ครม.สั่งชะลอ ทวงเบี้ยคนแก่


เพิ่มเพื่อน    


    รองโฆษกรัฐบาลเผย ครม.รับทราบผลการประชุม คกก.ผู้สูงอายุแห่งชาติ สั่งชะลอเรียกคืนรับเบี้ยยังชีพคนชราที่ซ้ำซ้อนสวัสดิการอื่นจำนวน 7,700 คน ยืนยันไม่เอาผิด ให้เร่งหาแนวทางแก้ปัญหา ปัดข้อเสนอ พม.ตั้งเกณฑ์ทุจริตเบี้ยชรา ด้าน 'จุติ' ชี้เงิน 130 ล้านที่ทวงมาได้แล้วคืนลำบาก "วิษณุ" ชี้ กม.เขียนไม่ถูก ต้องไปนิยามใหม่
    วันที่ 9 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบมติคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพที่มีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น โดยมีสาระสำคัญคือ 1.ชะลอการดำเนินการเรียกเงินเบี้ยยังชีพคืนจากผู้สูงอายุที่มีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น ซึ่งมีผู้สูงอายุถูกทวงถามจำนวน 5,700 คน และอีก 2,000 คนอยู่ในบัญชีทวงถาม 2.ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมบัญชีกลาง กรุงเทพมหานคร ร่วมหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น กำหนดเกณฑ์กลางที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหาทางเลือกที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดการรับซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ขอให้สบายใจว่าจะไม่มีการทวงใดๆ และไม่มีการฟ้องในคดีอาญา ที่มีข่าวลือว่าจะถูกฟ้อง ถูกติดคุก สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น และทุกๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก
    วันเดียวกัน นายจุติ​ ไกรฤกษ์​ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ซ้ำซ้อน​ว่า ตนมารายงานความคืบหน้าว่าดำเนินการอะไรไปบ้าง เพราะปัญหาหลักคือการตีความเรื่องกฎหมาย​ คือ​ระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พ.ศ.2552 ให้นิ่ง เมื่อตีความนิ่งแล้วจะมีมาตรฐานเดียวกัน 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ครม.จะมีการหารือเรื่องระเบียบใหม่หรือไม่​ นายจุติกล่าวว่า​ ยัง ต้องให้เขาไปดูก่อน​ เพราะมีถึง 24 ประเภท ไม่ใช่เรื่องง่าย
    เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้สูงอายุที่รับเงินซ้ำซ้อนคืนเงินมาแล้ว 130 ล้านบาท​ จะจ่ายคืนกลับไปให้ได้หรือไม่​ นายจุติกล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย คืนลำบาก​ บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยกฎหมาย อาจจะไม่ถูกใจ แต่ต้องถูกกฎหมาย
    รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า ​ในที่ประชุม​ ครม.ใช้เวลาในการพิจารณาประเด็นจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนมากที่สุด​ โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. รายงานตอนหนึ่งถึงการช่วยเหลือสูงอายุที่รับเบี้ยซ้ำซ้อน และเจ้าหน้าที่ดำเนินงานโดยสุจริต พร้อมเสนอให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา กำหนดหลักเกณฑ์กลางว่าผู้ใดสุจริตหรือไม่ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ทักท้วงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดว่าใครทำสุจริต หรือใครทำทุจริต และไม่ควรต้องมีหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยที่ประชุม ครม.ได้เห็นตามที่ พล.อ.อนุพงษ์เสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกเพื่อเสนอกับเข้าที่ประชุมอีกครั้ง
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ปัญหาเรื่องการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนนั้น ต้องการแก้ปัญหาในระยะยาว คือการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งกฎหมายที่เขียนไว้ไม่ถูกต้อง ต้องไปนิยามใหม่ว่า เบี้ยผู้สูงอายุแปลว่าอะไร และให้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าการกระทำใดคือการทุจริต ตอนนี้ให้ชะลอการเรียกคืนเงินไปก่อน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"