"ประยุทธ์" โต้ "บวรศักดิ์" อย่าพูดให้คนเข้าใจผิด ชี้ 4 ปีงานปฏิรูปเพียบ ยันต้องใช้ ขรก.ขับเคลื่อน  สั่งสรุปรายละเอียดแจกแจง ฮึ่ม! ถ้าไม่เข้าใจกันอีก ถือว่าเราพูดกันคนละภาษา "โฆษกรัฐบาล" รับปฏิรูป 11 ด้านอาจทำไม่ได้ทุกเรื่อง เหตุสถานการณ์เปลี่ยนตลอด  "มีชัย" ระบุปฏิรูปจริงทำไม่มีวันเสร็จ แนะแค่ทำหลักๆ ก่อน "ลุงกำนัน" ให้กำลังใจ "บิ๊กตู่" มั่นใจไม่ทำเสียของ

    เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ท้วงติงกระบวนการปฏิรูป โดยห่วงจะไม่สำเร็จ เพราะให้ข้าราชการเป็นฝ่ายปฏิบัติว่า จากคำพูดดังกล่าวอยากให้ทุกคนกลับไปทบทวนว่ามีข้อเท็จจริงหรือไม่ อย่างไร และวันนี้ข้าราชการยังเป็นผู้มีบทบาทนำในการทำเรื่องต่างๆ หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างเริ่มโดยข้าราชการทั้งสิ้น เรายังต้องใช้ข้าราชการขับเคลื่อน ฉะนั้นจึงต้องดูการปฏิรูปในภาพรวมที่กำหนดในแผน โดยการปฏิบัตินั้นเป็นส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องร่วมมือกับประชาชน  เอกชน 

    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนอาจไม่เข้าใจเราปฏิรูปหรือยัง แต่วันนี้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ถ้าบอกเราไม่ปฏิรูป เราปฏิรูปนะ ที่ผ่านมามีปัญหาหลายประการ เช่น ความขัดแย้ง ความซับซ้อน กฎหมายไม่ทันสมัย ซึ่งเราทำไปแล้ว ทั้งกฎหมายอำนวยความสะดวก กฎหมายด้านการลงทุน ฯลฯ โดยข้าราชการนำไปสู่การปฏิบัติ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นผลในทันที อย่างไรก็ตาม ข้าราชการต้องเป็นผู้ปฏิบัติ ถ้าไม่เอาข้าราชการเลย ถามว่าจะทำได้หรือไม่ เป็นความร่วมมือแบบประชารัฐ 

    "หลายอย่างเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ อย่างการแก้ไขปัญหารถไฟทางคู่ นี่คือการปฏิรูปแล้ว อะไรก็ตามที่ไม่ได้ทำในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลนี้ทำ อย่างเรื่องประปา เราทำไปแล้วเกือบ 8,000 หมู่บ้าน จากที่ไม่มีประปาใช้ 9,000 กว่าหมู่บ้าน ในปีนี้จะเสร็จ ถนนเส้นทางต่างๆ ก็เกิดขึ้นในท้องถิ่น เราทำทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

    นายกฯ ย้ำว่า การปฏิรูปในระยะที่ 1 คือการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง มีการปฏิรูปกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ส่วนการปฏิรูปในระยะที่ 2 ในวันนี้ทำเห็นผล เช่น ประโยชน์ของเกษตรกร คนยากจน ซึ่งมีโครงการไทยนิยม กองทุนหมู่บ้านที่ไม่ใช่การให้เงินเพียงอย่างเดียว มีการปรับปรุงรัฐวิสาหกิจให้ขาดทุนน้อยลง สร้างความเข้มแข็งมากขึ้น ปรับปรุงทีโอทีและแคทเทเลคอมที่ยังมีปัญหา 

    "การปฏิรูปไม่ได้หมายถึงการออกกฎหมายแล้วบังคับใช้ เพราะบางเรื่องนั้นมีปัญหา เช่น วันนี้ปรากฏข่าวการกระชากคอและด่าทอตำรวจ ซึ่งต้องปฏิรูปไปด้วยกัน สื่อเองก็ต้องสอนว่าไม่ควรทำ เพราะเป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎหมาย ไม่ได้ไปรังแกอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นทุกคนควรทำตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องการปฏิรูปผมกำลังให้เขาสรุปมา ทีนี้ถ้าไม่รู้เรื่อง จะถือว่าเราพูดกันคนละภาษาแล้วไม่เข้าใจกัน ผมพูดภาษาไทยนะ ผมถือว่าในเมื่อจะทำงานร่วมกัน ทุกคณะก็ต้องทำงานตามนโยบายของรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่ ถามว่าการปฏิรูปบุกรุกป่า จัดการปัญหาที่ดิน บริหารจัดการน้ำ ไม่ได้ทำเลยเหรอ ผมอยากจะทราบว่าอะไรคือไม่ทำ อะไรคือทำ อยากรู้ว่าวิธีการทำเป็นยังไง การพูดจาบางทีอาจทำให้สังคมเข้าใจผิด” นายกฯ กล่าว
ชี้ 4 ปีงานปฏิรูปเพียบ

    ถามว่า พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้หาผู้รับผิดชอบ 4 ปีปฏิรูปล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลรับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว ในเรื่องของการทำงาน แต่จะมาบอกว่าเสียเวลาเปล่า ตั้งมา 2-3 คณะแล้วไม่เห็นทำงานไม่ได้ เพราะความจริงแล้วเขาก็ทำงานมาโดยตลอด โดยเอาปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาวิเคราะห์ ปัญหามีตั้งร้อยแปดพันเรื่อง จนออกมาได้ 11 วาระปฏิรูป กับอีก 137 กิจกรรม กิจกรรมย่อมอีกกว่าร้อยกิจกรรม

    “นี่คือการปฏิรูป ไม่ใช่พูดด้วยปากอย่างเดียว แต่เดี๋ยวเขาสรุปมาให้ดู ทั้งกฎหมายและอะไรต่างๆ และต้องดูแลข้าราชการด้วย ไม่ใช่นึกจะทำอย่างเดียว เพราะมีกฎหมายหลายตัวที่กระทรวงเขาถืออยู่ คุณก็ต้องไปแก้กฎหมายของกระทรวงให้เขาด้วยว่ามีอะไรจะคุ้มครองเขาได้บ้าง จะไปสั่งเขาผิดถูกไม่ได้ เพราะถึงเวลาเขาต้องรับผิดชอบ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

    นายกฯ กล่าวว่า อยากให้เข้าใจเรื่องการปฏิรูปบ้าง และใครก็ตามที่คิดว่ารู้เรื่องปฏิรูปมากกว่าตน ขอให้เข้ามา การปฏิรูปนั้นตนได้นำแนวทางจากต่างประเทศมาปรับใช้ โดยรับฟังทุกช่องทาง ทำตามขั้นตอน ดังนั้น อย่ามาบอกว่าไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย ถ้าไม่ปฏิรูป แล้วจะอยู่ไปทำไมถึง 4 ปี ถามว่าวันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาแล้วเท่าไหร่ จัดหาที่ดินให้ประชาชนแล้วกี่ล้านไร่ และคนที่ออกมาพูดทำไมไม่แก้ปัญหาตรงนั้น วันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ต้องการให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เดิม

    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านว่า แผนดังกล่าวได้มีการประกาศทางราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว และได้เกิดข่าวลือ และมีการส่งต่อข้อมูลไปมากมาย โดยทางรัฐบาลได้เคยอธิบายมาเป็นระยะแล้วว่าแผนการปฏิรูปไม่ใช่สิ่งที่ประกาศมาทั้งหมด จะต้องปฏิบัติทุกเรื่อง แต่หน่วยงานราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องตรวจสอบข้อมูลของตนเองว่าตามบทบาท หน้าที่ภารกิจของแต่ละกระทรวง ว่าแผนปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน จะต้องทำเรื่องอะไรบ้าง และพิจารณาว่าเรื่องใดสามารถทำได้ ทำได้ทันที หรือทำได้ในอนาคต ต้องกำหนดให้ชัดเจน หลังจากนั้นก็เริ่มดำเนินการรายงานให้กับรัฐบาลให้ทราบ เสร็จแล้วก็จะได้ทำการปรับแก้ไขกฎหมายต่างๆ เพื่อให้การปฏิบัติในเรื่องนั้นๆ มีกฎหมายรองรับ แต่หากเรื่องใดที่ทำไม่ได้ ก็จะต้องปรึกษากับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูป 

    "เรื่องบางเรื่องอาจจะทำได้ แต่ทำได้ไม่ทั้งหมด เช่น กรณีการเกษียณอายุ ที่บางอาชีพต้องใช้กำลังในการปฏิบัติงาน จับโจร ป้องกันชายแดน เมื่ออายุ 60 ปีจะต้องลาออกแล้วไม่สามารถต่ออายุงานได้อีก แต่บางอาชีพที่ใช้ทักษะความสามารถ แต่ไม่ต้องใช้กำลังกายมากนัก ก็อาจจะต้องมีผลในทางปฏิบัติ แต่อาจจะอยู่ในเรื่องของการจ้างงานพิเศษ หรือรูปแบบกลุ่มงานที่ขาดแคลน ฉะนั้นไม่ต้องตกใจกับแผนการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน" พล.ท.สรรเสริญกล่าว

    ถามถึงเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์แผนปฏิรูปเป็นเรื่องที่จะสัมฤทธิผลได้ยาก โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นายกฯ ได้ปรารภไม่อยากให้คิดแบบนั้น เพราะว่าแผนปฏิรูป ถ้าเราไม่นำมาใส่ไว้เป็นแผน ก็จะไม่เกิดการปฏิบัติขึ้นในอนาคต แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องบางเรื่องปฏิบัติได้ บางเรื่องมีปัญหาขัดข้องปฏิบัติไม่ได้ หรือบางเรื่องมีปัญหาแต่ต้องปฏิบัติ แต่การปฏิบัติไม่ใช่จะเอาแต่แผนงานมาเป็นที่ตั้ง โดยจะต้องคำนึงถึงความขัดแย้ง ความคิดต่างในเรื่องนั้นของกลุ่มคนในประเทศ ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน จึงจะสามารถปฏิบัติได้ หากยึดตามแผนอย่างเดียวโดยไม่สนใจอารมณ์และความคิดที่แตกต่าง แผนก็จะปฏิบัติไม่ได้อยู่ดี เพราะจะเกิดความขัดแย้งขึ้น 

    "คำถามที่ถามนายกฯ ว่า 4 ปีปฏิรูปสำเร็จหรือไม่นั้น มันไม่มีทาง เพราะว่าสังคม สถานการณ์ของโลก ของสังคมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จึงต้องมีการปฏิรูปตลอดเวลา ทั้งนี้ เป็นไปไม่ได้ว่าการปฏิรูปจะไม่สำเร็จ และนายกฯ หวังว่าสื่อมวลชนจะช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอย่าท้อแท้ตามคำวิพากษ์วิจารณ์ของบางคนบางฝ่าย ที่คิดว่าแผนปฏิรูปจะไม่สำเร็จ หรือมองว่าเป็นเรื่องที่ทำยากเกินไป" โฆษกรัฐบาลกล่าว
'สุเทพ'ให้กำลังใจ'บิ๊กตู่'

    เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การปฏิรูปไม่มีอะไรติดขัด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ดำเนินการได้อย่างง่ายดาย อยากให้สื่อทำให้สังคมทราบว่าทุกอย่างมันยากทั้งสิ้น เพราะการปฏิรูปหรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะติดในเรื่องของกฎหมายองค์กร หรือประชาชน ต้องค่อยๆ ดำเนินการไป  

    ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และประธานคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …  กล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ระบุการปฏิรูปไร้จุดจบเพราะรัฐธรรมนูญกำหนดในบทหลักว่า มีเวลา แต่มีขั้นต้น การปฏิรูปจริงไม่มีวันเสร็จ เมื่อทำส่วนหนึ่งแล้วก็จะกระทบอีกส่วนหนึ่งต้องปฏิรูปต่อ หรือปฏิรูปไปแล้วไม่ออกผลก็ต้องทำใหม่ ซึ่งตามแผนปฏิรูปกำหนดเวลาไว้ 5 ปี ตามที่ สปช.และ สปท.ทำไว้

    "ในรัฐธรรมนูญกำหนดกรอบไว้กว้างๆ แต่ครอบคลุมทุกส่วน เช่น ด้านบริหารราชการแผ่นดิน ก็กระทบทุกกระทรวง จึงยากที่จะทำจากหนึ่งถึงร้อย จึงต้องทำหลักๆ ก่อน ส่วนที่ระบุว่าการปฏิรูปโดยให้ผู้ถูกปฏิรูปทำจะมีปัญหานั้นจริง ดังนั้นกฎหมายและแผนการปฏิรูปจึงเจาะจงมากกว่าปกติ ต้องกำหนดให้ชัดหนึ่งสองสามสี่ภายในกี่ปี อย่างการปฏิรูปกฎหมายชุดนายบวรศักดิ์ ที่เห็นว่าควรใช้โทษทางปกครองแทนโทษทางอาญา ก็ลงไปสำรวจข้อมูลเองเพื่อนำมาแก้กฎหมายแล้วเสนอรัฐบาล เพราะหากไปถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาก็จะบอกไม่มีปัญหา เหมือนอย่างปฏิรูปตำรวจ ก็จะทำให้ในส่วนสำคัญ" นายมีชัยกล่าว

    ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก "Suthep Thaugsuban" ถึงการปฏิรูปตำรวจว่า  เรื่องการปฏิรูปประเทศนายกฯ ถูกวิจารณ์มาก โดยหลายคนบอกเสียของ เสียเวลา ไม่สามารถทำได้ตามความต้องการของประชาชน ขอเรียนว่าตนได้ติดตามดูความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศของ คสช. ซึ่งพูดตรงๆ มีผลงาน โดยเฉพาะการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ามีการวางกรอบปฏิรูปไว้อย่างชัดเจน ไม่มีรัฐธรรมนูญอื่นกำหนดไว้

    “เรื่องอื่นๆ มีปัญหาอุปสรรคมากมาย ผมเห็นใจนายกฯ ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย ในการปฏิรูปจะต้องกระทบต่อคนที่คุ้นเคยกับระบบเก่า และแน่นอนการเสียประโยชน์ ซึ่งทำให้มีกลุ่มต่อต้านคัดค้าน จึงเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนที่จะต้องรวมพลังกัน เพื่อผลักดันการปฏิรูปประเทศให้บรรลุ และจะต้องทำให้ได้ ถ้าไม่มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง เราจะเสียโอกาสมากในการพัฒนาประเทศเพื่อความกินดีอยู่ดีของเราเอง ขอให้พวกเราช่วยเป็นกำลังใจให้นายกฯ สามารถปฏิรูปประเทศได้ ถึงไม่ครบทุกด้าน แต่ขอฝากว่า อะไรที่ทำได้ก่อนเลือกตั้งทำให้เสร็จ" นายสุเทพกล่าว

    ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจจะชัดเจนที่สุด นายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่กำหนดแนวทาง แต่เมื่อทำเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครม.เห็นว่ายังไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชน จึงได้มอบหมายให้ชุดใหม่ที่มีนายมีชัยเป็นประธานทำต่อ ดังนั้นจึงยินดีมากที่เห็นนายมีชัยเดินทางไปเยี่ยมตำรวจถึงจังหวัดระยอง และเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการดังกล่าวที่มีนายมีชัยเป็นประธาน จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง และคิดว่าการปฏิรูปตำรวจจะเป็นประจักษ์พยานถึงความตั้งใจจริงของนายกฯ  

    “พล.อ.ประยุทธ์ครับ ผมและประชาชนจำนวนหนึ่งคิดว่าไม่เสียเวลา ไม่เสียของ ทำอะไรได้ทำเถอะครับ ปฏิรูปเถอะครับ เสร็จเสีย 1 เรื่อง 2 เรื่องก็ยังดี ที่เหลือเรามาช่วยกันผลักดันต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการของนายมีชัยด้วย” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าว.