ศึกภายในพลังประชารัฐปะทุขึ้นอีกครั้งในช่วงก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เฉกเช่นเดียวกับครั้งก่อน เพียงแต่เปลี่ยนตัว “ผู้ขัดแย้ง”

            ศึกซักฟอกครั้งก่อน เป็นช่วงที่พรรคพลังประชารัฐฝุ่นตลบมากที่สุด จากความขัดแย้งกันเองของบรรดากลุ่มก๊วนต่างๆ อันมีมูลเหตุมาจากการแก่งแย่งโควตารัฐมนตรี โดยเฉพาะการเลื่อยขาเก้าอี้กลุ่ม 4 กุมาร ที่นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีขณะนั้น

            คราวนั้นคนที่เป็นโจทก์กันหลักๆ คือ มุ้งของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กับมุ้งของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์

            ช่วงเวลานั้น ร.อ.ธรรมนัสเจอมรสุมมากมาย อันสืบเนื่องมาจากกรณีพัวพันคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย และกลายเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับเสียงน้อยที่สุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก ตรงกันข้ามกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับคะแนนมากที่สุด

            “วิรัช” ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ถูกมองว่า อยู่เบื้องหลังคะแนนที่มากที่สุดของ “บิ๊กป้อม” และคะแนนที่น้อยที่สุดของ ร.อ.ธรรมนัส

            มาอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ สถานการณ์ของ ร.อ.ธรรมนัสเปลี่ยนไป แต่ยังคงเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม

            โดยเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาพูดถึงกระแสข่าวว่า มีแกนนำที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการในพรรคพลังประชารัฐบางราย ล็อบบี้คะแนนหวังเขย่าให้รัฐมนตรีบางคนหลุดจากตำแหน่งในการปรับ ครม.หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

            โฆษกพรรคก้าวไกลเดาว่า คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งตัวเองได้รับข้อมูลจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐบางคนที่เอามาให้เพื่อจัดหนักกับนายณัฏฐพล พร้อมกับทำนายล่วงหน้าว่าจะเป็นรัฐมนตรีที่ได้คะแนนน้อยที่สุดในครั้งนี้

            สิ่งที่นายวิโรจน์พูดดูเหมือนจะเป็นการเสี้ยม แต่สอดคล้องกับกระแสข่าวและความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะระหว่างมุ้ง ร.อ.ธรรมนัส กับมุ้งนายณัฏฐพล

            สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัส คือ แกนนำที่มีบทบาทมากที่สุด โดยผนึกกำลังกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ซึ่งก๊วนตรงข้ามในพรรคจะเรียกก๊วนนี้ว่า “ก๊วนสามช่วย” ที่มาจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการของทั้งสามคน หรือเรียกอีกชื่อว่า “ก๊วนสามช่า”

            ร.อ.ธรรมนัส นายสันติ นางนฤมล คือคนที่ใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” มากที่สุดในพรรคเวลานี้ โดยเฉพาะนางนฤมล ที่ไม่ว่าใครเข้าพบ “บิ๊กป้อม” จะเจอหน้าด้วยตลอด

            ความขัดแย้งดังกล่าวมีปฐมเหตุมาจากศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ ร.อ.ธรรมนัส กับ “บิ๊กป้อม” สนับสนุนให้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงสมัครผู้ว่าเมืองหลวง

            แต่หลังปรากฏข่าวดังกล่าว นายณัฏฐพลได้ระดม ส.ส.กทม. เพื่อยืนยันว่าจะส่ง “มาดามอีฟ” นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยาลงสมัครเช่นกัน ต่อให้ “บิ๊กป้อม” หรือพรรคพลังประชารัฐจะไม่สนับสนุนก็ตาม

            กลุ่มของนายณัฏฐพลมองว่า การที่ “บิ๊กป้อม” ออกตัวเชียร์ “บิ๊กแป๊ะ” เพราะเป็นการยุแยงของ ร.อ.ธรรมนัส และแก๊งสามช่วยในพรรคพลังประชารัฐที่อยู่ใกล้ชิด ขณะเดียวกันยังได้กลิ่นว่า ร.อ.ธรรมนัส มีแผนที่คิดจะเข้ามาเสียบเพื่อขอดูแลพื้นที่ กทม.เอง

            ขณะที่กระแสข่าวว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัสอยากดูแลพื้นที่ กทม.อีกนอกเหนือจากภาคเหนือนั้น เพราะเห็นว่าพื้นที่เมืองหลวงอาศัยแค่กระแสก็เพียงพอ

            อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่วันต่อมา มีข่าว “บิ๊กป้อม” พูดกับ ส.ส.ว่า สนับสนุน “บิ๊กแป๊ะ” ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า ข่าวนี้เป็นการแก้เกมของอีกฝั่ง เพราะชื่อ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้ขายได้ในพื้นที่ กทม. การปล่อยข่าวลักษณะนี้จึงเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณกับ “บิ๊กแป๊ะ”

            หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของ “บิ๊กป้อม” พ่วง ร.อ.ธรรมนัส กับนายณัฏฐพลก็ดูไม่ค่อยสู้ดี

            และดูเหมือนความเห็นต่างจะคาบเกี่ยวมาถึงการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ที่ ร.อ.ธรรมนัสเชียร์ให้ “บิ๊กป้อม” ส่งผู้สมัครลง ขณะที่กลุ่มนายณัฏฐพลและอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เก่าในพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วย

            ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค กลุ่มนายณัฏฐพลลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า ไม่ควรส่งไปชนกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นเรื่องมารยาท และอย่าประมาทพรรคสีฟ้า ที่หากเป็นเรื่องพื้นที่จะละความขัดแย้งกันเอง เพื่อทุ่มทุกสรรพกำลังแข่งกับพรรคพลังประชารัฐ

            แต่ไม่เป็นผล ที่สุดคณะกรรมการบริหารพรรคเสียงส่วนใหญ่ที่เกือบทั้งหมดอยู่ในก๊วน ร.อ.ธรรมนัส ลงมติว่า ควรต้องส่งลงแข่ง

            กลายเป็นลิ่มความขัดแย้งที่อยู่ในใจกันอีกครั้ง

            ว่ากันว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่พอใจอย่างมากที่นายณัฏฐพลทำตัวเป็นเด็กดื้อกับ “บิ๊กป้อม” นอกจากนี้ยังอาศัยเชื้อเรื่องความไม่พอใจของ ส.ส.บางส่วนในพรรคที่มองว่านายณัฏฐพลเข้าถึงยาก ไม่ค่อยช่วยเหลือเรื่องในกระทรวงศึกษาธิการ มาผสมโรงเพื่อกระทุ้งในครั้งนี้ เพื่อต้องการจะสั่งสอน กระทั่งเกิดข่าวลือ เด็กในพรรคพลังประชารัฐส่งการบ้านให้ฝ่ายค้านล่อ รมว.ศึกษาธิการ

            ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า “ก๊วนสามช่วย” ที่ขึ้นหม้อที่สุดในพรรคตอนนี้ เพราะตัวติดกับ “บิ๊กป้อม” กำลังพยายามอัพเลเวล เพื่อผลักดัน 1 ใน 3 ไปสู่เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง!.