ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลรอบนี้ของพรรคฝ่ายค้าน ยื่นอภิปราย 10 คนด้วยกัน จัดกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มเป้าหลัก 3 ป. บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

            กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในค่ายภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในค่ายประชาธิปัตย์           

            กลุ่มพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

            วันอภิปราย 16-19 ก.พ. ลงมติโหวต 20 ก.พ. หากนับเวลาเหลือไม่กี่วัน ฝ่ายผู้ถูกอภิปรายเก็งข้อสอบเตรียมข้อมูลชี้แจง ฝ่ายผู้อภิปรายเตรียมข้อมูลแฉ พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียม 38 ขุนพลซักฟอก 10 รัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ‘เฮียเสริฐ-ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.นครราชสีมา ‘เดอะโจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร’ ส.ส.มหาสารคาม ‘สุทิน คลังแสง’ ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม ยืนยันไปในทิศทางเดียวกัน

                ‘มีความพร้อม จัดสรรเวลาผู้อภิปรายพรรคร่วมฝ่ายค้านลงตัว มีหลักฐานเด็ด ใบเสร็จมัด ไม่ห่วงปัญหางูเห่าในพรรคฝ่ายค้าน หลังจบศึกอภิปรายเตรียมยื่นหน่วยงานเอาผิดรัฐมนตรีอีก 4 คน’

            ฝ่ายค้านถูกจับตามากเป็นพิเศษจากการอภิปรายเมื่อปี 2563 มีปัญหาต้องพลิกเกม แก้ไขกันเป็นรายวัน นอกจากไม่มีหมัดเด็ดตามที่คุยโวแล้ว หลังจบศึกอภิปรายยังมีปัญหากับพรรคอนาคตใหม่ (ในขณะนั้น) เรื่องการจัดลำดับเวลา คิวอภิปราย ทำให้แฟนๆ นอกสนามรุมจวก ‘มวยล้ม ข้อสอบรั่ว’

            มาถึงครั้งนี้เห็นความผิดปกติในการเตรียมความพร้อมอภิปราย ว่ากันว่า เดอะเหลิม-ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้ามากำชับดูแลข้อมูล ติวเข้ม ส.ส. แว่วเสียงหลังจบศึกอภิปรายจะเปิดเวทีซักฟอกในแบบฉบับตัวเอง ขณะที่ขุนพลนักอภิปราย ส.ส.รุ่นกลาง รุ่นเก๋า อย่างน้อย 2 คน โบกมือบายไม่ขออภิปรายรอบนี้ด้วยเหตุผลบางประการ นอกจากนี้ ข้อมูลเชิงลึกกลับปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้อภิปรายทำเอง ทำให้หวั่นเกรงว่าด้วยข้อมูลระดับ Top Secret ต้องอาศัยคอนเน็กชันระดับอดีตรัฐมนตรี อดีตบิ๊กข้าราชการ ช่วยล้วงเอาข้อมูลลับสุดยอดมาตีแผ่ ทำให้เกรงว่าข้อมูลอภิปรายรอบนี้อาจจะแค่ตัดแปะตามข่าว เป็นข้อมูลผิวเผินเท่านั้น    

            ในแวดวงพรรคร่วมฝ่ายค้านยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ยอมแย้มไต๋ แชร์ข้อมูลกันเอง มีแค่เพียงบอกในวงที่จะอภิปรายรัฐมนตรีรายนั้นๆ โดยลงเพียงหัวข้อเบื้องต้นเท่านั้น เพราะต่างฝ่ายต่างเกรงข้อสอบรั่วเนื่องจากมีบทเรียนมาแล้ว

            อาการผิดสังเกตของนักอภิปรายบางคน ทำให้คนกันเองไม่เข้าใจว่าเหตุใดในการแถลงข่าวมักออกมาแย้มประเด็น หลายครั้งลงไปในรายละเอียดปมที่จะซักฟอกอภิปรายรัฐมนตรีคนนั้น ทำเอาพรรคพวกกันเองยังส่ายหน้า ยังไม่นับรวมปัจจัยภายนอก นายทุนใหญ่ ‘เสี่ย ก.’ จุฬาฯ คอนเน็กชันที่ ส.ส.บางคนเกรงใจ เข้ามาล้วงลูกไม่ให้กระทบมาถึงตัวเองและเครือข่ายคอนเน็กชันทางธุรกิจตัวเอง

            ขณะที่ในฝ่ายรัฐบาล รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย เป้าหลัก 3 ป. ไม่มีอาการหวั่นเกรง ยืนอยู่บนภู ลอยตัว ยังไม่ระแคะระคายว่าพรรคฝ่ายค้านจะแฉเรื่องราวอะไรตามที่ได้คุยโวเอาไว้ตั้งแต่ต้น ไม่เท่านั้นยังมีสายลับแฝงตัวภายในพร้อมส่งข้อมูลไม่ชอบมาพากลให้อีกด้วย ไปๆ มาๆ มีเพียงแค่บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวที่จะถูกซักฟอกหนักกว่าเพื่อน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโควิดระบาด ปัญหาแรงงานเถื่อน บ่อนการพนัน เศรษฐกิจแย่ ม็อบนักศึกษาออกมาขับไล่ ทุกเรื่องจะถูกลากมาเชื่อมโยงทั้งหมด ตลอดระยะเวลาซักฟอก 4 วันเต็ม                

            แต่ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เป็นประเด็นการเมืองทั่วไป ในส่วนข้อมูลเด็ดอันจะสร้างผลสะเทือน เช็กบิล พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีใน ครม.ได้ ต้องเป็นการประพฤติมิชอบ ทุจริตคอร์รัปชันเท่านั้น กลับยังไม่มีการแย้มไต๋หัวข้อออกมา                          

            กลับกัน ห้วงเวลา 1-2 วันมีข่าวออกมาไม่สู้ดีนัก เมื่อปรากฏข่าวกลุ่ม ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐร่วม 30 คน จ้องจะโหวตไม่ไว้วางใจหรืองดออกเสียงรัฐมนตรีจากค่ายตัวเอง เป็นข่าวคึกโครม ฝ่ายรัฐบาลเสียงแตก ทำให้ เสี่ยปาน-นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ต้องออกมาปฏิเสธข่าว ย้ำหนักแน่นฝ่ายรัฐบาลยังมีเอกภาพ        

            ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ โฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ออกมาเฉลย รัฐมนตรีที่มีปัญหา เสี่ยตั้น-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่โดนทั้งพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล พร้อมใจสหบาทา น่าสนใจ วิโรจน์บอกอีกว่า

            ‘ส.ส.พปชร.เขารอเห็นวันนี้มานานแล้ว มาแอบกระซิบผม ให้ผมอภิปรายจัดหนักๆ ผมบอกให้ก็ได้ว่า ข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เตรียมไว้ บางส่วนผมได้มาจาก ส.ส.พปชร.หลายคน ดังนั้นนายวิโรจน์ขอทำนายไว้ล่วงหน้าเลยว่า รัฐมนตรีศึกษาธิการจะได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดในศึกซักฟอกรอบนี้

            จะด้วยเหตุผลอะไรที่มีต่อรัฐมนตรีคนนี้ จะเป็นเรื่องส่วนตัว แนวทางการทำงาน สไตล์บุคลิก ผูกโยงเป็นข้อหาหมั่นไส้ ที่งานนี้ไปๆ มาๆ ฝ่ายค้านไม่ต้องออกแรง แต่เป็นคนในรัฐบาลแทงกันเอง ส่วนจะมีเสียงถึง 30 ส.ส. ร่วมกันโหวตรัฐมนตรีรายนี้ให้ได้คะแนนต่ำกว่าเพื่อนรัฐมนตรีคนอื่น เพื่อเปิดทางให้มีการปรับ ครม.จริงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

                ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ดูแปลกๆ ฝ่ายค้านต่างคนต่างอยู่ ไม่สามัคคีร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว แถมไม่มีข้อมูลเชิงลึก ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล จากปัญหาภายในลามสู่ภายนอก เกิดภาวะ ‘ยืมมือฆ่า' ฝ่ายค้านไม่อาจหวังพึ่งพาการตรวจสอบได้ ฝ่ายรัฐบาลไม่อาจเป็นที่พึ่งที่หวังได้ กลายเป็นเรื่องราวแย่ๆ พอกันทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล.