9 ก.พ.64 - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวชี้แจงการสั่งคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาที่ 1-4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ว่า คดีมี 2 สำนวน เรื่องแรก (คดีชุมนุมม็อบเฟส) มีผู้ต้องหารายเดียว คือนายพริษฐ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116 และชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 ได้มีคำสั่งฟ้องทั้ง 3 ข้อหา
นายประยุทธ กล่าวต่อไปว่า อีกสำนวน (คดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง) กล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสี่ ในข้อหาตาม ม.112, ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ รวม 11 ข้อหา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ทุกข้อหา
ส่วนที่ทางผู้ต้องหายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้น นายประยุทธ กล่าวว่า พนักงานอัยการพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า พยานที่จะให้สอบเพิ่มเติมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่ง เนื่องจากในสำนวนมีพยานหลักฐานทำนองเดียวกันเพียงพออยู่แล้ว ไม่ดำเนินการตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังจากนี้ทางพนักงานอัยการจะนำผู้ต้องหาทั้งสี่ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา
ทั้งนี้ ภายหลังการให้ข่าวของนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นั้น นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ซึ่งเดินเข้ามาฟังการแถลงด้วยได้ถามกลับนายประยุทธ ย้ำถึงประเด็นตามหนังสือขอความเป็นธรรมว่าหลักสิทธิเสรีภาพได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานสากล นายประยุทธชี้แจงว่า ส่วนของงานโฆษกเป็นการนำผลการสั่งของพนักงานอัยการมาเรียนต่อสื่อมวลชน ส่วนในสำนวนงานโฆษกไม่สามารถอธิบายได้ เพราะไม่ได้รับผิดชอบสำนวน และไม่แน่ใจว่าเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลหรือไม่
ขณะที่นายพริษฐ์ตอบโต้ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลต่อมาตรฐานสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต้องชี้แจงบรรทัดฐานการดำเนินงานขององค์กรอัยการเป็นอย่างไร คดีนี้คือคดีการเมือง กระบวนการยุติธรรมสามารถปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้มากน้อยขนาดไหน ส่วนนายประยุทธ ตอบว่าตาม ป.วิ.อาญา มีหลักสันนิษฐานคนที่อัยการฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิด และให้อัยการพิจารณาถ้าพยานหลักฐานพอฟ้องก็ฟ้อง ประเด็นที่พูดสามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้
ปิดท้ายนายพริษฐ์จึงกล่าวถึงพยานที่ให้สอบเพิ่มจะพูดเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน พร้อมกล่าวโจมตีว่าองค์กรอัยการไม่เห็นความสำคัญของการธำรงไว้ซึ่งเสรีภาพในการแสดงออก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |