"ตรุษจีน".....
ก็ "ไหว้เจ้า-ไหว้บรรพบุรุษ" เป็นโชคชัยสู่ปีใหม่กันอีกปี
ผมกะอยู่ไหว้อีกซัก ๒๐ ปี
จากนั้น ก็จะไปเป็นบรรพบุรุษพเนจร คอยกินเครื่องเซ่น-เครื่องไหว้จากคนที่เขาเผื่อแผ่มาถึงบ้าง
ตรุษจีนปีนี้ ปรารถนาสิ่งใดกันล่ะ?
ผมว่าเรื่องกระเป๋าตุง เรื่องเฮงๆ รวยๆ ไม่สำคัญเท่าขอให้ปลอดภัย-ไร้โควิด
เพียงไม่ติดโควิด กลั้นใจไปให้ถึงสงกรานต์ ต่อจากนั้น บ้านเมืองเรา ถึงคราวโอกาสเปิด
การก่อร่าง-สร้างอนาคตใหม่ จะเริ่มเห็นทางสดใส
ตานี้แหละ ใครจะรวยหรือจะจนจ่ออยู่กับที่ ขึ้นอยู่กับว่า จะนอนอ้าปากรอน้ำค้าง หรือหยิบฉวยทุกอย่างที่ทำได้ แล้วลุยไปให้ทะลุ
ได้ยินพวกรุ่นใหม่เขาพูดว่า คนรุ่นเก่าถอยไป บ้านเมืองเรื่องอนาคต เป็นของพวกเขา
พวกเขาเป็นคลื่นลูกใหม่ ที่ไล่กระแทกคลื่นลูกเก่าเข้าฝั่ง
มันก็ใช่นะ!
แต่ถ้ารุ่นใหม่ ระดับนิสิต-นักศึกษา สติปัญญาไม่ต่างไอ้บ้า-อีบ้า มาตีหม้อ-ตีไห กันกลางถนน
"คลื่นลูกใหม่" แบบนี้ ไม่ต่างคลื่นในกระถางน้ำล้างตีน ไล่คลื่นลูกเก่าไม่ได้หรอก
ใช้ล้างหน้าไอ้กร๊วกแก่ๆ ในคราบจานมหา'ลัย ๒-๓ ตัวที่ชักใย แบบนั้น พอได้!
เหตุผล, ความยั้งคิด, ความละอาย, การไว้ศักดิ์-ไว้ศรีของคนมีการศึกษา ไม่มีเลย
มีแต่ ดิบ, เถื่อน, สถุล และถ่อย จับแต่ละตัวใส่ครกตำสักพันปี ก็ไม่มีซึ่งยางอาย
รุ่นใหม่แบบนี้น่ะเรอะ ที่จะมาก่อร่างสร้างอนาคตชาติ? มันสายพันธุ์ไหนกัน....
สายพันธุ์กะล่อนปล้อนปลิ้น ฮุบที่ดิน ติดสินบน ปล้นชาติ-ล้มกษัตริย์ เป็นหนอนบ่อนไส้ ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน สายพันธุ์ไอ้จัญไรนี้ใช่มั้ย?
เห็นทางการเอาจริงมากในมาตรการ "เว้นระยะห่าง" ของผู้คนเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด
แล้วดูซี ปล่อยพวกบ้ารวมกลุ่มสุมกันกลางเมืองครั้งแล้ว-ครั้งเล่า รัฐบาลมีข้อตกลงกับโควิดหรือว่า ถ้าคนบ้าชุมนุมจะไม่ระบาด?
คนบ้าร้อยคน ช่างภาพ-นักข่าวเสริมบารมีคนบ้า ๒๐๐ คน มุงดูคนบ้าอีก ๕๐๐ ตำรวจมาเป็นกองเกียรติยศคนบ้าอีกนับสิบกองร้อย
เป็น "มาตรการน้ำเน่า" วนเวียนอยู่อย่างนี้!
พวกกวนเมืองก็สนุกสนานกันไปได้ทุกวัน แล้วที่มาในชุดออกศึกเป็นกองร้อย นึกว่าเอาจริง
เปล่าหรอก มาให้เด็กตบกระบาลเล่น แลกเบี้ยเลี้ยงให้เจ้านายอมได้ทุกวันเหมือนกัน
สภาพบ้านเมือง จึงเป็นที่รำคาญตา-ทุเรศใจชาวบ้าน ด้วยไม่รู้จะจบ-จะสิ้นเมื่อไหร่
ในเมื่อรัฐบาลเหมือนเป็นสุขกับการยอมให้พวกถ่อยในคราบนักศึกษา ขี่คอ แล้วเอา...ทิ่มปาก?
ความจริงน่ะนะ....
ในสถานการณ์โลกว่าด้วยโควิด ถ้าเอกซเรย์แต่ละประเทศทั่วโลก แล้วเอาผลมาเปรียบเทียบ
ในร่วม ๒๐๐ ประเทศ ไทย ถึงไม่เป็นที่ ๑
แต่ ๑ ใน ๑๐ ประเทศ ที่เศรษฐกิจ การเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน รวมถึงการบริหารปัญหาโควิดระบาด ดีระดับเยี่ยม
ไทยอยู่ใน ๑-๑๐ นั่นแน่นอน!
แต่ทำไมล่ะ คนไทยกลับร้องโอดโอย จะอดตายอยู่แล้ว เจ๊งแล้ว พาลด่ารัฐบาลไม่ช่วย ไม่ดูแล ไม่มีการบริหารที่ดี
แม้กับเรื่องโควิด ชาวโลกตายโครมๆ เป็นล้านๆ มีคนไทยอยู่ในส่วนนั้นไม่ถึงร้อย
แทนที่พวกเราจะชมว่ารัฐบาล-ทีมแพทย์เจ๋ง
กลับไม่ให้ค่าความสำเร็จ แต่คอยจับจ้องว่ามีบกพร่อง-ผิดพลาดตรงไหน ก็เอามาใส่สีตีไข่ขยายด่ารัฐบาล กระเทียบเปรียบเปรยรัฐบาลบ้าง ทีมคนทำงานบ้าง
อย่างเรื่องการจัดหาวัคซีน กระทั่งเรื่อง "บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด" ซึ่งเกิดมาก่อนจะมีโควิดเป็นสิบปี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ประหนึ่งพระองค์ทรงหยั่งรู้การณ์อนาคต
ทรงก่อตั้งไว้ให้ เพื่อพสกนิกรของพระองค์โดยแท้
แล้วดูสิ.....
กลายเป็น "ทำคุณบูชาโทษ" ด้วยคนทรามมันพูดจาบิดความ จนกลายเป็นว่า ตั้งมาหาประโยชน์ในทางผูกขาด!
วัคซีน ได้มาเร็ว มันก็ว่า อยู่ในขั้นทดลอง จะฉีดโดยให้ชาวบ้านเป็นหนูทดลองยาหรือ
ได้มาช้า มันก็ด่า ไม่มีวิสัยทัศน์ ประเทศอื่น กระทั่ง ลาว เขมร ก็ฉีดแล้ว แต่ไทยยังไม่ได้ แบบนี้ ใครจะมาเมืองไทยล่ะ เศรษฐกิจ ท่องเที่ยวพังแน่
คือมันหาเรื่องด่าทุกประเด็น กระทั่งตั้งสมมุติเรื่องเพื่อด่า เพื่อกล่าวโทษรัฐบาล มันก็ทำ
แล้วชาวบ้าน ชาวสื่อ ก็เหหันไปตามเรื่องสมมุติ ขยายเรื่องที่เขาสมมุติ พลอยบ้าใบ้ไหลพะวงตามเรื่องสมมุติไปด้วย
เช่นว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ไม่มา หรือมาช้า หรือคุณภาพไม่ดี หรือฉีดแล้วเป็นอันตราย ใครจะรับผิดชอบ
แล้วมันเกิดเหตุอย่างนั้นหรือยัง ก็เปล่าทั้งเพ เป็นเรื่องสมมุติด่าแท้ๆ
แต่รัฐบาลก็เหมือนปลาติดเบ็ด ให้เขาลากปากฉีกเปล่า
ซึ่งมันพิลึก รัฐบาลทำดี แต่กลับได้เลว เพราะอะไร?
เพราะคนเลวมันจ้องลากอย่างนั้นหรือ
หรือเพราะ "วัคซีนสื่อสาร" จากรัฐบาลถึงประชาชนมันคุณภาพห่วย จึงใช้ต้าน "โรคบิดเบือน" ข่าวสารไม่ได้?
คิดสิ...คิด!
ตอนนี้เอากันใหญ่ ประเทศโน้น-นี้ เกือบทั้งโลก ฉีดหมดแล้ว เหลือประเทศไทย วัคซีนยังไม่มา แบบนี้ เจ๊งแน่ ใครก็จะไม่กล้ามาเมืองไทย
เอากันถึงขนาดนั้น ซึ่งไม่ตรงทั้งข้อเท็จจริงและความเป็นจริง
เขาฉีดกันแล้วทั้งโลกซีดี แบบนั้น เป็นผลดีกับไทยเราด้วยซ้ำ เพราะบ้านเรา "คนนอก" นำโควิดเข้ามาระบาด และรัฐบาลควบคุมได้ ไม่มีแพร่ขยายมากนัก
เมื่อคนนอกคือชาวโลกฉีดวัคซีนแล้ว ในสายตาเขา เมืองไทยเกรด A การสาธารณสุขเยี่ยม เต็มใจมาอยู่แล้ว
คนไทยตะหาก ระแวงโควิดจากเขา ไม่ใช่เขาคือต่างชาติจะมาระแวงเรา เพราะคนไทยถึงยังไม่ได้ฉีด ก็ไม่เป็นปัญหา
เพราะคนไทย-ประเทศไทย ในที่ไม่ใช่ "ดงแรงงานต่างชาติ" ไม่มีเชื้อโควิดมาแต่ดั้ง-แต่เดิมอยู่แล้ว
เห็นยกประเด็นโง่ๆ มาเข่นรัฐบาล กุมภามาแค่ ๒ แสนโดส แล้วตั้งมิถุนามาอีกแค่ ๒๖ ล้านโดส ฉีดได้ไม่ทั่วทุกคน
ฉีดทำพ่องมึงเรอะให้ครบทุกคน หือ?
ก็ฉีดกลุ่มที่เสี่ยงก่อนก็พอ เมื่อกลุ่มเสี่ยงหมดเชื้อที่จะแพร่แล้ว มันจะระบาดสู่คนอื่นได้ไง
เมื่อไม่มีระบาด กลุ่มที่ไม่เสี่ยง จะต้องรีบฉีดไปหาวิมานอะไร เหมือนรวมกลุ่มกัน ๓ คน สวมหน้ากากอนามัย ๒ คน อีกคนที่ไม่สวม จะเสี่ยงตรงไหน?
ตรองกันด้วยเหตุ-ด้วยผล ทั้งบนฐานระบาดศาสตร์และฐานความเป็นจริง ไทยเราไม่ต้องบ้ารีบฉีดเหมือนประเทศ ที่ระบาดหนักหรอก
พวกเขาไม่เป็นโควิดแล้ว ถึงเราไม่ฉีด ก็ปลอดภัยด้วย รอซักพัก ตกปลายปี วัคซีนจะมีให้เลือกเยอะแยะ ตอนนั้น จะซื้อมาฉีดตูด ฉีดแขน เอาซักคนละกี่เข็ม ได้ทั้งนั้น
ในประเทศเรา นอกจากสยามไบโอฯ จะผลิตวัคซีนได้เองแล้ว
นี่..ตอนนี้ ที่องค์การเภสัชกรรมร่วมกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาวิจัยวัคซีนโควิด ปรากฏว่าได้ผล
เริ่มทดลองในคนแล้ว
และจะเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตระดับอุตสาหกรรมที่โรงงานขององค์การเภสัช แก่งคอย สระบุรี
ปีหน้า คือ ปี ๖๕ ทดลองขั้นสุดท้ายในต่างประเทศที่มีคนป่วยมากๆ แล้ว เมื่อครบทุกขั้นตอน
ไทยเราก็จะผลิตวัคซีนได้เองถึง ๒ โรงงาน!
สรุป......
อยากด่าเรื่องวัคซีน ก็ให้ด่ากันไป เพราะประเทศไทย ถ้าไม่ด่า
"ไม่เจริญ"!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |