จบแล้ว! "จุรินทร์" ปราบลูกพรรคเลิกต่อปากต่อคำกับ ส.ส.พลังประชารัฐ ขณะที่รองโฆษก ปชป.ยันเคารพการตัดสินใจของ พปชร. เพราะทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะส่งผู้สมัครได้ตามระบอบประชาธิปไตย อยู่ที่ชาวนครฯ เขต 3 จะเลือกใคร

    เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับคณะ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค เพื่อพิจารณารับรองการส่งนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช และเตรียมการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งดังกล่าว
    นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม กรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ต่อปากต่อคำกันไปมาในการส่งผู้สมัครครั้งนี้ ที่ทำให้ทั้ง 2 พรรคเกิดความขัดแย้งว่าได้ขอให้ ส.ส.ของเราเบาๆ ลง แล้วให้พูดเท่าที่จำเป็น ลดการกระทบกระทั่งกัน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับสัมพันธภาพระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า เราได้พูดคุยกันแล้วว่าจะใช้แนวทางการหาเสียงในการเลือกตั้งที่เน้นการพูดถึงเรื่องของเราเอง โดยไม่ไปพาดพิงพรรคการเมืองใด ไม่ว่าคู่แข่งจะมาจากพรรคการเมืองใด
    ถามอีกว่าตอนนี้ยังไม่เริ่มการหาเสียง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พูดพาดพิงคนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้ง นายจุรินทร์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาชี้แจงเรื่องนั้นแล้ว
    ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เคารพการตัดสินใจของพรรคพลังประชารัฐ เพราะทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะส่งผู้สมัครได้ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าจะให้ความไว้วางใจใครเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นจากนี้ไปไม่ต้องการเห็นการตอบโต้ไปมาระหว่างสองพรรค เพราะประชาชนก็อยากจะเห็นการทำงานเพื่อประเทศชาติ
    “จากนี้ไปจะได้เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน ส่วนการเลือกตั้งก็เป็นการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 3 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะแข่งขัน และมั่นใจว่า ส.ส.นครศรีธรรมราชทั้ง 5 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาทำงานอย่างแข็งขันให้กับประชาชน และคิดว่าประชาชนสัมผัสได้ ถือเป็นสิ่งที่จะยืนยันให้กับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชที่จะได้ไว้วางใจให้ตัวแทนของพรรคได้ทำหน้าที่ต่อ”
    ส่วนกรณีนี้จะเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ไม่เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะถือว่าจบไปแล้ว จากนี้ไปก็จะเดินหน้าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้ง ผลจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชจะตัดสินใจจากผลงานของพรรคและตัวบุคคลที่ลงสมัคร
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นเลือกตั้งซ่อม โดยเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันทีด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนขึ้นรถยนต์และเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)? พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า บุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 มี.ค. ทาง กกต.อำนวยความสะดวก เปิดให้ก่อนยื่นใบสมัคร สามารถยื่นตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดได้ เพราะหากยื่นสมัครแล้วตรวจสอบพบภายหลังว่าคุณสมบัติไม่ครบ หรือมีลักษณะต้องห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง  ความผิดจะสำเร็จขึ้นทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ลงสมัคร
    ส่วนการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ นั้น ยืนยันว่ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง เมื่อเสร็จการเลือกตั้งเทศบาล ทางกระทรวงมหาดไทยก็คงนับเวลาตามที่ตกลงกันไว้ประมาณ 3 เดือน ช่วง มิ.ย.ก็อาจจะเป็นการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และช่วงประมาณเดือนกันยายน ไม่เกิน ต.ค. ก็จะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวต่อว่า ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ ทราบมาว่าจะมีเรื่องประชามติเข้ามาอีก เท่าที่ฟังดูก็อาจจะมีประชามติถึง 3 รอบด้วยกัน ซึ่งก็ต้องเตรียมการไว้ อีกทั้งยังได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากทราบว่าจะมีการทำประชามตินอกราชอาณาจักรด้วย ดังนั้นเราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่าง มีอะไรที่คาดการณ์ว่าเกิดเราก็ต้องเตรียมความพร้อมรองรับไว้.