"หมอวรงค์" เผยล่าชื่อค้านแก้ ม.112 ครบแสนคนแล้ว จ่อยื่นให้สภาวันที่ 10 ก.พ.นี้ "ไพศาล" งง ตำรวจเรียกผู้ต้องหา ม.112 ฝากขัง แต่ถูกขู่พังกันไปข้าง สุดท้ายปล่อยตัวหมด ตั้งคำถามเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี เปิดเผยว่า การลงชื่อคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 ของพี่น้องประชาชนพลังเงียบทะลุ 100,000 คนแล้ว ยังคงเปิดโอกาสให้พลังเงียบร่วมลงชื่อต่อไป จนถึงวันจันทร์ที่ 8 ก.พ.นี้
"ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าเราจะนำรายชื่อเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของตัวแทนประชาชนกลุ่มนี้ ไปมอบที่สภาฯ ในวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ครับ" นพ.วรงค์ระบุ
ด้านนายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่าหลังจากเจ้าหน้าที่เรียกตัวผู้ต้องหามาตรา 112, 116 จำนวน 22 คน เพื่อนำไปฝากขังหรือฟ้องต่อศาล จากนั้นก็มีการข่มขู่ว่าถ้าไม่ได้รับการประกันตัวจะจัดชุมนุมใหญ่เปิดศึกใหญ่ให้พังกันไปข้างหนึ่ง ได้ผล และถือว่าเป็นการได้รับชัยชนะด้วย
"เพราะทั้งหมดถูกปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่มีหลักประกัน โดยไม่มีการฝากขังหรือฟ้องต่อศาล!!! เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมและบ้านเมืองของเรากันแน่" นายไพศาลตั้งคำถาม
ส่วนนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้ากลุ่มการ์ดวีโว่ เผยว่าบรรยากาศการเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันศุกร์เป็นไปโดยสงบ ไม่ใช่เพราะมันมีความจัดเต็มของตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบนับพัน แต่เพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ
"ผมไม่ได้มีแผนเผาสถานีตำรวจ หรือใครหลายๆ คนที่โดนคดีด้วยกันก็คงไม่มีคิดจะมาฆ่าแกงกันแถวนี้ โดยปกติเรามารับทราบข้อกล่าวหากันในทุกๆ สถานีตำรวจล้วนแต่มาด้วยความสงบ สันติ ทุกครั้งไป ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าคุณตำรวจหลอนหรือไปโดนตัวไหนมา"
เขาระบุว่า สาเหตุของคดีหลักๆ พนักงานสอบสวนได้กล่าวหาว่าเมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 เวลาประมาณ 10.00 น. กลุ่มแนวร่วม มธ.ฯ และ wevo ได้นัดหมายให้กำลังใจนายชยพล ดโนทัย (เดฟ) ที่หน้า สภ.คลองหลวง ผู้ชุมนุมบางส่วนยังได้นำเอาป้ายไวนิลมีข้อความ “ตื่นเถิดตำรวจกล้า ปวงประชาจะคุ้มภัย” ซึ่งเป็นภาพและข้อความที่ดูถูกเหยียดหยามการทำงานของเจ้าหน้าที่มากางและตั้งบริเวณหน้า สภ. และยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำผ้าสีแดงมีข้อความ “112” มาที่บริเวณเสาธง แล้วได้ชักธงชาติลงมาจากยอดเสา ก่อนนำธงดังกล่าวผูกแทนและชักขึ้นไปบนยอดเสาธง
พนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าผมและแกนนำทั้งหมดใน 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1.ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ม.215 วรรค 3 2.ร่วมกันกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นเหตุให้โรคแพร่ระบาดออกไป ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ม.34 (6) 3.ร่วมกันจัดกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย ม.9 4.ร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากการติดป้ายข้อความวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เขาระบุว่า นักกิจกรรมและประชาชนทั้งหมด 21 คน ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาในทั้งสองคดี และจะให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายใน 30 วัน โดยพนักงานสอบสวนจะนัดมารายงานตัวใหม่อีกครั้ง ซึ่งตอนแรกนั้นจะนำตัวทั้ง 14 คนที่โดนหนักๆ ไปขออำนาจศาลฝากขัง แต่เจ้าหน้าที่เปลี่ยนใจในภายหลังจึงปล่อยตัวทันที
ยื่นคำร้องขอผัดฟ้อง
ที่ศาลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องครั้งที่ 1 โดยไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหา ในคดีหมายเลขดำ ผ.53/2564 ที่กล่าวหานายณัฐพงศ์ คำจันทร์ ผู้ต้องหาที่ 1, นายอัรฟาน ดอเลาะ ผู้ต้องหาที่ 2, นายกิตติศักดิ์ กองเงินงาม ผู้ต้องหาที่ 3, นางประนอมพูลทวี ผู้ต้องหาที่ 4, นายไพศาล จันปาน ผู้ต้องหาที่ 5 ทั้งหมดเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-11 ก.พ.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก ประกอบกับรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา
เหตุแห่งพฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และทำให้เสียทรัพย์แล้ว ต่อมาวันที่ 15 ม.ค.2564 เวลาประมาณ 10.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยมารวมตัวกันที่ริมถนนหน้า สภ.คลองหลวง มีการขับรถขนเครื่องขยายเสียง พร้อมนำลำโพงเครื่องขยายเสียงมาตั้งบริเวณริมถนนหน้า สภ.คลองหลวงดังกล่าว ซึ่งบริเวณด้านหน้าทางเข้าของสถานีตำรวจมีแผงเหล็กกั้นเป็นแนวยาว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ โดยมีการ์ดของผู้ชุมนุมจำนวนหลายคนร่วมกันใช้กำลังผลักดันแผงเหล็กของตำรวจ เพื่อเปิดทางให้รถตู้สีดำของกลุ่มผู้ชุมนุมขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหน้า สภ.คลองหลวง เหตุเกิดที่ตำบลและอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งห้า ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัด ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคฯ หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่อัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดฯ, กระทำหรือดำเนินการใดซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป, ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 9/2564 เรื่องปิดสถานที่และกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ข้อ 5 (2) ลงวันที่ 4 ม.ค.2564, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 5 ลงวันที่ 25 มี.ค.2563
และฉบับที่ 16 ลงวันที่ 3 ม.ค.2564 ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามชุมนุม ทำกิจกรรม การมั่วสุม (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 8 ม.ค. 2564 คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 1/2564 เรื่องพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามข้อกำหนดที่ออกตามความในข้อ 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 (6) และ 51 คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 9/2564 เรื่องปิดสถานที่และกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงวันที่ 4 ม.ค.2564 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ประกอบ มาตรา 83
ทั้งนี้ การยื่นผัดฟ้องผู้ต้องหาทั้งห้าวันนี้ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องโดยไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาศาล เนื่องจากได้ปล่อยตัวไประหว่างชั้นสอบสวน ซึ่งศาลได้มีคำสั่งอนุญาตตามขอ โดยศาลอนุญาตให้ผัดฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าว ในครั้งแรกนี้เป็นเวลา 6 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6-11 ก.พ.นี้
ขณะที่เมื่อได้ดำเนินกระบวนการยื่นผัดฟ้องโดยไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาแล้ว กรณีจึงไม่ต้องมีกระบวนการยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลระหว่างการขอผัดฟ้องนี้อีก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |