5 ก.พ.2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่ธนาคารกรุงไทยได้คัดกรองคุณสมบัติสำหรับประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 27 ม.ค. 2564 ทั้งหมด 16.8 ล้านคน โดยพบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมมาตรการเราชนะ จำนวน 8.39 ล้านคน โดยกระทรวงการคลังยืนยันว่าการตรวจสอบและคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมมาตรการเราชนะนั้น ถูกต้อง ชัดเจน และไม่พบข้อผิดพลาดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์สามารถยื่นทบทวนสิทธิ์ ได้ที่หน้าเว็บไซด์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. - 8 มี.ค. 2564 และสามารถตรวจสอบผลการยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์ เป็นข้าราชการ ลูกจ้างชั่วคราว และรัฐวิสาหกิจ จะต้องกดยกเลิกรับสิทธิ์ “เราชนะ” ซึ่งจะมีปุ่มขึ้นให้

นางสาวกุลยา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการเราชนะ ว่า ต้องไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ในปี 2562 ว่า เนื่องจากรายได้ในปีดังกล่าวถือเป็นข้อมูลที่มีล่าสุด ที่ต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีในรอบปีภาษี 2563 ขณะที่รายได้ในปี 2563 ซึ่งถือเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 นั้น ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค. 2564 ดังนั้นหากต้องรอใช้ฐานรายได้ในปี 2563 ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีในต้นปีนี้ การออกมาตรการและการจ่ายเงินเยียวยาก็จะมีความล่าช้าออกไป

สำหรับกลุ่มที่ชี้แจงว่า ในปี 2563 มีผลกระทบในเรื่องรายได้ แต่ถูกตัดสิทธิ์ สามารถมายื่นทบทวนสิทธิ์ได้ที่หน้าเว็บไซด์ www.เราชนะ.com โดยกระทรวงการคลังจะพยายามจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบคลุมและถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยอาจจะต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าจะต้องมีเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนี้อย่างไร

นางสาวกุลยา กล่าวอีกว่า ในส่วนของการโอนวงเงินสิทธิ์ตามมาตรการเราชนะก้อนแรกให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้ง 13.8 ล้านคนในวันที่ 5 ก.พ.นี้ โดยสัปดาห์แรกจะใช้งบประมาณรวมกว่า 9,400 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่ม 700 บาท และผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีจะได้รับเพิ่ม 675 บาท

“ยังไม่สามารถบอกได้ว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากมาตรการเราชนะ ที่สมทบเงินให้วันแรก 675 และ 700 บาท มียอดใช้จ่ายเท่าใด เนื่องจากธนาคารกรุงไทย แจ้ง สศค.ว่า ขอปิดปรับปรุงระบบการใช้สิทธิชั่วคราว และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.พ.” นางสาวกุลยา กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ได้แจ้งปิดระบบการใช้สิทธิโครงการเราชนะ สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน และเครื่อง EDC เป็นการชั่วคราว เพื่อปรับปรุงระบบการใช้สิทธิให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากระบบกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ธนาคารจะแจ้งให้ทราบความคืบหน้าอีกครั้ง

สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนสิทธิ์เราชนะได้ เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน คลังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ โดยกำหนดวันรับลงทะเบียนให้กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มดูแลเป็นพิเศษ ในวันที่ 15 ก.พ.2564 ที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)