“ประยุทธ์” อารมณ์ดีหลังปรับแสกผมออก TikTok ยันพร้อมรับศึกอภิปรายไม่ต้องติว “ไพบูลย์” ลุ้นญัตติด่วนได้บรรจุวาระเส้นตาย 11 ก.พ.หรือไม่ “ฝ่ายค้าน” ข้องใจพฤติกรรม เล็งยื่นสอบจริยธรรม แกนนำ พปชร.เร่งเคลียร์ใจ ผงะ! เปลี่ยนเป้าระเบิดเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่อย่าง “สุชาติ ชมกลิ่น” นายกฯ ยันไม่มีอำนาจสั่งให้ยื้อรัฐธรรมนูญ “ชวน” ชี้กำหนดการวาระ 2 ยังคงเดิม
เมื่อวันพุธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 1/2564 โดยกล่าวถึงการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน TikTok ว่าอยากสื่อสารเข้าถึงทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกระดับ เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนแปลง แต่ได้บอกกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ไปแล้วด้วยว่าจะไม่ทำหน้าด๊อกแด๊กๆ ตามวัยรุ่น แต่อาจมีแอคชั่นประกอบบ้าง เพราะนายกฯ ต้องระมัดระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นัดรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมาติวว่า คงไม่ต้องไป พูดของตนเองอยู่แล้ว และได้เตรียมข้อมูลไว้เยอะพอสมควร แต่หลายอย่างไม่ควรลงรายละเอียดลึกมาก เป็นเรื่องของหลักการ นโยบาย เป็นเรื่องการทำงานตามกรอบของนายกฯ
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ยังหันมากระเซ้าผู้สื่อข่าวถึงเรื่องการเปลี่ยนการแสกผมตัวเองอย่างอารมณ์ดี ก่อนถามว่าเปลี่ยนแสกแล้วหล่อไหมล่ะ ผู้สื่อข่าวตอบว่าโอเค พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวว่า “เรื่องการแสกผมทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับกองหนุน เมื่อแสกซ้ายบ่อยๆ แล้วผมน้อยก็ต้องหันมาแสกข้างขวา” ก่อนจะยกนิ้วโป้งเป็นสัญลักษณ์เยี่ยม พร้อมกล่าวว่า "Thank you" และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
มีรายงานว่าในการจัดติวรัฐมนตรีที่จะจัดขึ้น 13-14 ก.พ.นั้น จะจัดขึ้นที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 กทม. แบ่งเป็นวันที่ 13 ก.พ. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ส่วนวันที่ 14 ก.พ. เป็นคิวนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 100 คน โดยพรรค พปชร. 50-60 คน พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ พรรคละ 15 คน รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคเล็กเข้าร่วมด้วย
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอญัตติด่วนให้สภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากมีถ้อยคำพาดพิงสถาบันว่า ยังไม่มีการบรรจุวาระ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ โดยกำหนดการอภิปรายสัปดาห์หน้ายังไม่เปลี่ยนแปลง
นายศุภชัยกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของสภาได้พิจารณาเนื้อหาของญัตติดังกล่าวแล้วพบว่าครบองค์ประกอบตามข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 48 จึงจะบรรจุเรื่องนี้เข้าสู่วาระการประชุมต่อไป ซึ่งจะทันประชุมในสัปดาห์นี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิปฯ และที่ประชุมสภาจะพิจารณา หากเห็นว่าเป็นเรื่องด่วนก็หยิบยกขึ้นมาก่อนได้
ส่วนนายไพบูลย์กล่าวว่า หากการบรรจุวาระตามที่ร้องขอคือ วันที่ 11 ก.พ.ไม่ทันก็ไม่ติดใจ เพราะถือว่าได้ยื่นและแสดงเนื้อหาให้ปรากฏแล้ว ส่วนจะถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในทำนองเดียวกันกับกรณีของพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ ต้องรอฟังการอภิปรายอีกครั้ง ซึ่งหากเนื้อหาการอภิปรายเป็นการกระทำที่ชัดเจนว่าจงใจนำสถาบันเบื้องสูงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อาจเข้าองค์ประกอบ และอาจมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้
“หากญัตติดังกล่าวไม่ได้รับการบรรจุในสภาสัปดาห์นี้ได้ สัปดาห์ถัดไปไม่สามารถบรรจุได้ เพราะตามระเบียบวาระเป็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอ ไม่สามารถแทรกเรื่องอื่นเข้าสู่การพิจารณาได้” นายไพบูลย์กล่าว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวในเรื่องนี้ว่า วิปรัฐบาลต้องหารืออีกครั้งว่าจะพิจารณาในการประชุมสภาวันที่ 11 ก.พ.นี้หรือไม่ เพราะการรับบรรจุญัตติดังกล่าวแล้ว ต้องนำไปเรียงลำดับญัตติที่ถูกเสนอไว้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.พ.น่าจะทราบผล
ด้านพรรคฝ่ายค้าน โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้มีการประชุมแกนนำฝ่ายค้าน ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เข้าใจว่านายไพบูลย์คิดอะไร หรือเป็นการสมคบคิดกันเพื่อทำลายระบอบประชาธิปไตย การอภิปรายของฝ่ายค้านถือเป็นการตรวจสอบตามกลไกของสภา เห็นชัดว่ากำลังเกิดการแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ส.ส.หลายคนไม่สบายใจกับญัตติของนายไพบูลย์ และตั้งคำถามว่าการกระทำของนายไพบูลย์ผิดจริยธรรมร้ายแรง เป็นปรปักษ์ต่อระบบรัฐสภาหรือไม่ เพราะการเสนอญัตติเป็นอำนาจของสภา หากทำแบบนี้หลักการถ่วงดุลอำนาจ 3 ฝ่ายจะบังคับใช้ไม่ได้เลย ดังนั้นจะมีการยื่นตรวจสอบจริยธรรมของนายไพบูลย์ให้ทันภายในสมัยประชุมนี้
มีรายงานข่าวจากสภาแจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา ในระหว่างประชุมร่วมรัฐสภา แกนนำและรัฐมนตรีของพรรค พปชร. โดยได้ปิดห้องพูดคุยเคลียร์ใจเกี่ยวกับกระแสข่าวที่มีบางกลุ่มในพรรคจะโหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคบางราย โดยต่างยืนยันว่าจะร่วมทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้เป็นเอกภาพตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประกาศไว้ จะไม่มีการแทงข้างหลังกันเอง ทั้งนี้ ก่อนการหารือ ร.อ.ธรรมนัสได้ทักทายและจับไม้จับมือนายณัฏฐพล พร้อมปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่ ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสจะโหวตไม่ไว้วางใจนายณัฏฐพลก่อนออกจากห้องประชุมไปปฏิบัติภารกิจภายนอก
เปลี่ยนเป้าระเบิดไป'สุชาติ'
มีรายงานอีกว่า ภายหลังจากเกิดกรณีนายณัฏฐพลที่เป็นเป้าโจมตีของรัฐมนตรีร่วมพรรค ได้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลเป็นอย่างมาก กำชับว่าโหวตต้องไม่มีการแตกแถวหรือเกิดคลื่นใต้น้ำอย่างเด็ดขาด ในขณะเดียวกันรัฐมนตรีของพรรคเองก็พยายามล็อบบี้คะแนนไม่ให้ตกเป็นรัฐมนตรีที่มีคะแนนน้อยที่สุด เพราะอาจส่งผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี จึงพบความเคลื่อนไหวในทางลับ ทั้งการส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้าน การล็อบบี้เสียง ส.ส.ไว้จำนวนหนึ่ง โดยไม่ถึงขั้นลงมติไม่ไว้วางใจสวนมติพรรค แต่อาจนัดแนะให้ ส.ส.บางส่วนออกนอกห้องประชุม หรือกดลงมติไม่ทัน เพื่อให้คะแนนออกมาน้อยกว่ารัฐมนตรีรายอื่น โดยเป้าหมายที่ถูกจับตาเปลี่ยนไปเป็นนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ถือเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ อยู่ในตำแหน่งไม่นาน และไม่ใช่นักพูด รวมทั้งยังมีประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องตั้งแต่ดำรงตำแหน่งใหม่ๆ อาทิ การลงทุนของกองทุนประกันสังคม, มาตรการเยียวยาผู้ประกันตน และแรงงานเถื่อน
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลพยายามยื้อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 หลัง ส.ส.และ ส.ว.มีมติเห็นชอบยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจในการสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่าถ้าย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่ารัฐบาลสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เป็นนโยบายอยู่แล้ว หน้าที่ของรัฐบาลคือการเสนอเข้าไปที่สภา จากนั้นเป็นขั้นตอนของรัฐสภาที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นจะมาบอกว่ารัฐบาลไปเกี่ยวข้องตรงนี้ ไม่จริงใจอะไรนั้นไม่ใช่ อย่าเอาไปพันกันแบบนี้ รัฐบาลจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ แต่จะแก้อย่างไรก็ไปว่ากันมา ในส่วนของรัฐสภา จุดยืนของรัฐบาลให้แก้ไขอยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไรไปว่ามา จะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง แก้ได้-แก้ไม่ได้
"ทุกคนมีสติปัญญา และทุกคนก็มีความคิดเห็นส่วนตัวเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.ก็ตาม ต้องหาข้อยุติกันให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องผ่านกระบวนการศาล ว่ากันไป ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสั่งการอะไรตรงนี้ ผมนำเสนอเข้าไปแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายชวนกล่าวถึงการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญว่า ต้องเป็นไปตามมติ แต่กำลังตรวจสอบ ซึ่งญัตติยังไม่มา แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ยังคงเป็นไปตามปกติคือวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ เพราะไม่ทราบว่าศาลจะพิจารณาเมื่อไหร่
น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ในฐานะโฆษก พปชร. ยืนยันว่า มติรัฐสภาเสียงข้างมากให้ส่งคำร้องถึงศาลไม่ได้เป็นการประวิงเวลาตามที่หลายฝ่ายกำลังวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน โดยขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงเดิม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หากประชาชนเห็นว่ากระบวนการรัฐสภาไม่สามารถเป็นเครื่องมือแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ อาจมีการแสวงหาแนวทางอื่นในการนำพาประเทศออกจากปัญหาวิกฤติรัฐธรรมนูญ จะมีม็อบบิ๊กเบิ้ม และสารพัดม็อบมาเยือนมากยิ่งขึ้น
“ทิชชู่ไม่ควรถูกเปรียบเปรยเฉพาะการซื้ออาวุธ ประเทศนี้ฉีกรัฐธรรมนูญง่ายพอๆ กับฉีกทิชชู่ และยังหาทางปิดตายการแก้ไขให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” นายอนุสรณ์กล่าว
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เฟซบุ๊กไลฟ์ในช่วงค่ำวันที่ 9 ก.พ.ในเรื่องนี้ โดยได้ยกข้อกฎหมาย ก่อนตำหนิ 366 เสียงที่โหวตเรื่องดังกล่าวว่าเป็นการสร้างมติอัปยศ เป็นการยื่นอำนาจชี้เป็นชี้ตายในเรื่องรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญไปหมดเลย นี่คือการยื่นดาบให้กับศาลรัฐธรรมนูญ สยบยอมให้กับศาลแล้วจะทำให้ศาลกลายเป็นซูเปอร์รัฐธรรมนูญ ชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมของรัฐธรรมนูญไทยไปตลอดกาล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |