กรุงเทพฯ ตอนนี้เหมือนพื้นที่เสี่ยงเข้าไปทุกที ไม่ใช่แค่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เท่านั้น แต่ปัญหาเดิมที่เกิดขึ้นมาตลอดก็คือความหนาแน่นของมลพิษที่ตอนนี้อัพเกรดตัวเองให้เล็กลงจนสามารถเกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจหรือปอดได้อย่างรุนแรงแล้ว ซึ่งนั่นก็คือฝุ่น PM 2.5 ที่มาปีหลังๆ นี่มีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น จับตัวจนคล้ายหมอกในยามเช้า ทำเอาหลายคนเริ่มสับสนแล้วว่าตกลงนั่นหมอกหรือควัน...
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ทั้งหมอก ทั้งควัน เพราะมันคือ “ฝุ่น” ที่เรียกได้เลยว่าเป็นฝุ่นพิษ และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มเห็นความกระตือรือร้นของภาครัฐที่จะเดินหน้ากำจัดหรือลดประมาณเจ้าฝุ่นพิษนี้ให้น้อยลงอยู่หลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม หรือการกำหนดข้อบังคับต่างๆ ออกมาเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ 100% เพราะอย่างในช่วงปลายปีถึงต้นปีนี้ก็ยังเห็นความหนาแน่นของ PM 2.5 อยู่เกือบทุกพื้นที่กรุงเทพฯ
ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและเริ่มเป็นเทรนของปีก่อนๆ คือ การปลูกต้นไม้ในบ้านที่หลายคนแห่ไปซื้อ และรีวิวกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ราคาต้นไม่ก้าวกระโดดไปแตะหลักหมื่นบาทก็มี ซึ่งสิ่งนี้เองสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยเริ่มสนใจเรื่องสุขภาพและธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นเทรนของโลกเลยก็ว่าได้ ที่มนุษย์เราต้องใส่ใจและเริ่มการอนุรักษ์สิ่งแวลดล้อมให้คงอยู่ต่อไป จนเกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ ทั้งการลดใช้พลังงาน ลดคน ลดวัตถุดิบ หรือไม่ทำให้เกิดผลเสียกับธรรมชาติ
ในขณะที่ในประเทศ กิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลถึงการดูแลและอนุรักษ์ธรรมชาติก็เริ่มมีคนสนใจและมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่า อนุรักษ์น้ำ รักษาหน้าดิน สืบพันธุ์สัตว์ หรือเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น โครงการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวและบริหารจัดการเรียนรู้ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่เป็นโครงการมุ่งเน้นจะพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าในรูปแบบสานพลังความร่วมมือ โดยมีผู้ร่วมมือระหว่าง มูลนิธิชัยพัฒนา กับกรมป่าไม้ และกรมป่าไม้ กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)
ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างโครงการ OUR Khung BangKachao กับการพัฒนาพื้นที่สีเขียวราชพัสดุภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ 1,276 ไร่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยโครงการ OUR Khung BangKachao นั่นภายใต้การกำกับดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าในรูปแบบสานพลังความร่วมมือ จากองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ตั้งแต่ปี 2561 มีเป้าหมายร่วม ในการยกระดับและพัฒนาพื้นที่ “คุ้งบางกะเจ้า” ให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในทุกมิติ มีพื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของคนในท้องถิ่นอย่างสมดุล
โดย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ออกมาเปิดเผยว่า ปตท.เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ทั้งการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด การพัฒนานวัตกรรมเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม หรือนวัตกรรม “NONG PIM” ระบบตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 และวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ สำหรับการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเมืองนับเป็นอีกงานที่ ปตท.ให้ความสำคัญ จึงได้นำความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่มาร่วมสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในโครงการ OUR Khung BangKachao
ที่ผ่านมาหลายคนคงเคยได้ยินว่าพื้นที่คุ้งบางกระเจ้านั้นเป็นเสมือนปอดของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ที่สามารถฟอกอากาศเสียที่จะพัดผ่านเข้ามาในเมืองหลวงได้อย่างดี จึงทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ป่าดังกล่าวให้มีศักยภาพมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงป่ารกร้าง เนื่องจากในกรุงเทพฯ เองก็ไม่มีพื้นที่ที่กว้างใหญ่พอจะพัฒนาเป็นพื้นที่ป่าได้อีก และการเติบโตของเมืองก็มีขึ้นเรื่อยๆ จะอาศัยการปลูกต้นไม้ตามถนนหนทางก็ไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการดำเนินโครงการแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี และหวังว่าจะได้รับความสนใจจากคนไทยที่เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอีกด้วย.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |