8 ก.พ. 64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ว่าหลังทำรัฐประหาร พล.อ.มิน ออง หล่าย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี ในรูปแบบที่ไม่แตกต่างจากไทยที่ยึดอำนาจเมื่อปี2557 การชุมนุมหลายเมืองของพม่า มีลักษณะคล้ายการชุมนุมของไทยในช่วง 14 ตุลา 2516 และ พฤษภา2535 การยึดอำนาจพม่า ไม่ง่ายเหมือนเดิม เมื่อประชาชนลุกฮือขึ้น ทหารจึงจัดการอย่างยุ่งยากกว่าทุกครั้งที่เข้ายึดอำนาจ เชื่อว่าพม่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ครั้งนี้เผด็จการทหารพม่า ไม่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ถ้าจัดการเด็ดขาดสั่งยิงหรือฆ่าผู้ชุมนุมต่อต้านนั้น ขอประชาชนอย่าได้ประมาทหรือวางใจทหารเด็ดขาด เพราะเผด็จการทั่วโลกก็ทำกันมามากมายทั้งนั้น เมื่อพวกเขาต้องการจะทำ
นายจตุพร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในการแก้มาตรา 256 ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เป็นระเบิดเวลาสำคัญ เพราะผู้ได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ยังไม่รู้จักคำว่าพอ พฤติกรรมเช่นนี้ จะจุดชนวนให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมา เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ขวางการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ยังเป็นกลุ่มเดิม คือ อดีตกลุ่ม สว. 40 เริ่มสำแดงฤทธิ์ต้องการให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะชะงักงัน สะท้อนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เจตนาของคนอดีตกลุ่ม ส.ว.40 ต้องการจะมีเรื่องมากกว่า เพราะคิดว่าได้เปรียบ คนเหล่านี้ไม่สนใจความทุกข์ของประชาชน เอาแต่ประโยชน์ตนเอง ได้รับแต่งเป็น ส.ว.หรือในชื่ออื่นๆติดต่อกันมา ดังนั้นการออกมาสำแดงด้วยพฤติกรรมยั่วยุความรู้สึกของประชาชน ถ้าต้องการท้าทายในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ก็ต้องเจอกันในสนามของประชาชน
สำหรับคำสั่งศาลไม่ถอดคลิปวัคซีนโควิดของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มก้าวหน้านั้น กองเชียร์อย่าเพิ่งดีใจมากมาย เพราะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร้องขอ ห้ามเผยแพร่ แค่เรียกร้องความสนใจของประชาชนเท่านั้น เมื่อคำสั่งศาลให้เผยแพร่กันใหม่จึงไม่น่าดีใจอะไรเลย แม้ชนะก็ไม่มีผลในทางปฏิบัติแล้ว แต่เรื่องอื่นควรทำใจไว้ด้วย เนื่องจากยังมีหนทางอีกยาวไกล
นายจตุพรกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า แม้การให้ ส.ส.ถอนชื่อเพื่อให้ญัตตติล้มนั้น คงไม่เกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่ขออย่าประมาทเรื่องการยื่นให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการอภิปรายฯที่พาดพิงสถาบัน หรือให้อภิปรายฯได้แต่ให้ประชุมลับ หรือตั้งกรรมการร่วมตรวจสอบเอกสารก่อนการอภิปรายฯ โดยการทำหรือเดินเกมแบบนี้ คนที่ได้เปรียบคือฝ่ายรัฐบาล เพราะเห็นข้อสอบในวันสอบหมดแล้ว จึงสามารถค้นคำตอบมาชี้แจงในสภาได้สบาย การเมืองในช่วงหลังๆมานั้น การอภิปรายฯทุกยุคขาดสีสรรค์ หมดเสน่ห์ รัฐมนตรีมีเวลาเตรียมตัวชี้แจงล่วงหน้าหลายชั่วโมง ดังนั้น สิ่งที่จะเป็นไคลแม็กซ์จึงไม่สามารถทำได้ เพราะเกิดการตรวจเอกสารก่อน ไม่เหมือนยุคหนึ่งที่ใช้กระดาษเปล่ามาอภิปรายฯเท็จก็เคยมีมาแล้ว เพราะไม่มีการตรวจสอบก่อน ขออย่าประมาทพฤติกรรมลูกเล่นของฝ่ายรัฐบาล โดยจะเป็นทำนองให้เกิดข้อสอบรั่วล่วงหน้าก่อนไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม จะทำให้การอภิปรายฯหมดเสน่ห์ จึงหวังว่า ครั้งนี้จะไม่เกิดเช่นนั้นขึ้นอีก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |