11 ก.พ.64 - ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งกรณีที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้นำตัวนายศศลักษณ์ สุขเจริญ หรือ ภูมิ การ์ดวีโว่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มราษฎรเมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มาศาลเพื่อยื่นคำร้องตรวจสอบการจับ คดีอาญาหมายเลขดำที่ ตจ.64/2564 ระหว่างพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ผู้ร้อง กับ นายศศลักษณ์ สุขเจริญ เรื่องครอบครองและใช้เครื่องวิทยุสื่อสารคมนาคม หรือส่วนใดๆแห่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลมีคำสั่งหมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน ต่อมาผู้ปกครองได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา

ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แต่เป็นคดีที่มีอัตราโทษไม่สูง ผู้ต้องหามีอายุยังน้อย ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคิด-19 อีกทั้งผู้ต้องหาแถลงว่าจะไม่กระทำความผิดอีกในขณะที่มีคดีอยู่ หากครั้งหน้าถูกจับกุมดำเนินคดีอีกก็ยินยอมให้ควบคุมตัว แต่เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหากระทำความผิดซ้ำและอาจมีพฤติกรรมหลบหนี จึงเห็นควรเรียกหลักประกัน เมื่อพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว จึงเห็นควรให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีหลักประกันจำนวน 30,000 บาท และนัดรายงานตัวในวันที่ 29 มี.ค. 2564 เวลา 08.30 น.

สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ โดยกลุ่มราษฎรนัดหมายกิจกรรม "รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ" เวลา 16.00 น. ที่สกายวอล์ก หน้า MBK โดยมีการเชิญชวนให้ผู้เข้ารวมชุมนุมนำภาชนะมาทำกิจกรรม "ตีหม้อ" เรียกร้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 โดยในเวลา 16.20 น. นายศศลักษณ์ สุขเจริญ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไป สน.ปทุมวัน พร้อมผู้ไว้ใจอีก 1 คน เนื่องจากทำผิดกฎหมายครอบครองวิทยุสื่อสารและพลุไฟ จนกระทั่งเวลา 19.30 น. ผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนไป สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมและผู้ที่ถูกสั่งคุมขังจากคดี 112

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตรวจสอบประวัติการร่วมชุมนุมของนายศศลักษณ์ สุขเจริญ พบว่ากระทำผิดกฎหมายหลายครั้ง โดยเพจเฟซบุ๊ก "ลุงหนวด หวดยับ" โพสต์ข้อความว่า ที่นี่มันประเทศไทย กฎหมายของประเทศมีเสือกไม่เคารพ เมื่อทำผิดก็ว่าไปตามผิด พวกคุณมึงอย่า...อ้างว่าตัวเองเป็นเยาวชน! ...ที่ผ่านมามึงทำอะไรไว้บ้างน่าจะรู้ ไม่มีกฎหมายข้อไหนบอกว่าเยาวชนทำอะไรไม่ผิด