ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net  อากาศแปรปรวนกันไปทั่วโลก ขนาดเมืองกรุงยังเจอพายุฝนช่วงหน้าหนาว ถึงอุณหภูมิจะไม่หนาวตามฤดูกาลก็เหอะ ตอนนี้ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังเมื่อวันพุธโดนฝนถล่มตั้งแต่ช่วงเช้ามืดนานหลายชั่วโมง จราจรในหลายพื้นที่เป็นอัมพาต ต่อให้เปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.สักกี่คน ก็ยังเจอปัญหา "น้ำรอระบาย" ที่หนักสุดน่าจะเป็นแฟลตคลองจั่น บางกะปิ กลายสภาพเป็นคลองแสนแสบ น้ำดำปิ๊ดปี๋ กทม.เพิ่งจะสูบน้ำแห้งไปช่วงตีสามของวันพฤหัสฯ นี้เอง ท่วมข้ามวันกันเลยทีเดียว ก็เล่นมีเครื่องสูบน้ำแค่เครื่องเดียว ที่เหลือเดี้ยงหมด ชาวบ้านด่ากันให้ขรม ไม่เห็นเงาบิ๊กๆ เสาชิงช้าเยี่ยมกรายไปดูแล แม้แต่อัศวินขี่ม้าขาว ทำเอาผู้ว่าฯ "อัศวิน ขวัญเมือง" ร้อนก้นออกมาแจงเหตุล่าช้าเกิดจากผู้อำนวยการเขตไม่ได้รายงานให้ผู้บริหารทราบ อ้างรู้เรื่องก็ตอนบ่ายสามแล้วแต่เร่งนำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำ (เน่า) ออกจากพื้นที่ทันที กว่า คสช.จะกดปุ่มไฟเขียวเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมืองหลวง ก็ยังมีบททดสอบ "บิ๊กวิน" อีกเยอะ นี่แค่ฝนนอกฤดู เตรียมพร้อมรับฤดูฝนปีนี้ให้ดีก็แล้วกัน เพราะนั่งเก้าอี้พ่อเมืองเข้าปีที่สองแล้ว คงไม่ใช่มือใหม่ต่อไปแล้วนะทั่นผู้ว่าฯ

            ๐ นับเป็นกฎหมายลูกที่มีปัญหากว่าทุกฉบับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ใช้เวลาพิจารณานานถึง 3 วัน กับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. ...  ขอย้อนกลับในช่วงปลายปีที่มีการถกเถียงใน 2 ประเด็นใหญ่ที่มีกระแสคัดค้านมาก คือ มาตรา 37/1 เพิ่มอำนาจดักฟังให้กับ ป.ป.ช. ขนาดอดีตกรรมการ ป.ป.ช.เองอย่างวิชา มหาคุณ ในฐานะกรรมาธิการยังไม่เห็นด้วย ถกกันข้ามวันกรรมาธิการเสียงข้างมากถึงยอมถอย ตัดมาตรานี้ออกจากกฎหมาย ขณะที่มาตรา 178 เปิดช่องให้ 7 กรรมการ ป.ป.ช.อยู่จนครบวาระ 9 ปี สนช.เดินหน้าสุดกำลัง ทั้งที่หมิ่นเหม่ขัดรัฐธรรมนูญมากกว่าประเด็นแรกด้วยซ้ำ กมธ.เสียงข้างน้อยพูดชัด ยอมเสี่ยงขัด รธน.เพื่อเอื้อ 2 คน โดยเฉพาะตัวประธาน ป.ป.ช. "บิ๊กกุ้ย" ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวงษ์สุวรรณ ที่เป็นจุดอ่อนในเรื่องการทำหน้าที่เป็นกลางมาโดยตลอด พานทำองค์กรสั่นคลอนความน่าเชื่อถือไปด้วย เพราะคดีไหนที่เกี่ยวพันกับคนใกล้ชิดหรือคนในรัฐบาลบิ๊กตู่ ก็โดนเป่าตลอด ต่อให้ประธาน กมธ. "พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์" อมพระมาพูดยืนยันนั่งยันว่าไม่ได้งอกบทเฉพาะกาลมาตรานี้เพื่อรองรับใครก็ตาม ในที่สุดก็ผ่านวาระ 2 ด้วยเสียงเห็นชอบ 157 ต่อ 26 งดออกเสียง 29 คน

            ๐ "กรธ.ยังคงมีความห่วงกังวลอย่างมากว่าบทบัญญัติดังกล่าวอาจมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 1/2560 นั้นไม่ครอบคลุมถึงการยกเว้นลักษณะต้องห้ามในบทหลักตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่การที่จะวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของศาลรัฐธรรมนูญ  กรธ.จึงไม่โต้แย้ง โดยเป็นดุลยพินิจของ สนช. ที่จะพิจารณาดำเนินการตามควรแก่กรณีต่อไป" ขนาดคนเขียนรัฐธรรมนูญเองต้องออกโรงกระตุก สนช. ร่อนหนังสือถึงทั่นประธาน "พรเพชร วิชิตชลชัย" ก็ไม่รู้เสียงของ "อ.มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จะสะท้อนเข้าหูเข้าหัวสมาชิกทั้งหลายได้บ้างหรือเปล่า อย่างน้อย 26 เสียงที่ไม่เห็นชอบกับมาตรา 178 จะกล้ายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้กระจ่างมั้ย มีเสียงแว่วจากสภาฯ ว่า สมาชิก สนช.ยังยึกยักเสียงแตกเป็นเสี่ยงๆ กลัวๆ กล้าๆ ไม่รู้ว่าจะรอสัญญาณอะไรหรือเปล่า เพราะรู้กันดีว่ามาตรานี้มาจากออเดอร์ของบิ๊กรัฐบาล ถ้าดูรัฐธรรมนูญมาตรา 148 นอกจากเปิดช่องให้สมาชิก สนช. 1 ใน 10 สามารถเข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้แล้ว ยังให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสามารถส่งความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ด้วยเช่นกัน งานนี้ต้องวัดใจ "บิ๊กตู่" ว่าจะลงมือเองหรือไม่ เพราะต้องเป็นคนนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ไม่ควรให้กฎหมายที่สุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญผ่านขั้นตอนนี้ไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง.

ลี้คิมฮวง