‘ป้อม’สยบร้าวส่อเลื่อนซักฟอก


เพิ่มเพื่อน    

  "ประวิตร" ออกโรง ย้ำเอกภาพไม่มีเสียงแตก  เป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน "วิรัช" ยันคะแนนครบเป๊ะในระดับ 270 เสียงแน่ เว้นแต่มี "งูเห่า" มายกมือหนุนให้เพื่อสร้างความร้าวฉาน นัด 13-14 ก.พ.ติวเข้ม 10 รัฐมนตรีที่ถูกจองกฐิน "สุทิน" รับมีพวกไส้ศึกโหวตหนุนแค่ 1-2 เสียง แต่ก็ไม่ได้นับรวมอยู่แล้ว "วิสาร" เพ้อกระชากหน้ากากรัฐบาล

    เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเสียงแตกในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า "ไม่มีอะไร และไม่มีข่าวด้วย"
    เมื่อถามว่าเสียงของ พปชร.จะเป็นเอกภาพใช่หรือไม่  พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "มีเอกภาพแน่นอน" และเมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมก็จะเป็นทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "คุยกันเรียบร้อย"
    ต่อมาเวลา 11.55 น. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงคลื่นใต้น้ำใน พปชร.ว่า ไม่มีคลื่นใต้น้ำ บอกว่าไม่มีก็ไม่มี ส่วนจะตรวจสอบถึงคนปล่อยข่าวด้วยหรือไม่ จะตรวจสอบของตนเอง ไม่ต้องบอกสื่อมวลชน
    เมื่อถามย้ำว่า คนปล่อยข่าวมีวัตถุประสงค์ต้องการบ่อนทำลายพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "คุณไปถามคนปล่อยข่าวดูสิ ไม่มีเรื่องบ่อนทำลายพรรค เพราะพรรคมีหนึ่งเดียวและเป็นเอกภาพ และเชื่อว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่มี ส.ส.พปชร.โหวตสวน"
    ส่วนจะเป็นมติพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "เรื่องภายในพรรคจะต้องบอกสื่อมวลชนด้วยหรือ และเมื่อถามว่า พปชร.ต้องไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องคุยกันอยู่แล้ว และเรื่องของการโหวต ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลด้วยกัน เป็นการร่วมมือกัน เป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกัน"
    เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตรพร้อมมากน้อยเพียงใด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "บอกไปแล้วว่าพร้อม เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็บอกไปอย่างนั้น"    
    ถามถึงกรณีประธานวิปรัฐบาลระบุเตรียมตัวผู้อภิปราย  10 รัฐมนตรีมาติวข้อสอบในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า  "สื่อก็คิดไปเอง ถามไปเอง พูดไปเอง สื่อพูดให้แตกแยกอยู่เรื่อย" เมื่อถามย้ำว่าประธานวิปรัฐบาลเป็นผู้ระบุในเรื่องนี้  พล.อ.ประวิตรบอกว่า "ไม่รู้ ไม่มี"
    เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอ้างว่ามีข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะนำไปสู่การเล่นงานทางกฎหมายกับรัฐบาลได้  พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ก็ทำไปเถอะ ก็ว่าไปตามนั้น"    
เมื่อถามว่า มีข้อสอบรั่วของฝ่ายค้านมาถึงมือ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ หัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า "จะไปรู้ได้อย่างไร มันเป็นเรื่องของพรรคฝ่ายค้าน ก็ถามมาก็ตอบไป เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องไม่จริงก็ชี้แจงข้อเท็จจริงกลับไปก็เท่านั้นเอง"
ถามอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ต้องใช้บริการงูเห่าหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามนี้
    เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต้องการให้ปรับ ครม.ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ จะไปรู้เหรอ ถ้ารู้ให้บอกด้วย" ถามย้ำว่า รัฐบาลทำงานมา 2 ปีควรปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไปถามท่านนายกฯ" ถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรมีสิทธิ์เสนอให้นายกฯ ปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่มีสิทธิ์ และเชื่อว่านายกฯ จะไม่ถามความเห็นด้วย"
    นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส. 30  คนของ พปชร.จะโหวตไม่ไว้วางใจนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ  รมว.ศึกษาธิการว่า ได้เรียน พล.อ.ประวิตรแล้วว่าพรรคซึ่งเป็นพรรคหลักของรัฐบาล มีความมั่นคง รักกันเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีไปทางไหน เพียงแต่คำพูดบางครั้งพูดกันสนุกๆ เราก็อย่าเก็บนำมาเป็นประเด็น
    "เมื่อเช้าอ่านข่าวก็ตกใจเหมือนกัน พาดหัวเกือบทุกฉบับ พรรคพลังประชารัฐยืนยันไม่เฉพาะส่วนที่เป็นข่าว แต่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ซึ่งผมได้คุยกับตัวแทนของพรรคร่วมรัฐบาลให้เขาเกิดความมั่นใจว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พรรคก็เหมือนปีที่แล้ว คะแนนครบเป๊ะ รับรองยืนยันได้ และผลคะแนนที่ออกมาจะใกล้เคียงกัน นอกเสียจากว่าฝ่ายค้านจะแอบมาโหวตให้ เพื่อให้คะแนนต่างกัน" นายวิรัชกล่าว
ยกณัฏฐพลเป็นคนเก่ง
นายวิรัชกล่าวต่อว่า ส่วนกระแสข่าวที่จะไม่โหวตให้นายณัฏฐพลนั้น ยืนยันนายณัฏฐพลเป็นคนเก่ง ตั้งใจทำงาน บางครั้งก็มีบ้างที่คนไม่พอใจ แต่ไม่ถึงขนาดต้องออกมาแบบเป็นข่าว และไม่มีใครที่จะคิดว่าใครแตกแถว เขาก็พยายามเสี้ยมให้แตก แต่เราจิตใจมั่นคง เหนียวแน่น ไม่ไปไหน คงอยู่กันแบบนี้ และหัวหน้าพรรคก็ได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคนมีเอกภาพ  ท้ายที่สุดหากยังมี ส.ส.โหวตสวน ในพรรคก็มีมาตรการเด็ดขาด
    นายวิรัชกล่าวอีกว่า ในวันที่ 13-14 ก.พ.จะให้ 10  รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมาเตรียมการและคาดคะเนว่ารัฐมนตรีแต่ละคนจะถูกอภิปรายเรื่องใด โดยตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลจะซักถามก่อนที่จะฝ่ายค้านจะอภิปราย โดยให้รัฐมนตรีเป็นคนตอบ หากตอบไม่ชัดจะได้เพิ่มเติมข้อมูลให้ ซึ่งเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็ได้ผลดี ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะมาร่วมติวหรือไม่ยังไม่ทราบ  แต่จะเรียนเชิญท่าน ซึ่งก็ไม่ได้ห่วงเพราะท่านเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว แต่คนที่ต้องมาแน่ทั้งเปิดและปิดคือ พล.อ.ประวิตร
    นายวิรัชยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่กำหนดให้อภิปราย 4 วัน และลงมติ 1 วัน ว่าเวลาดังกล่าวเหลือเฟือ เป็นปลายเปิดที่อภิปรายได้ถึง 70 ชั่วโมง  โดยแต่ละวันอาจขยายไปถึงตีสองก็ได้
    ต่อมานายวิรัชแถลงถึงการติวเข้มในวันที่ 13-14 ก.พ.ว่า  ขณะนี้อยู่ระหว่างหาสถานที่ประชุม อาจเป็นพื้นที่ใน กทม. ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ลดการเคลื่อนย้าย ส่วนข่าวเรื่อง 30 ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะไม่โหวตให้รัฐมนตรีบางคนนั้น ยืนยันว่า พปชร.หนักแน่น แน่นเหนียว สามัคคีกลมเกลียว ไม่มีแกว่งไปทางไหนแม้แต่เสียงเดียว เหมือนครั้งที่แล้วที่มีข่าวว่าบางพรรคจะไม่ยกมือให้รัฐมนตรีบางคน แต่ปรากฏว่าสุดท้ายทุกคะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเท่าเทียมกัน แต่อาจมีการเล่นละครกันบ้าง เช่นพรรคฝ่ายค้านลงคะแนนให้คนนั้นมากคนนี้น้อย ตรงนั้นที่ทำให้เหมือนว่าพรรครัฐบาลแตกแยก จริงๆ แล้วไม่ใช่ คะแนนมาตรฐานเรามีอยู่แล้ว
    "ในวันที่ 15 ก.พ.จะประชุมวิปรัฐบาล และจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ. เพื่อหารือกับทุกพรรคว่าจะดูแลรัฐบาลอย่างไรในการลงมติ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีเสียงมาตรฐานในสภาอย่างน้อย 270 เสียง ในวันลงมติอาจมีขึ้นหรือลงบ้าง  เช่นมี ส.ส.ป่วยหรือมีความจำเป็นกะทันหัน ตรงนั้นไม่ว่ากัน"
    นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า ที่ประชุมวันนี้รับทราบกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เตรียมเสนอญัตติด่วนต่อที่ประชุมสภา เพื่อขอมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) กรณีญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังฝ่ายรัฐบาลเสนอให้แก้ไขไปแล้วแต่ฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ไข โดยนายไพบูลย์จะยื่นเรื่องให้ประธานสภา เพื่อบรรจุวาระการประชุมสภาต่อไป และเมื่อมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะต้องใช้เสียงข้างมากของสภาเห็นชอบ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และหากสุดท้ายศาลมีมติรับคำร้องจะส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.นี้อาจต้องเลื่อนออกไป
    นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า งานในส่วนที่พรรคดูแลอยู่คือ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ดังนั้นในการอภิปราย หากถูกอภิปรายถึงเนื้องานของงานที่ดูแล พรรคก็พร้อมช่วยตอบข้อซักถาม
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ  กล่าวถึงการประชุมคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งที่ 2 ว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้นายทศพล  เพ็งส้ม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมตั้งคณะทำงานวอร์รูม เพื่อเตรียมรวบรวมข้อมูลในการดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ว่าจะมาตรา 112 หรือมาตราใดก็ตาม ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  หรือความเสียหายต่อบุคคล คือนายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    "เราจะไม่รอให้มีการอภิปรายก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์จนเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเราเจอว่า ส.ส.ฝ่ายค้านท่านใดอภิปรายบิดเบือนข้อเท็จจริง เกิดความเสียหาย เราจะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษในทันที และภายในสัปดาห์นี้เราจะเตรียมข้อสอบที่ได้มาทั้งทางลับ ใต้โต๊ะ หรือบนดินก็แล้วแต่ ที่ไปล้วงตับฝ่ายค้านมา จะส่งสรุปให้รัฐมนตรี" นายสุภรณ์กล่าว
รับมีงูเห่า 1-2 ตัว
    ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย  (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว ส่วนเรื่องงูเห่าที่จะลงมติสวนมติพรรคนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่มักมีกระแสข่าวออกมา ทำให้คนที่จะเป็นงูเห่าต้องระวังตัวมากขึ้นเพราะถูกสังคมจับจ้อง แม้ฝ่ายค้านยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการลงมติ แต่เชื่อว่าทุกคนรู้เป้าหมายดีว่าต้องลงมติอย่างไร จึงไม่หนักใจ  แต่คนที่จะลงมติสวนมติพรรคคงมีปัญหาอยู่แค่ 1-2 คน คนกลุ่มนี้มีเป้าหมายปลายทางอยู่แล้ว เราจึงไม่นับรวมอยู่แล้ว
    เมื่อถามว่า กรอบเวลาที่ฝ่ายค้านได้ 42 ชั่วโมงจะสามารถอภิปรายจบในวันที่ 19 ก.พ.และลงมติวันที่ 20 ก.พ.หรือไม่ นายสุทินตอบว่า คงเพียงพอถ้าไม่มีเจตนาลากหรือประท้วงให้เกิดเหตุวุ่นวาย
    นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรค พท.กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะฉีกหน้ากากที่รัฐมนตรีแต่ละคนสวมไว้ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร ที่ชอบอ้างเสียสละตัวเองเข้ามาเพื่อทำงาน ไม่ได้หวังอะไร ประชาชนจะได้เห็นว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือไม่ 6 ปีที่ผ่านมาทำไมคนใกล้ตัวผู้มีอำนาจรวยขึ้น เจ้าสัวใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์รวยขึ้นหลายแสนล้าน ข้อมูลตรงนี้ประชาชนต้องรู้
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า แม้การให้ ส.ส.ถอนชื่อเพื่อให้ญัตติล้มนั้นคงไม่เกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่ขออย่าประมาทเรื่องการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการอภิปรายที่พาดพิงสถาบัน  หรือให้อภิปรายได้แต่ให้ประชุมลับ หรือตั้งกรรมการร่วมตรวจสอบเอกสารก่อนการอภิปราย โดยการทำหรือเดินเกมแบบนี้ คนที่ได้เปรียบคือฝ่ายรัฐบาล เพราะเห็นข้อสอบในวันสอบหมดแล้ว จึงสามารถค้นคำตอบมาชี้แจงในสภาได้สบาย
"ขออย่าประมาทพฤติกรรมลูกเล่นของฝ่ายรัฐบาล โดยจะเป็นทำนองให้เกิดข้อสอบรั่วล่วงหน้าก่อนไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม  จะทำให้การอภิปรายหมดเสน่ห์ จึงหวังว่าครั้งนี้จะไม่เกิดเช่นนั้นขึ้นอีก"  
        วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  อดีต รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวอดีตรัฐมนตรีกลุ่ม  4 กุมารเตรียมตั้งพรรคการเมืองว่า เรื่องการเมืองไม่มีอะไรจะตอบ ยังไม่ได้เข้าไปทำอะไร เวลานี้เป็นช่วงพัก ยังไม่ได้คิดจะทำการเมืองอะไร เป็นช่วงเวลาที่ต้องให้กำลังใจทุกคน  วันนี้ขอให้กำลังใจนายกฯ และรัฐบาลที่กำลังเจอกับสถานการณ์โควิด-19 รอบสอง ที่ต้องช่วยประคับประคองให้สถานการณ์ผ่านไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า อนาคตยังสนใจการเมืองอยู่หรือไม่  นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด เวลานี้รัฐบาลยังมีอายุอีก  2 ปี จึงเร็วไปที่จะพูด ส่วนที่มีกระแสข่าวกลุ่ม 4 กุมารจะไปตั้งพรรคการเมืองเอง ก็เป็นกระแสข่าวมาตลอดตั้งแต่ออกจากพรรค เป็นเรื่องที่พูดกันไป ยังไม่มีการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น และกลุ่ม 4 กุมารแทบจะไม่ได้เจอกัน เพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่
เมื่อถามว่า มีคนทาบทามให้ไปร่วมทำงานการเมืองบ้างหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า การเมืองรู้จักกันทั้งนั้น และได้พบอดีตรัฐมนตรี รัฐมนตรี ก็คุ้นเคยกันอย่างดี.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"