีนกำลังตึงเครียดจากความขัดแย้งในหลายประเด็น โดยเฉพาะภายหลังจีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติบังคับใช้ในฮ่องกง แล้วรัฐบาลอังกฤษเสนอช่องทางให้ชาวฮ่องกงหลายล้านคนสามารถยื่นขอสัญชาติอังกฤษได้ง่ายขึ้น

    อังกฤษยังทำให้จีนไม่พอใจจากการแบนบริษัทโทรคมนาคม หัวเว่ย ของจีน ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการเครือข่าย 5จี ของอังกฤษ หลังจากรัฐบาลสหรัฐแสดงความกังวลเรื่องการจารกรรมข้อมูล.