"จับกัง 1" เผยไทม์ไลน์ "ม.33 เรารักกัน" ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ w ww.ม33เรารักกัน.com และตรวจสอบการได้รับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค.นี้ เริ่มช็อปได้ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.- 31 พ.ค. มีผู้เข้าข่าย 9.27 ล้านคน ใช้วงเงิน 37,100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ "ม.33 เรารักกัน" ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ช่วยดูแลพี่น้องแรงงานจากผลกระทบโควิด-19 รวมทั้ง นายจ้างผู้ประกอบการ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รัฐบาลจึงเยียวยารายละ 4,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย 2.เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ขณะเดียวกัน 3.ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ 4.ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท
นายสุชาติกล่าวว่า ล่าสุดได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ได้ยืนยันระยะเวลาการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ มาแล้ว โดยกำหนดไทม์ไลน์ ดังนี้
1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ w ww.ม33เรารักกัน.com และตรวจสอบการได้รับสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค.64
2) ธนาคารทำการตรวจสอบข้อมูลรวมทั้งประมวลผลคัดกรอง วันที่ 8-14 มี.ค.64
3) กดใช้งานและกดยืนยันตัวผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" วันที่ 15-21 มี.ค.64
4) ได้วงเงินผ่าน "เป๋าตัง" 1,000 บาท ในวันที่ 22, 29 มีนาคม และวันที่ 5, 12 เม.ย.64
5) เริ่มใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าภายในโครงการเราชนะ ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-31 พ.ค.64
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกันตน ม.33 เข้าข่ายมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาในครั้งนี้ จำนวน 9.27 ล้านคน ใช้วงเงินทั้งสิ้นประมาณ 37,100 ล้านบาท
ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ตำหนิรัฐบาลคิดไม่รอบคอบโครงการ ‘เราชนะ’ กำหนดสิทธิคนเข้าถึงจากฐานรายได้ปี 62 ซึ่งโควิดยังไม่ระบาด และยังมีช่องโหว่ พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไว้ก่อนหน้านี้กลับได้สิทธิ โดยระบุว่าเรื่องดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าที่ต้องใช้ฐานข้อมูลปีภาษี 2562 เนื่องจากในขณะนี้ ข้อมูลของปีภาษี 2563 ยังอยู่ในขั้นตอนของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงยังไม่มีฐานข้อมูลของปีภาษี 2563 ที่ครบถ้วน
และยังยืนยันแล้วว่าผู้ที่ว่างงานปี 2563 ที่ไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากมีรายได้พึงประเมิน 3 แสนบาทนั้น สามารถลงทะเบียนได้อีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ.64 เพื่ออัพเดตข้อมูล ซึ่งเมื่อมีข้อมูลแล้วยืนยันได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไว้ก่อนหน้านี้ที่ได้สิทธิในโครงการเราชนะ กระทรวงการคลังได้ระบุแล้วว่าหากกดรับสิทธิเราชนะ จะถูกเรียกเงินคืนในภายหลัง ส่วนกลุ่มเปราะบางที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยในวันที่ 15 ก.พ.64
ตอกโฆษกเพื่อไทยคิดช้า
“แสดงให้เห็นว่านายกฯ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนทุกคนไม่เลือกปฏิบัติ เพราะนายกฯ เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนดี ซึ่งแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่ปล่อยผ่าน
ซึ่งโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่ต้องกังวลว่านายกฯ และรัฐบาลจะทอดทิ้งประชาชนในยามที่บ้านเมืองได้รับความเดือดร้อน เพราะนายกฯ ไม่ใช่คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว หรือพวกพ้องของตัวเอง ที่ผ่านมาก็ได้ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอดไม่หยุดพัก
ทั้งนี้ ตนเห็นว่าโฆษกพรรคเพื่อไทยหรือบรรดาคนในพรรคก็ไม่ควรออกมาตำหนินายกฯ หรือรัฐบาล เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะอาจทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย เนื่องจากเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีปากเพื่อวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไปทั่ว แต่ไม่ได้ลงมือทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนเลยแม้แต่เรื่องเดียว
ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เกณฑ์คุณสมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะได้ประกาศมาประมาณครึ่งเดือนแล้ว การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยเพิ่งออกมาวิจารณ์นั้น ก็เป็นประเด็นที่ทางคณะรัฐมนตรีได้คำนึงถึงและเตรียมมาตรการรองรับแล้ว ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าอาการคิดช้าของ น.ส.อรุณีนั้นเป็นเพราะไม่ได้คิดวิเคราะห์เอง แค่ไปจำคำพูดคนอื่นมาแล้วเอามาเกาะกระแสให้มีพื้นที่ข่าวหรือไม่
ในการกำหนดมาตรการเยียวยาที่รอบคอบ ตรงจุด รวดเร็วและทั่วถึง ในเบื้องต้นต้องทราบข้อมูลที่จำเป็นที่แน่นอน ได้แก่ จำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากกลุ่มเป้าหมาย วงเงินที่จะเยียวยา เพื่อพิจารณาให้สอดคล้องกับวงเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น รัฐต้องใช้ฐานข้อมูลของปีภาษี 2562 (เพิ่งครบกำหนดการยื่นเมื่อ 31 ส.ค. 63) เพราะเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนแน่นอนที่สุด ไม่สามารถใช้ฐานภาษีปี 2563 ได้ เพราะจะสิ้นสุดเมื่อ 30 มิ.ย.64
"ส่วนที่ น.ส.อรุณีเสนอให้ใช้ข้อมูลคนตกงานจากกระทรวงแรงงานหรือกลุ่มผู้ประกันตนนั้น ก็เป็นข้อเสนอที่ยิ่งทำให้ซ้ำซ้อน เป็นความคิดที่ไม่รอบคอบ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มนี้ก็เป็นคนละฐานข้อมูล ผู้ที่ตกงานจะได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสังคมอยู่แล้ว และกลุ่มผู้ประกันตน ม.33 ก็จะได้รับการเยียวยาตามโครงการ “เรารักกัน ม.33” แทน ดังนั้นจึงขอยืนยันว่ารัฐบาลจะให้การช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่มกว่า 40 ล้านคน โดยกลุ่มที่ 1 ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 14 ล้านคน, กลุ่มที่ 2 คือผู้ลงทะเบียนคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ที่มีรายได้น้อย ผู้มีอาชีพอิสระ 17 ล้านคน, กลุ่มที่ 3 แรงงาน ม.33 “เรารักกัน” 9 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่ 4 เป็นกลุ่มตกหล่น สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ตั้งแต่ 8 ก.พ.ได้ รัฐบาลก็ได้เตรียมการรองรับเบื้องต้นเอาไว้แล้ว" น.ส.ทิพานันกล่าว
ฝาก"เจ๊หน่อย"อย่าติทุกเรื่อง
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า สำหรับการลงทะเบียนของผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนของกลุ่มที่เข้าเกณฑ์การได้รับสิทธิ์โครงการ “เราชนะ” นั้น หาก น.ส.อรุณีจะใช้เวลาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสักนิดก็จะทราบว่าตั้งแต่ 21 ม.ค. ที่ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการ “เราชนะ” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียน โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ดังนั้นที่ น.ส.อรุณีกล่าวหาว่ารัฐบาลปล่อยให้คนที่เดือดร้อนที่รัฐมองไม่เห็นไม่ได้รับเงินเยียวแม้แต่บาทเดียวเพราะไม่มีสมาร์ทโฟน จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งกรณีของคุณลุงที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจึงปีนเสาไฟเพราะเข้าใจว่าจะไม่ได้รับสิทธิ์นั้น ก็เกิดจากความเข้าใจผิด คิดว่าไม่ได้สิทธิ์ ซึ่งอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแล้วออกมาสื่อสารแบบที่ น.ส.อรุณีกำลังทำอยู่
"จะเห็นว่าประชาชนได้รับความสะดวกในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ครั้งนี้ เพราะรัฐได้นำฐานข้อมูลเดิมที่เคยมีแล้วมาปรับใช้เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด และรัฐยังมีมาตรการคัดกรองไม่ให้เกิดปัญหากรณีข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับสิทธิ์ซ้ำซ้อน โดยใช้การกดยืนยันเข้าร่วมโครงการเราชนะในแอปฯ เป๋าตังด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบได้ และหากตรวจสอบพบในภายหลัง ก็จะมีการเรียกเงินคืนจากข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ" น.ส.ทิพานันกล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่มสร้างไทยระบุว่าจะยื่นฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกระเบียบเรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุหากกระทรวงมหาดไทยไม่ยอมทำว่า อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ใจร่มๆ อย่าโหนกระแสไปทุกเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาอยู่ จะไม่ทำให้ผู้สูงอายุเดือดร้อนเด็ดขาด และล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันแล้วว่าไม่มีใครต้องติดคุก โดยจากการคัดกรองมีผู้สูงอายุที่มีปัญหารับเบี้ยซ้ำซ้อนแค่ 6,000 คนเท่านั้น และมีผู้สูงอายุนำเงินมาคืนแล้ว 130 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะได้ข้อยุติแน่นอน ซึ่งคงต้องเข้า ครม. ไม่ต้องเป็นห่วง และผู้สูงอายุไม่ต้องกังวล เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังแน่นอน
นายธนกรกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์เรียกร้องให้รัฐจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุกคนนั้น รัฐบาลดูแลทุกคนอย่างเสมอภาค ส่วนที่มีเงื่อนไขต้องไม่มีเงินฝากในบัญชีเกิน 5 แสนบาทนั้น จะมีการตรวจสอบเฉพาะบัญชีเงินฝากเท่านั้น หากผู้ประกันตนเคยนำเงินไปลงทุนในกองทุน พันธบัตรรัฐบาล หรือสลากออมสิน จะไม่รวมในส่วนนี้ สำหรับเกณฑ์เงินฝาก 500,000 บาทนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเป็นการคำนึงถึงเงินออมที่สามารถบรรเทาภาระการใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนมีความลำบาก โดยประเมินว่าตัวเลขเงินฝากดังกล่าวอยู่ในระดับที่รองรับการดำรงชีพในกรณีที่หากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังคุณหญิงสุดารัตน์ว่าอย่าติงรัฐบาลทุกเรื่อง เอาเวลาลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ถ้าคุณหญิงสุดารัตน์อยากสร้างไทยจริงๆ ก็ควรเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลทำด้วย ไม่ใช่ออกมาค้านทุกเรื่อง ทุกมาตรการรัฐบาลกลั่นกรองมาดีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ประเทศเดินหน้า อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์คิดใหม่ทำใหม่ เสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ เตือนด้วยใจเป็นธรรม ไม่ใช่หวังผลการเมืองทุกเรื่องโดยไม่สนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |