“อลงกรณ์” ชี้ผลเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน พิสูจน์ 3 ศรัทธา “พปชร.” ตอกย้ำไม่ส่งชิงเก้าอี้เทศบาลทุกจังหวัด สุดหงอยเลือกตั้ง อบจ.ใหม่ใน 18 จังหวัด เหตุไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคะแนน

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ.2564 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครศรีธรรมราช เขต 3 ว่าจะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชนคือ ศรัทธาต่อรัฐบาล, ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังรักษาเสียง ส.ส.ได้เช่นเดิม โดยผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของนครศรีธรรมราช เขต 3 ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดย ปชป.ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.คือนายเทพไท เสนพงศ์
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.กล่าวว่า จะขับร้องเพลงรู้จักแล้วจะรักเอง ซึ่งเป็นสโลแกนประจำตัวที่ได้ใช้มาตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักการเมือง และมอบเพลงให้กับทีมงานรณรงค์หาเสียงของพรรคนำไปเปิดให้ผู้สนับสนุนพรรค แฟนคลับ หรือแม่ยก ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนให้นายพงศ์สินธุ์ได้รับการเลือกตั้ง
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ ได้จัดสัมภาษณ์เบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจลงสมัครเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในนามพรรคแล้ว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการคัดเลือกในเบื้องต้นจากผู้ที่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ ที่พรรคได้เปิดตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.2563 และได้ปิดรับสมัครไปเมื่อ ม.ค.2564 ซึ่งมีผู้สนใจจำนวนมาก
    ส่วนนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นายกเทศมนตรี ขึ้นในวันที่ 28 มี.ค.ว่า พรรค พปชร.ยังคงยืนยันตามมติพรรคเดิมที่มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น หรือสนับสนุนกลุ่มการเมืองหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนในนามของพรรค เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
    ขณะที่ น.ส.ปิยนาฎ กลางพนม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ท.และนายกเทศมนตรีทั้ง 63 เทศบาลของ จ.บุรีรัมย์ ว่าเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเพื่อเป็นการสนองนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กกต.บุรีรัมย์ได้มีมาตรการในการป้องกัน โดยการจัดวัสดุอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดไว้ประจำทุกหน่วยเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด รวมทั้งแต่งตั้ง อสม.หน่วยละ 3 คน มาทำหน้าที่ตรวจคัดกรองประชาชนผู้มาลงคะแนนเลือกตั้ง
วันเดียวกัน ในเวลา 08.00-17.00 น. ซึ่ง กกต.ได้จัดให้มีการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ใหม่ ใน 58 หน่วยเลือกตั้งใน 18 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย 18 จังหวัดคือ นนทบุรี, สุพรรณบุรี, สมุทรปราการ, อ่างทอง, พังงา, ชุมพร, นราธิวาส, นครศรีธรรมราช, ลพบุรี, นครสวรรค์, สระแก้ว, ระยอง, กาฬสินธุ์, นครพนม, ยโสธร, อุตรดิตถ์, อุดรธานี และอุบลราชธานี ทั้งนี้ เป็นการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.อบจ.ใหม่ 40 หน่วย ใน 11 จังหวัด เลือกตั้งใหม่เฉพาะนายก อบจ. 15 หน่วย ใน 8 จังหวัด และเลือกตั้งใหม่ทั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ. 3 หน่วยใน 3 จังหวัด พบว่าบรรยากาศส่วนใหญ่ไม่คึกคักเท่าที่ควร
โดยการเลือกตั้งสมาชิก ส.อบจ.อุดรธานี มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคัก     ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์บางตา ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด
         เช่นเดียวกับการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.สมุทรปราการ จำนวน 3 หน่วยเลือกตั้ง โดยตั้งแต่เปิดหีบให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งบางตา ซึ่งปัจจัยหลักมาจากผลคะแนน 3 หน่วยเลือกตั้งนี้ ไม่มีผลต่อ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ เบอร์ 1 ซึ่งมีคะแนนชนะคู่แข่งกว่า 2 แสนคะแนน  
ไม่ต่างจากที่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีการเลือกตั้งใน 3 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งแม้มีผู้ทยอยมาใช้สิทธิ์ต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งเปลี่ยนแปลง เพราะนายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ผู้สมัครนายก อบจ.อุตรดิตถ์ ที่ชนะได้คะแนน  117,969 เป็นอันดับที่ 1 และคะแนนทิ้งห่างผู้สมัครอื่นๆ กว่า 70,000 คะแนน.