เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.) พรรคประชาธิปัตย์มีประชุมรัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรค ทำให้เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความคึกคัก ผู้คนเวียนเข้าเวียนออกหัวกระไดไม่แห้ง
เช่นเดียวกับกระจอกข่าวที่แวะเข้าไปขอความเห็นและหาข้อมูลในเรื่องที่ตัวเองสนใจ
โดยใช้วิธีดักรอหน้าตึก ใครไปใครมาจะได้เห็นหมด และในช่วงเวลาแบบนี้มีหลายประเด็นที่ต้องติดตามก็ต้องหมั่นพูดคุย
ก่อนเริ่มถาม ก็ต้องสร้างบรรยากาศสบายๆ ด้วยการหยอกล้อให้พอขำขันกันเล็กน้อย
สำหรับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นั้น ใครคิดจะต่อปากต่อคำด้วยต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะตามธรรมชาติค่ายนี้เขากระเซ้ากันแรงเป็นปกติ หากไม่เคยได้ยินก็อาจคิดมากได้
อย่างตอนหนึ่ง อิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำภาคอีสานคนสำคัญ หนึ่งเดียวในประชาธิปัตย์ เดินออกมาจากตึก กระจอกข่าวจึงสบโอกาสเช็กความรู้สึก ในฐานะที่เป็นตัวแทนภาคอีสานรู้สึกน้อยใจพรรคไหม?
เจ้าตัวบอกว่า “ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร และจะอยู่กับประชาธิปัตย์ตลอดไป ไม่ย้ายไปไหน เพราะสงสารพรรค”
ระหว่างที่บทสนทนากำลังดำเนินไปเรื่อยๆ นั้น วิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง และนายทะเบียนพรรค เดินมาได้จังหวะ สองคนในวงสนทนาที่สถานะเป็นผู้น้อยก็ยกมือไหว้ทักทาย ขณะเดียวกัน วิรัช ก็รับไหว้อย่างสวยสดงดงาม โค้งศีรษะด้วยความสุภาพ
เมื่อเห็นดังนั้น พ่อใหญ่อิสสระ จึงตะโกนทักไป “ผมไปไหนหมด” ด้าน วิรัช ไม่ตอบโต้เดี๋ยวนั้น แต่รีบปรี่เข้ามาร่วมวง
วิรัช เปิดประโยคแรกด้วยวิสัชนา “ผมก็อยู่นี่แหละไม่ได้ไปไหน” ทั้งที่ในใจรู้แหละว่า “ผม” ในความหมายของพ่อใหญ่ คือเส้นผม ไม่ใช่สรรพนามแทนตัวเอง
จากนั้นก็เริ่มพูดหาพวก “ผู้นำโลกก็เหมือนผมนี่แหละ เห็นไหม ทั้งโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ทั้งนายกฯ เวียดนาม เหงียน ซวน ฟุก”
แหม...ไม่บอกไม่รู้เลยว่าเทรนด์ผมน้อยกำลังมา อิอิ.
มินนี่เมาธ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |