10 ก.พ.2564- นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 157 คนเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 144 คน เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากใหม่จากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 38 คน โดยผู้ติดเชื้อน้อยสุดมีอายุเพียง 2 วัน พบที่จังหวัดสมุทรสาคร และเป็นการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 106 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 13 คนทำให้มียอดรวมผู้ติดเชื้อ 23,903 คน หายป่วยแล้ว 18,914 คน อยู่ระหว่างการรักษา 4,909 คน และ เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน เป็นหญิงไทยอายุ65 ปี มีโรคประจำตัวคือมะเร็งกล่องเสียง ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ไขมันในเลือดสูง โดยมีประวัติติดเชื้อจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นคนในครอบครัว โดยครบครัวดังกล่าวมี8 คน และติดเชื้อไปแล้ว 5 คน ทั้งนี้ ผู้ที่เสียชีวิตดังกล่าวก่อนหน้าได้เดินทางไปฟอกไตวันที่29 ธ.ค.63 มีอาการหนาวสั่น เมื่อมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ จึงตรวจเชื้อโควิด โดยผลยืนยันว่าติดเชื้อในวันที่1 ม.ค. 64 จึงย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีอาการหอบเหนื่อย ปอดอักเสบ ต้องเจาะท่อช่วยหายใจ อาการไม่ดีขึ้นจนกระทั่งเช้าวันที่ 8 ก.พ. ได้เสียชีวิต รวมมีผู้เสียชีวิตสะสม80 คน ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อ 107,386,998 คน ส่วนผู้เสียชีวิตสะสม 2,349,171 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้พูดถึงการค้นหาเชิงรุกในชุมชนในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งรองผู้ว่าฯ จังหวัดสมุทรสาคร และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้แจ้งมาที่ประชุมชี้แจงความคืบหน้าการตรวจในพื้นที่ว่าตรวจเชิงรุกไปแล้วแสนกว่าคน พบผู้ติดเชื้อกว่า 7 พันคน ซึ่งจากการเข้าไปตรวจโรงงานขนาดใหญ่ 9 แห่ง ที่เข้าไปตรวจและมี 4 โรงงานที่มีคนงานหลักหมื่นพบผู้ที่เชื้อตามข่าวร้อยละ 26-27 ของบางโรงงาน ขณะนี้จะใช้ระบบบับเบิ้ลแอนด์ซีล แน่นอนว่าเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อขนาดนั้น บางคนที่ยังไม่ติดเชื้อ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ ในภายหลังเราก็จะทอดระยะเวลาไปอีกสักระยะหนึ่งเพื่อให้เกิดการติดเชื้อโดยธรรมชาติ บางคนอาจพูดว่าจากข้อมูลผู้ติดเชื้อจากการตรวจสอบเชิงรุก 106 คน ในวันนี้อาจจะน้อยกว่าความเป็นจริงนั้นใช่แต่ ณ ตอนนี้เข้าไปตรวจก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรในเชิงที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะฉะนั้น สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำอีกระยะคือ ณ ตอนนี้จะเข้าไปตรวจสอบภูมิคุ้มกันขอให้เจ้าหน้าที่ได้สรุปชุดข้อมูลกันก่อน ถ้าเป็นไปตามที่คาด คนที่ติดเชื้อเมื่อนำออกมา คนที่อยู่ภายในอาจได้รับเชื้อมาบ้างอย่างอ่อนๆ ก็จะมีการติดเชื้อไปบ้าง ถ้ามีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นจำนวนมากขึ้นโดยธรรมชาติจะทำให้เราเกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ซึ่งหลายประเทศเขาก็ทำกันหากเกิดการติดเชื้อจำนวนมากแต่ถึงอย่างไรต้องรอข้อมูลจริงที่ออกมา จะเป็นตามที่คาดคิดหรือไม่ ถ้าเป็นตามนั้นจะเห็นภาพการผ่อนคลายที่จะวางแผนเปิดเมืองต่างๆ แต่ต้องให้ความสำคัญเรื่องช่วงเวลา ตนจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง
โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้นำข้อมูลผู้ติดเชื้อในพื้นที่ตลาด 1,815 คน มาแจ้งต่อที่ประชุม โดยพบว่า ร้อยละ 96.86 เป็นการติดเชื้อในตลาดสด ติดเชื้อในตลาดนัด ร้อยละ 3.14 คน โดยพบเป็นผู้ขายถึงร้อยละ 90.19 ผู้ซื้อ ร้อยละ 9.81 โดยปัจจัยของการติดเชื้อคือไม่มีมาตรการระวังตัวเอง ไม่มีการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตลาด แม่ค้าไม่ค่อยล้างมือ ขาดความสม่ำเสมอในการทำความสะอาดในจุดสัมผัสร่วม ไม่มีที่กั้นระหว่างร้านค้า แม้ค้าตลาดสดเดินทางไปซื้อของหลายแห่ง ขณะที่ตลาดนัดมีการหมุนเวียนแม่ค้า จึงมีข้อเสนอแนะทุกตลาดต้องเข้มข้นมาตราการป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย และ ไม่สามารถเว้นระยะแผงค้าได้ ก็ควรมีฉากกั้นและงดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ในช่วงเวลานี้ใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงจะขอเว้นการแถลงข่าวในวันที่ 12- 14 ก.พ.นี้ เพื่อจะได้ฉลองเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป็นวันหยุด ขอให้จังหวัดที่ไม่ใช่สีเข้มเหมือนสมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ที่มีการผ่อนคลายไปบ้างแล้วดูแลสุขภาพ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |