"บิ๊กป้อม" แบะท่าหนุน "ไพบูลย์" ยื่นศาล รธน.ตีความญัตติซักฟอกพาดพิงสถาบัน อ้างไม่ใช่เป็นการคว่ำ แต่อาจจะเลื่อนออกไป! "วิษณุ" มาอีกทางไม่เชื่อทำให้สะดุด "ชวน" โยนรอง ปธ.สภาฯ พิจารณาจะเอาเข้าสัปดาห์นี้หรือไม่ ฝ่ายค้านด่ากราด อ้างนายกฯ อาจจนมุม กลัวแก้ข้อกล่าวหาไม่ได้ "บิ๊กตู่" ตบหน้าอก-ชกลมโชว์ ลั่นพร้อมสู้ศึก

     ก่อนจะถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในสัปดาห์หน้า ความเคลื่อนไหวจากฝ่ายค้านและรัฐบาลดำเนินไปอย่างคึกคัก ขณะเดียวกัน ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ ทาง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน แกนนำพรรค มีความเคลื่อนไหวที่จะเสนอญัตติด่วนเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังมีการเขียนถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในญัตติ
    โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนายไพบูลย์ว่า "ให้ไปถามนายไพบูลย์เอง"
    เมื่อถามย้ำว่า มองว่าเห็นควรเลื่อนหรือไม่ เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการคว่ำการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบพร้อมส่ายหัว และกล่าวเพียงว่า "ผมพร้อมที่จะอภิปราย"
    เมื่อถามว่า นายกฯ พร้อมไปติวกับพรรคพลังประชารัฐร่วมกับ 10 รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ผมคงไปติวให้เขามากกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ใครทำอะไรไว้คิดดีๆ แล้วชี้แจงไป เขาว่ามาก็ชี้แจงไป ผมเชื่อว่าชี้แจงได้ในหลายๆ เรื่อง ส่วนเรื่องกฎหมายก็ให้ว่ากันมา ก็ต้องทน เพราะในสภาเขาพูดอะไรก็ได้ แต่ระวังอย่าให้มีปัญหาก็แล้วกัน"
    อย่างไรก็ตาม สื่อได้ถามย้ำถึงกรณีนายไพบูลย์อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่มีความเห็น เขาทำได้หรือไม่ ใครทำได้ก็ทำไป ถ้าเขาไปยื่นศาลก็ฟังศาลแล้วกัน แต่ผมเองไม่มีปัญหาอะไร ผมเองไม่มีปัญหากับการไม่ไว้วางใจ ไว้วางใจ" ก่อนตบที่หน้าอกตัวเองแล้วยืนยันกับสื่อว่า "พร้อมตลอด พร้อมทุกวัน"
    หลังประชุม ครม.เสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเตรียมโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นว่า ได้ตรวจสอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ไปแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองว่ากันไป
    เมื่อถามว่า คิดว่าวันนี้ความสามัคคีภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า ยังคงเหนียวแน่น เหนียวแน่นด้วยการทำงาน เราเหนียวแน่นว่าทำให้ประชาชนอย่างไร ทำเพื่อชาติอย่างไร ดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของเรา ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างไร นั่นคือหลักการของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดที่ร่วมกันทำงานในเวลานี้
    ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีเปลี่ยนแสกผมใหม่ ถือเคล็ดอะไรเกี่ยวกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่เกี่ยวอะไรเลย การอภิปรายก็คืออภิปราย ผมพร้อมรับฟังพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง ส่วนทรงผมมันก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผมที่มีอยู่ ผมก็ไม่คุ้นตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่ได้มีเคล็ดอะไรทั้งสิ้น ก็ยอมรับว่ายังไม่ชินกับการแสกทรงผมใหม่ เพราะเดิมทีแสกข้างซ้ายมาตั้งนาน พอมาแสกด้านขวาเลยไม่ชิน เพราะตรงนี้ผมมันน้อย”
    ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่เปลี่ยนทรงผม เพราะอยากให้ดูหนุ่มเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาต่อยมวยโชว์ความฟิตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “อย่าเอ่ยชื่อได้ไหม เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ” เมื่อถามอีกว่าในวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ จะไปร่วมติวเข้มเพื่อรับศึกการอภิปรายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม แต่ทำท่าชกลมโชว์
    รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุม? ครม. นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปราย 10 รัฐมนตรี แต่เป็นในนามรัฐบาล มีอะไรชี้แจงได้ก็ชี้แจง เพราะอยากเห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน? นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงไทม์ไลน์การนำเข้าวัคซีนและการแจกจ่ายเพื่อฉีดให้ประชาชน โดยในอนาคตตั้งใจว่าจะฉีดให้คนไทยได้เดือนละ 4 ล้านคน แต่ไม่ทราบว่าสภาผู้แทนราษฎรจะอยากฉีดกันหรือไม่ โดยเฉพาะพรรคที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องวัคซีน
"บิ๊กป้อม"ให้ท้ายยื่นศาล รธน.ตีความ
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนายไพบูลย์ที่จะเสนอคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า เรื่องที่ยื่นไปนั้นเป็นเพราะเขากังวลว่าจะเป็นการนำสถาบันเข้ามายุ่งกับการเมือง แต่ไม่ทราบว่าจะยื่นทันหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้นายไพบูลย์ทำของเขาเอง ไม่ได้มาปรึกษาตน     
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ก็น่าห่วง ดังนั้นจึงอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความดีกว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการคว่ำการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อาจจะเลื่อนออกไปหน่อย เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญดูเสียก่อน"
    หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวหลังถูกถามว่า
ในที่ประชุม ครม.ได้คุยกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ถึงข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร สื่อมวลชนจึงตอบย้อนไปว่า คุยเรื่องพรรคพลังประชารัฐที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "โห ใครสามก๊ก ใช่ที่ไหน มีที่ไหน"
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีของนายไพบูลย์เช่นกันว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นญัตติอะไร เพียงแค่ได้ยินแว่วๆ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นวันที่ 16-19 ก.พ.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่น่าจะทำให้สะดุด ตอนนี้อย่าเพิ่งสมมติอะไรเลย? เพราะศาลยังไม่ได้รับ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งคิดสมมติ"    
"เสมา1"ไม่หวั่นพปชร.แทงกันเอง
    ขณะที่นายณัฏฐพล? ทีปสุวรรณ? รมว.ศึกษาธิการ? และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่อาจมีการปรับ ครม.หลังจากนั้นว่า คงต้องดูในการอภิปราย เพราะเป็นเรื่องการตอบคำถามในสภา ?ส่วน? ส.ส.ที่จะลงมติไปทางไหนขึ้นอยู่กับการตอบคำถาม ถ้าตอบไม่ตรงคำถามก็อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ตัดสินใจลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่กังวล
    เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะมีการลงมติให้นายณัฏฐพลได้รับคะแนนน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่น? เนื่องจากไม่ค่อยรับฟัง? ส.ส.ในพรรค? พปชร. และ? ส.ส.ประสานงานเรื่องในกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ นายณัฏฐพลกล่าวว่า การประสานงานขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องอะไร ถ้าสมมุติเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้ไม่ได้อยู่แล้ว การพิจารณาในกระทรวงศึกษาธิการขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่เหมาะสม คนที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างครบถ้วน หากใครจะฝากอะไรมาไม่ได้อยู่แล้ว ที่ผ่านมายึดมั่นการทำงานที่ตรงไปตรงมา? ไม่สามารถเอาเรื่องการเมืองและผลประโยชน์ของพรรคการเมืองมาเป็นหลักในการตัดสินใจบริหารกระทรวงศึกษาธิการ
    ถามย้ำอีกว่า? มีข่าวว่าบุคคลที่ต้องการให้นายณัฏฐพลได้รับคะแนนน้อยที่สุดคือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนหนึ่งในพรรค? พปชร. นายณัฏฐพล?กล่าวว่า ไม่มี การเห็นต่างเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ความรุนแรงก็แตกต่างกันไป ความต่างทางความคิดเห็นสามารถพูดคุยกันได้ ยืนยันว่าข่าวที่ออกมาไม่เกี่ยวกับการที่สนับสนุนนางทยา? ทีปสุวรรณ (ภรรยา) ? ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร? เพราะเป็นคนละเรื่อง
    ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์เช่นกันว่า คงต้องรอฟังเขาก่อน ตนมองว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่มีปัญหา ยิ่งเร็วยิ่งดี จะได้ไปทำงานอื่น
"ชวน"ย้ำซักฟอกยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
    ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของนายไพบูลย์และพรรคพลังประชารัฐ ว่าเพิ่งทราบว่า พปชร.ยื่นมาแล้ว ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการในการบรรจุญัตติเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ส่วนจะทันวันที่ 10-11 ก.พ. ตามที่ พปชร.อ้างอิงไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะที่รับผิดชอบพิจารณาญัตติต่างๆ ก่อนจะมาถึงประธานสภาฯ พิจารณา และเบื้องต้นวาระการประชุมสัปดาห์นี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และจากนี้การอภิปรายการไม่ไว้วางใจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหาเช่นนี้ กรณีญัตติไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
    ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของนายไพบูลย์ว่า เป้าหมายไม่ได้ต้องการล้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือต้องการทำให้การอภิปรายเลื่อนออกไป เชื่อว่าการอภิปรายจะไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่เราก็ต้องส่งไปเพื่อย้ำว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่ถูกต้อง เป็นการป้องปรามว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่สมควร และมิบังควร ไม่ใช่เกมการเมือง
    เมื่อถามว่า การยื่นตีความญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นมาก่อน นายวิรัชย้อนกลับว่า การเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นหากมีการพูดพาดพิงสถาบัน เราก็จะทำหน้าที่ปกป้องส่วนนี้ให้ดีที่สุด โดยหวังว่าตอนอ่านญัตติฝ่ายค้านจะอ่านข้ามไป เพื่อความสงบสุขของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า กระทำดังกล่าวถือว่าไม่ดี เพราะวันนี้ความรู้สึกของประชาชนและสังคมจดจ่ออยู่ที่วันอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้สะดุดทั้งการทำงานและอารมณ์สังคม แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถยื่นได้
    “การยื่นญัตติดังกล่าวเป็นภาระของสภา เมื่อพรรคพลังประชารัฐยื่นแล้วต้องรอดูว่าสภาจะว่าอย่างไร เป็นความวิตกกังวลของรัฐบาลที่อาจจะตอบไม่ได้ นายกฯ อาจจะจนมุม หรือการแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐบาลยังไม่จบ จึงงัดทุกอย่างออกมา” ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว
    เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่เมื่อฝ่ายค้านอ่านญัตติจะอ่านข้ามไปเพื่อไม่ให้เชื่อมโยงกับสถาบัน นายสุทินกล่าวว่า ถ้าไม่ขัดแย้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านข้าม แต่ตอนอภิปรายคิดว่าสามารถขอความร่วมมือกันได้ ส่วนที่อาจมีการเสนอให้ประชุมลับ เห็นว่าไม่น่าจะถึงขั้นนั้น ญัตติของฝ่ายค้านเป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีว่าบริหารประเทศส่งผลอย่างไร ไม่ได้เป็นการอภิปรายสถาบันให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
    นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นกันว่า มั่นใจว่าคะแนนจากการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีแต่ละคนในพรรคพลังประชารัฐจะไม่เท่ากัน ข้อมูลที่ฝ่ายค้านได้ก็มาจากฝ่ายรัฐบาลทั้งนั้น ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ขอไม่บอก ไม่อย่างนั้นจะไม่เรียกว่าหมัดน็อก ที่แย้มๆออกมาแค่น้ำจิ้ม บอกได้เพียงแค่ว่ากรณี รมว.ศึกษาธิการครบเครื่อง พยานหลักฐานประจักษ์ชัด ฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีเพียงสั้นๆ หากนายกฯ จะเอารัฐมนตรีคนนี้ไว้หรือไม่ ถ้าเอาไว้ อาจจะไปด้วยกันก็ได้.