Class Café ร้านกาแฟไทยสไตล์ดิจิทัล


เพิ่มเพื่อน    

 

     Class Café (คลาส คาเฟ่) ร้านกาแฟสัญชาติไทยที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน วางจุดยืนให้เป็นไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ เน้นสร้างบรรยากาศในรูปแบบของชีวิตสไตล์ดิจิทัล ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ Industrial Loft จึงไม่น่าแปลกใจว่า คลาส คาเฟ่ จะกลายมาเป็นร้านกาแฟขวัญใจวัยรุ่นและวัยทำงานที่อยากให้มาเปิดสาขาใกล้บ้านมากที่สุดร้านหนึ่งในปัจจุบัน

(มารุต ชุ่มขุนทด)

     จุดเริ่มต้นของคลาส คาเฟ่ ก่อตั้งในปี พ.ศ.2556 ในนามบริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท โดยมี มารุต ชุ่มขุนทด หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท คลาส คอฟฟี่ จำกัด เป็นผู้บริหาร โดยสาขาแรกเปิดที่จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Open Coffee Platform หรือร้านกาแฟระบบเปิดอัตโนมัติที่ไม่ต้องมีพนักงานคอยให้บริการ ที่เน้นธุรกิจกาแฟระดับพรีเมียม และธุรกิจ Co-working Space หรือพื้นที่สำหรับการทำงานที่เปิดตลอด 24 ชม. ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจนขยายสาขาเป็น 21 สาขาในปัจจุบัน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ นครปฐม ปทุมธานี และอยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ม.เทคโนโลยีสุรนารี, ม.ขอนแก่น, ม.ศิลปากร, ม.มหิดล

 

     นายมารุต เล่าว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเปลี่ยนแนวคิดจากแต่ก่อนที่คิดว่าจะต้องมีหลายสาขาถึงจะดี แต่พอเจอวิกฤติโควิด ตอนนี้เราเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดใหม่ คือ มีสาขาน้อย แต่เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เยอะขึ้น แบบนี้ถึงจะดีกว่า จึงเป็นที่มาของ Class Go Platform ที่จะนำธุรกิจของเราเข้าสู่ช่องทางดิจิทัล

     ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการดูแลลูกค้าอย่างเข้าใจ ใส่ใจ และรู้ใจ พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่เกิดจากการใส่ใจลูกค้า โดยเรียนรู้เพื่อเข้าใจและรู้ใจ เพื่อตามใจลูกค้าในทุกความต้องการ ผสานเทคโนโลยีอย่าง AI และ Data analysis เข้ามาช่วยเรียนรู้และวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า และก้าวทันไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาของคนรุ่นใหม่ โดยจับมือกับผู้นำด้านเทคโนโลยีในธุรกิจค้าปลีก เช่น Microsoft, True และ SCB

     นายมารุต ได้เล่าต่อว่า คลาส คาเฟ่ ยังได้พัฒนา AI Class Go หรือตู้จำหน่ายสินค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์อัตโนมัติเพื่อติดตั้งตามจุดต่างๆ อาทิ ศูนย์นวัตกรรมสยามสแควร์วัน และขยายไปที่มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และตัวแทนจําหน่ายสินค้าของ CLASS CAFÉ ตั้งเป้าขยายการติดตั้งตู้ให้ครบ 100 ตู้ภายในปี 2564 โดยในปีที่ผ่านมาเรามีรายได้จากช่องทางดิจิทัล 50% และหน้าร้าน 50% จึงมั่นใจว่าการขายสินค้าผ่านตู้ AI CLASS GO จะทําให้ปีนี้ยอดขายเรายังโตได้อีก เพราะตลาดกาแฟและเครื่องดื่มยังใหญ่มาก และทางเราก็มีความพร้อม เราพยายามมองหา Trend Point เพื่อเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างอยู่ตลอดเวลา

     ที่สำคัญ กระบวนการทํางานสําคัญอย่าง CLASS GO PLATFORM (รูปแบบธุรกิจเครื่องดื่มด้วยปัญญาประดิษฐ์) ก็ทําให้เราปรับตัววางแผนธุรกิจได้อย่างตรงใจลูกค้าและเรายังได้รวมพลังความร่วมมือร่วมใจจากพนักงานคนรุ่นใหม่ที่พร้อมใจกันผลักดันองค์กรให้ก้าวผ่านวิกฤติต่างๆ ไปด้วยกัน ความสามารถในการเก็บสินค้าที่มีความหลากหลายมากกว่าตู้จำหน่ายสินค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวด ขนมเค้ก อาหารแช่เย็น หรือสินค้าอื่นๆ ตามความต้องการ

โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อและจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน Truemoney Wallet (กระเป๋าเงินดิจิทัล) โดยทำการสแกนผ่านแอปพลิเคชัน เปิดตู้หยิบสินค้าที่ต้องการออกมาได้ทันที เครื่องจะสามารถตรวจจับได้ว่าลูกค้าทำการหยิบสินค้าอะไรออกไปบ้าง ผ่านระบบเซ็นเซอร์ภายในตัวเครื่อง และทำการหักเงินอัตโนมัติ สร้างความสะดวกสบาย ลดการสัมผัสและความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดให้กับลูกค้าเมื่อต้องสั่งสินค้ากับพนักงาน

     นอกจากนี้ ผู้บริหารร้าน Class Café ยังได้เผยถึงแนวทางในการบริหารธุรกิจในช่วงโควิดของ Class Café อีกว่า “สำหรับวิกฤติระลอกใหม่นี้ ที่เราสามารถรับมือได้ดีกว่าครั้งที่แล้วคือ เรื่องการปรับตัวและการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว หลักคิดในการปรับตัวครั้งนี้ คือเราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า อย่ายื้อ เมื่อเห็นทิศทางแล้วว่าเราจะโดนแน่ๆ ในสาขานี้เราตัดสินใจปิดทันที ซึ่งการปิดจะช่วยทำให้เราลดต้นทุนได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีเงินสดหมุนเวียนมากขึ้น สามารถบริหารจัดการ เปลี่ยนแปลงอะไรได้ง่ายขึ้น ตามหลักที่เรียกว่า Cash Is Kings หรือการเปลี่ยนสินค้าในสต๊อกที่มีเป็นเงินสดให้มากที่สุด และเริ่มการเดลิเวอรี ออกไปหาลูกค้ามากขึ้น เปลี่ยนสินค้าที่มีให้เป็นสินค้าที่มีแพ็กเกจ ให้ลูกค้าเลือกซื้อกลับบ้าน หรือส่งถึงบ้านให้เร็วที่สุด อย่าไปยื้อกับปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องรีบปิด และเปลี่ยนแปลงในทันที ไม่อย่างนั้นเราจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาในขณะที่ไม่มียอดขายเข้ามาเลย

     ที่ผ่านมา เราเปลี่ยนสินค้าของเราจากแก้วไปสู่ขวด เปลี่ยนกาแฟเป็นรูปแบบเม็ด และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ที่ผ่านมาเราออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัวและมียอดขายที่ดี อย่างสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในปี 2563 ก็คือกลุ่มสินค้ากาแฟบรรจุขวด ทำยอดขายได้สูงกว่าสินค้าอื่นๆ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ยอดขายของ Class Café ทั้งหมดในปี 2563 โตขึ้นกว่าปี 2562 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

     แต่สิ่งที่สำคัญในการปรับตัวคือ เราจะต้องใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจ มองหาช่องทางการขายออนไลน์ หาตัวแทนจำหน่ายของเราในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้นไหม ซึ่งเป้าหมายของเราคือพยายามทำรายได้จากช่องทางดิจิทัลให้มากที่สุด โดยแพลตฟอร์ม Class Go เป็นหนึ่งในช่องทางการพัฒนาที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้สำเร็จอีกด้วย”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"