จนท.ทุกภาคส่วนร่วมตรวจสอบตลาดทุ่งเกวียนไม่พบแผงขายเนื้อสัตว์ป่าคุ้มครองตามที่ถูกร้องเรียน

วันที่ 15 พ.ค.หลังจากที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกมาเปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ร้องเรียนว่าพบเห็นการนำซากสัตว์ป่ามาค้าขายกันมากในพื้นที่บริเวณหลังตลาดทุ่งเกวียน ตั้งอยู่ริมถนนหมายเลข 11 ลำปาง-เชียงใหม่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เมื่อเดินทางไปตรวจสอบก็พบว่ามีการค้าขายจริง ซึ่งมีผู้ค้ามากเกือบสิบร้าน โดยแต่ละร้านจะมีการร้องเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อโดยอ้างว่าเป็นเนื้อเก้ง เนื้อกวาง กระจง หมูป่า กระต่ายป่า ตุ่น กระรอก รังผึ้งป่า ฯลฯ

ซากสัตว์ป่าเหล่านี้ล้วนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 19, 20 และ 21 คือ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าวฯ และหากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับนั้น

ล่าสุด นายวาทิต ปัญญาคม นอภ.ห้างฉัตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ ตั้งตัว ผกก.สภ.ห้างฉัตร นายชนมภูมิ จอมทัน ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (สาขาลำปาง) ว่าที่ร้อยตรีฐนพงษ์ ปุรินทราภิบาล จพง.ป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง นายถาวร ไชยวังราษฎร์ ปศุสัตว์อำเภอห้างฉัตร และส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบกาดทุ่งเกวียนหรือตลาดทุ่งเกวียนเป็นวันที่ 3 ซึ่งพบว่าบรรดาแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าอื่นๆอาทิ อาหารทั่วไป ของฝาก ก็ยังคงจำหน่ายได้ แต่พ่อค้าแม่ค้าประเภทเนื้อสัตว์ต่างได้รับผลกระทบอย่างมากหลังมีการนำเสนอเรื่องการค้าซากสัตว์ป่า

เจ้าของร้านศรีทองสัตว์ป่า เปิดเผยว่าสัตว์ที่นำมาจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมาย หมูป่าก็เป็นหมูป่าเลี้ยงบนดอยมูเซอ ชาวบ้านเลี้ยงและซื้อขายอย่างถูกต้อง ได้กำไรเพียงกิโลกรัมละ 20-30 บาท เท่านั้น พอมีข่าวออกไปลูกค้าก็กลัวไม่กล้ามาซื้อทำให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก

ด้านนายชนมภูมิ กล่าวว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทุกระยะและไม่พบว่ามีการนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาจำหน่ายแต่อย่างใด อยากให้ลูกค้าสังเกตสินค้าหากพอใจก็ซื้อ เพราะราคาที่จำหน่ายก็ไม่ได้แพงมากจนซื้อไม่ได้ บางอย่างก็มีการทำกรรมวิธีอย่างอื่นเพิ่มเช่นหมักก็จะทำราคาสูงขึ้น

นายถาวร บอกว่าเนื้อสัตว์ที่นำมาจำหน่ายในกาดทุ่งเกวียนจะมีใบรับรองอย่างถูกต้องและทางปศุสัตว์ก็จะมาตรวจสอบตลอดเช่นกัน

พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่าต่อไปก็จะมีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยมาตรวจสอบมากขึ้นหากพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายก็จะถูกดำเนินคดีทันที

นายวาทิต ปัญญาคม นอภ.ห้างฉัตร กล่าวว่าจากการลงตรวจสอบและข้อมูลของเจ้าหน้าที่ก็พบว่าไม่มีการลักลอบจำหน่ายสัตว์ป่าเพียงแต่อาจมีการโฆษณาชวนเชื่อของแม่ค้าเท่านั้น ซึ่งตามภาพที่เป็นข่าวที่บอกว่าเป็นกระจง ที่แท้ก็คือกระต่ายเลี้ยงที่มีขนาดแตกต่างกันไป ไก่ป่าที่เท้าดำก็จะมีบางสายพันธุ์ที่เท้าดำก็มีเช่นกัน ส่วนเนื้อหมูป่าก็คือหมูป่าที่เลี้ยง นกก็จะเป็นกกระทาก็มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ จ.นครปฐม และจ.ตาก ส่วนนกกระทามาจากฟาร์มไข่นกกระทาในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร เป็นนกที่ไม่สามารถให้ไข่ได้แล้ว

ทั้งนี้ก็ได้มีการพุดคุยกันแล้วว่าต้องเข้มงวดในเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ปศุสัตว์ มาบังคับใช้ และให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงว่าเป็นเนื้อสัตว์ชนิดไหนอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้ลูกค้าเข้าใจผิดและได้สรุปมาตรการในเบื้องต้นคือ ให้มีการทำบันทึกข้อตกลง 3 ฝ่ายคือ ส่วนราชการในพื้น อ.ห้างฉัตร ผู้ประกอบการในตลาดทุ่งเกวียน เจ้าของตลาดทุ่งเกวียน ในการห้ามค้าขายซากสัตว์ป่าอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีการกระทำผิดจะถูกจับกุมดำเนินคดีจนถึงที่สุด และทางเจ้าของตลาดจะมีมาตรการห้ามขายในพื้นที่ตลาดแห่งนี้อีกและพร้อมจะควบคุมอย่างเข้มงวดเพราะไม่ต้องการให้เสียชื่อเสียงตลาด