อะไรกันนักกันหนากับมาตรา 112


เพิ่มเพื่อน    

     ทั้งพรรคการเมือง ทั้งกลุ่มการเมือง และประชาชนปลดแอก เขามีอะไรกับมาตรา 112 จึงพยายามที่จะให้มีการยกเลิกมาตราดังกล่าว และมีคำพูดบิดเบือนเกี่ยวกับมาตรานี้หลายประเด็น
·    หาว่ามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ถูกนำมาใช้ปิดปากประชาชนที่คิดต่าง ซึ่งไม่ใช่เลย มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ปกป้องพระมหากษัตริย์ที่เป็นประมุขแห่งรัฐ
·    หาว่ากฎหมายแบบนี้เป็นกฎหมายล้าหลัง ไม่มีที่ไหนเขามีกันแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วกฎหมายที่ปกป้องผู้เป็นประมุขแห่งรัฐยังคงมีอยู่ในหลายประเทศ
·    หาว่ากฎหมายนี้ถูกนำมาใช้เพื่อกลั่นแกล้งคู่ต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งไม่จริงเลย ถ้าหากไม่มีใครทำผิดตามเนื้อความของกฎหมายแล้ว ก็คงไม่มีการนำเอากฎหมายมาตรานี้มาใช้
      ด้วยความพยายามที่จะให้มีคนเห็นด้วยกับการที่จะให้มีการยกเลิกมาตรา 112 พวกเขาจะทำกันทุกวิถีทาง มีการให้สัมภาษณ์ มีการปาฐกถา มีการอภิปราย มีการเขียนบทความ ไปจนถึงมีการนำเอาเรื่องการยกเลิกมาตรา 112 เข้าไปเป็นญัตติที่จะถกกันในสภา ความพยายามที่แสดงออกมาหลากหลายรูปแบบอย่างเอาเป็นเอาตายเช่นนี้ ทำให้คนบางคนออกมาตั้งคำถามว่า “มาตรา 112 นี้หนักส่วนไหนของพ่อแม่ใคร” ถึงจะต้องยกเลิก เพราะถ้าหากไม่จาบจ้วงล่วงละเมิด ไม่ดูหมิ่น ไม่อาฆาตมาดร้ายองค์พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ ก็ไม่มีใครจะต้องถูกลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมายมาตรานี้
     แม้ว่าขณะนี้ยังมีมาตรา 112 อยู่ในรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่ง ออกมาพูดจาจาบจ้วงล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ด้วยข้อความที่เป็นเท็จ ด้วยข้อความที่บิดเบือน และด้วยข้อความที่หยาบคายต่ำตม ทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน จนเจ้าหน้าที่ต้องออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ละคนโดนกันหลายคดี เพราะมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำแล้ว ซ้ำอีก และทุกครั้งที่ถูกหมายเรียกหมายจับก็จะมี ส.ส.ออกหน้าเป็นนายประกัน จนมีคนตั้งคำถามว่าที่ไปช่วยประกันเด็กๆ ที่ทำผิดกฎหมายมาตรา 112 นั้น เป็นเพราะว่าเห็นด้วยกับการกระทำของเด็กๆ มีแนวคิดทางการเมืองเหมือนเด็กๆ ใช่หรือไม่
     มีคนตั้งคำถามว่า “นอกจากประเทศไทย มีประเทศไหนในโลกที่ ส.ส.สามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาได้บ้าง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกันคนที่ทำผิดตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายในหมวดความมั่นคงของประเทศ และไม่ใช่ประกันคนเดียว แต่จะประกันหลายคน และแต่ละคนก็หลายครั้งด้วย น่าจะต้องมีกฎหมายกำหนดว่าความผิดมาตราใดที่ไม่อนุญาตให้ ส.ส.ใช้ตำแหน่งประกัน หรือถ้าหากไม่มีการกำหนดความผิดตามมาตราใดๆ ก็น่าจะมีกฎหมายกำหนดว่า ส.ส.แต่ละคน ถ้าหากจะใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหา จะสามารถทำได้กี่คน และถ้าหากผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวจากการประกันของ ส.ส. ไปทำความผิดแบบเดิมซ้ำอีก ส.ส.ที่เป็นผู้ประกันควรจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ณ เวลานี้ยังไม่มีการกำหนดดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ ส.ส.บางคนใช้ตำแหน่งประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดี 112 ที่เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เรื่องนี้ถ้าหากพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าเรียกร้องให้มีการลดการใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหาก็คงจะดีไม่น้อย และประชาชนก็คงจะพากันแซ่ซ้องสรรเสริญ เวลานี้ดูเหมือน ส.ส.ของไทยจะมีอภิสิทธิ์และเอกสิทธิ์มากมาย และผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์เหล่านี้ก็รวมทั้งกลุ่มนักการเมืองที่เรียกหาความทัดเทียมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้วย นักการเมืองเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ไม่น่าจะเข้ามาวุ่นวายกับกระบวนการยุติธรรมที่เป็นอำนาจตุลาการ
     ที่น่าแปลกใจและเป็นความงงงวยของหลายคนก็คือ นักการเมืองที่อ้างว่าต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งๆ ที่วาจาและพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นเป็นการแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน มีการลงชื่อขอรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มันดูช่างย้อนแย้งสิ้นดี พวกเขาจะมีวาทกรรมด่าว่าผู้คนว่าเป็นอำมาตย์บ้าง เป็นศักดินาบ้าง แล้วที่พวกเขารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้น ไม่ใช่การแสดงตนเป็นอำมาตย์ของตนเองหรอกหรือ เวลาได้ผลประโยชน์ก็จะเอา โดยไม่สนใจความเชื่อตามลัทธิของพวกพ้องที่ทำตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ พฤติกรรมของพวกเขาทั้งทางกายและวาจาเป็นการสร้างความชิงชังและบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ถ้อยคำและข้อความที่พวกเขาพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นการดูหมิ่นอย่างชัดเจน
     คนไทยกว่า 99% ของประเทศต่างก็ยอมรับว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกำลังของการพัฒนาประเทศ และเป็นสิ่งที่มีคุณอนันต์กับความผาสุกของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ของไทยตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยจวบจนปัจจุบันเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม ทรงใช้พระปรีชาสามารถและพระวิริยอุตสาหะที่จะทำให้ประชาชนที่เป็นพสกนิกรของพระองค์มีความผาสุก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์มาโดยตลอด พระมหากษัตริย์ของไทยไม่ใช่เผด็จการ ไม่ได้ทรงใช้อำนาจเพื่อความผาสุกส่วนพระองค์ ในทางตรงกันข้าม ทรงใช้การปกครองแบบพ่อปกครองลูกมาโดยตลอด และหลายพระองค์ทรงวางรากฐานระบอบประชาธิปไตยมาก่อนที่จะมีการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ด้วยซ้ำไป แต่ละพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในการเปลี่ยนแปลงของโลก และมีพระจริยวัตรที่เหมาะสมกับยุคสมัยเสมอมา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปฏิรูปตามที่กลุ่มประชาชนปลดแอกเสนอ (ทั้งๆ ที่เนื้อหาที่เสนอนั้นไม่ใช่การปฏิรูปเลย แต่เป็นการลิดรอนพระราชอำนาจเสียมากกว่า)
    ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองจะต้องปฏิรูป เพราะประชาชนจำนวนมากเบื่อหน่ายพฤติกรรมของนักการเมือง (บางคน) และหลายคนก็มองว่าปัญหาของประเทศไทยในเวลานี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากนักการเมืองที่ไม่รู้จักทำหน้าที่ของตน แต่เข้ามาแสวงประโยชน์ บางคนเข้ามาสร้างความร่ำรวย บางคนเข้ามาแสวงอำนาจ และล่าสุดนี้ก็มีคนที่เข้ามาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีระบอบการปกครองตามที่ตนเองต้องการ โดยไม่ฟังเสียงของคนส่วนใหญ่ในประเทศ คนพวกนี้ต้องการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงมีความพยายามที่จะยกเลิกมาตรา 112 ถ้าหากมีการยกเลิกจริง คนพวกนี้คงจะมีการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศเป็นแน่แท้
     ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้ยาก ถ้าหากเรายังมีนักการเมืองที่ไม่เข้าใจบริบทของประเทศไทย ปฏิเสธรากเหง้าของความเป็นไทย และทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปจนถึงมีความมุ่งมั่นที่จะล้มล้างหรือลดทอนพระราชอำนาจ ดูจากพฤติกรรมของนักการเมืองกลุ่มนี้แล้ว เรามั่นใจว่าเรายังต้องมีมาตรา 112 ไว้ปกป้องคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นความมั่นคงของประเทศสืบไป การคงรักษามาตรา 112 ไว้จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองบางกลุ่มบางพวกมาทำลายความมั่นคงของสถาบันหลักของประเทศ เราคนไทยทุกคนต้องไม่ลืมเนื้อร้องที่อยู่ในเพลงสรรเสริญพระบารมีที่บอกกับพวกเราว่า “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” นะคะ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"