ดีเหมือนกันนะ...
วันก่อนแอบได้ยินคนซื้อของในตลาดนัดถามแม่ค้าว่า "รับคนละครึ่งมั้ยครับ"?
เดี๋ยวพอมีโครงการ "เรารักกัน" ออกมา ไม่จืดแน่นอน
"รับเรารักกันมั้ย"
"รับค่ะ"
ทีนี้ล่ะ...รักกันทั้งประเทศ
เห็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ บอกว่า
"...ต่อไปในอนาคตตราบเท่าที่พลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ฐานะทางการคลังของรัฐบาลมีความเปราะบางมากที่สุดจนอาจนำไปสู่การ 'ล้มละลาย' ทางการคลัง..."
ถ้าหายนะแบบนั้นจริงต้องไล่ "ลุงตู่" ให้พ้นหน้าไปตั้งแต่วันนี้เลยครับ
เอาไว้วินาทีเดียวก็ไม่ได้ประเทศพังแน่!
แต่...ประเด็นคือวันนี้ไม่มีใครงอมืองอตีนรอความตายครับ
ในสถานการณ์โควิด-๑๙ ระบาดทั่วโลกแบบนี้ รัฐบาลทุกประเทศร้อนรนทั้งนั้น
ก็ขึ้นกับศักยภาพประเทศนั้นๆ ว่าทำได้ดีแค่ไหน
ในแง่การป้องกันโควิด-๑๙ รัฐบาลไทยได้รับการยอมรับจากองค์การระหว่างประเทศ หลายองค์การ
โดยเฉพาะองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังยกนิ้วโป้งให้
ในแง่เศรษฐกิจ...นี่แหละครับที่ต้องคุยกัน
ก็ด่ากันเยอะ ธุรกิจเจ๊ง คนจนจนลง ประชาชนกำลังจะอดตาย เพราะรัฐบาลไร้ฝีมือ แก้ปัญหาปากท้องไม่ได้เลย
โดยเฉพาะนักการเมืองฝ่ายค้าน ถล่มกันยับเยิน
โครงการตระกูลหวานแหวว เราชนะ เรารักกัน คนละครึ่ง ถูกด่า ๓ เวลาหลังอาหาร ว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว สองมาตรฐาน ไม่เท่าเทียม ประเทศล่มจม
ครับ...นักการเมืองผีเจาะปาก แค่เดินผ่านก็ชี้หน้าด่าแล้ว
โครงการพวกนี้มีคนค้านแน่นอน แต่คนเห็นด้วยก็เพียบ ที่ไม่ชอบรัฐบาลก็แย่งใช้สิทธิ์กันหูดับตับไหม้
โจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ ทำอย่างไรให้เงินลงไปถึงชาวบ้าน และมีการจับจ่ายหมุนเวียนให้ได้มากที่สุด
ถ้าทำได้เศรษฐกิจในภาพรวมขยับขึ้นแน่นอน
เราชนะ เรารักกัน คนละครึ่ง คือพระเอกที่มาถูกที่ถูกเวลา
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เขาชูตัวเลขให้เห็น
เม็ดเงินจากโครงการ "เราชนะ" ที่ ๒.๑ แสนล้านบาท คาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ๑.๒%
โครงการ "คนละครึ่ง" เม็ดเงิน ๕.๓ หมื่นล้านบาท คาดกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ๐.๓%
โครงการ "เรารักกัน" ๔ หมื่นล้านบาท คาดกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ๐.๒%
รวมแล้วมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้นอีก ๑.๗%
ไม่น้อยนะ!
ไม่มีหรอกครับล้มละลายทางการคลัง เพราะเงินมันไม่ได้หายต๋อมเหมือนนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลไทยรักไทย เพื่อไทย ทำก่อนหน้านี้
ปัญหาใหญ่ของประเทศวันนี้ นอกจากโควิด-๑๙ และผลกระทบด้านอื่นๆ แล้ว นักการเมืองก็ยังเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน
พูดเอาแต่ได้ ให้ข้อมูลเท็จ จนเป็นนิสัยถาวร
จำได้มั้ยครับก่อนการเลือกตั้ง ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒
"ธนาธร" ความชั่วไม่โผล่ ความดีไม่ปรากฏ อนาคตใหม่ได้อานิสงส์รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ โกยเก้าอี้ ส.ส.เข้าสภาเป็นกอบเป็นกำ
๒ ปีผ่านไป ความดียังไม่ปรากฏ อีกความโผล่มาเยอะ!
"ธนาธร" กับเรื่องป่า ที่ดินทำกิน และคนจน ไม่ใช่เรื่องใหม่
ที่ "อดิศร นุชดำรงค์" อธิบดีกรมป่าไม้ แจ้งความ "ธนาธร" แม่ธนาธร และพี่สาวธนาธร ข้อหารุกป่า พร้อมหลักฐานเด็ด บันทึกถ้อยคำรับทราบที่ดินดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ นั่นเป็นเรื่องอัปยศ
แต่ก็ยังมีเรื่องอัปยศกว่า เมื่อคนที่ลงบันทึกถ้อยคำรับทราบที่ดินอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กลับไปหาเสียงกับชาวบ้านว่า จะต่อสู้เรื่องที่ดินทำกิน ที่ดินที่ทับซ้อนกับป่า กระทั่งออกเป็นนโยบายพรรคและจะทำให้สำเร็จ
คนที่พูดเรื่องนี้คือคนที่ชื่อ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ครับ
ย้อนไปปี ๒๕๖๒ เดือนสิงหาคม "ธนาธร" และคณะพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง
"ธนาธร" พูดกับชาวบ้านที่นั่นว่า
"....แกนนำพรรคอนาคตใหม่ได้ลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เพื่อเก็บข้อมูลรวบรวมปัญหาที่ดินของเกษตรกร ซึ่งเราพบว่าปัญหาในลักษณะป่าทับที่ทำกินนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชีวิตประชาชนเป็นอย่างมาก....
....ความเป็นจริงรัฐมีกลไกมากมายที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างเป็นระบบ เช่นพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แปรสภาพเป็นเมืองไปหมดแล้ว แต่แผนที่ยังเขียนว่าเป็นป่าอยู่ เราควรยกเลิกพื้นที่ป่า ขีดแผนที่ใหม่เลย พื้นที่ไหนชาวบ้านอยู่พื้นที่ต้นน้ำเราอาจจะทำข้อตกลงกับชุมชนให้มีที่ทำกินและต้องไม่บุกรุกเพิ่ม หรือมีพื้นที่ใกล้เคียงที่ย้ายให้ไปทำกินบริเวณนั้นได้ก็อาจจะต้องตกลงกัน กลไกการแก้ปัญหามันมีมากมาย ในแต่ละพื้นที่แต่ละภาคก็มีวิธีการที่เหมาะสมแตกต่างกันไป และประชาชนในพื้นที่นั้นเห็นว่าเหมาะสม....
....เราจะเก็บข้อมูลมาใช้ผลักดันผ่านกลไกที่เราผลักดันได้ในฐานะฝ่ายค้านต่อไป เราช่วยแก้ปัญหาได้ในบางเรื่อง แต่หลายๆ เรื่องเราทำไม่ได้ ด้วยอำนาจที่มีอยู่วันนี้ น่าเศร้าใจที่เราไม่สามารถแก้ปัญหาให้ทุกคนได้ ทุกครั้งที่ผมลงมาพบพี่น้องแล้วได้รับฟังปัญหาที่เราไม่มีอำนาจแก้ไขให้ได้ ผมทั้งโกรธ ทั้งโมโห น้อยเนื้อต่ำใจ ว่าทำไมเราไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ทุกท่านได้....”
๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ที่วัดป่าสระแก้ว ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พรรคอนาคตใหม่ ยโสธร จัดเวทีรับฟัง "ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม"
"ธนาธร" พูดว่า
"ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่ จะไม่สามารถแก้ไขได้เลยถ้าเรายังอยู่ในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กับนายกรัฐมนตรีที่ไม่ศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ นโยบายทวงคืนผืนป่า การใช้มาตรการรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดำเนินคดี ขับไล่ รื้อถอน ตัดโค่นพืชผลเกษตรของพี่น้องนั้น เกิดขึ้นในยุคสมัยที่เราไม่มีตัวแทนประชาชน เพราะถ้ามี ประชาชนจะออกมาบอก ส.ส.เพื่อให้นำไปตั้งกระทู้ถาม หรือยื่นญัตติได้ เพราะ ส.ส.มาจากประชาชน พวกเขาย่อมต้องฟังเสียงประชาชน ด้วยการหาทางแก้ไขให้ปัญหาทุเลาเบาบางลง"
๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒ ที่ อ.พบพระ จ.ตาก "ธนาธร" ไปร่วมงานประเพณีวันปีใหม่ม้ง
"ธนาธร" บอกว่า
"ในปีหน้า พรรคอนาคตใหม่จะขับเคลื่อนเรื่องที่ดินอย่างจริงจัง ทรัพยากรที่เป็นสิทธิชุมชน ดิน น้ำ ป่า นโยบายต่างๆ เรื่องนี้จะต้องไม่ถูกกำหนดมาจากส่วนกลาง โดยที่ไม่เข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาเยอะมาก โดยเฉพาะนโยบายทวงคืนผืนป่า ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เราจะผลักดันให้เกิดการแก้ไข
กรณีที่ประชาชนโดนรัฐฟ้อง โดนรัฐยึดที่ดินทำกินไป เราอยากเห็นการแก้ไขให้ทุกคนมีที่ดินทำกิน มีสิทธิในที่ดินทำกินนั้น เพื่อให้เป็นพื้นฐานของความมั่นคงในชีวิต เป็นจุดเริ่มต้นสร้างครอบครัวที่ดี สร้างชุมชนที่ดี การจัดการปัญหาที่ดินต้องมองเห็นคนตัวเล็กตัวน้อย ต้องมองเห็นหัวประชาชน ไม่ใช่ที่ดินจัดสรรให้นายทุน หรือผู้มีอิทธิพล แต่ที่ดินต้องเอามารับใช้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่สูงมากต้องพึ่งพิงกับการเกษตรกรรม..."
คำพูดของ "ธนาธร" ทั้งหมดนี้เกิดหลัง มีข่าว "เจ๊สมพร" ครอบครองที่ดินของรัฐประมาณ ๓๐๐ ไร่ ที่จังหวัดราชบุรี
และอธิบดีกรมป่าไม้เพิ่งแจ้งความเอาผิด ๓ แม่ลูกคดีรุกป่า แถมมีหลักฐานที่ยากจะดิ้นหลุด
นี่คือธาตุแท้ "ธนาธร".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |