แฟ้มภาพ

4 ก.พ.64 - นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ประเทศไทยพร้อมฉีดวัคซีนให้พี่น้องประชาชนครั้งแรกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 แต่ล่าสุด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าวัคซีนจะนำเข้ามาทันฉัดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือไม่ นายอนุทิน กลับตอบว่า ไม่เคยบอกว่าจะฉีดได้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งตนมองว่าการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะข้อมูลที่คลาดเคลื่อนย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และถึงแม้นายอนุทินจะอ้างว่าที่ผ่านมาไม่ได้พูด แต่ในฐานะเจ้ากระทรวงควรมีข้อมูลที่เที่ยงตรงแม่นยำและควรน่าจะมีไทม์ไลน์แผนวัคซีนอยู่ในมือแล้ว จึงไม่ควรให้ข่าวแบบคนกลับกลอกสับสนกลับไปกลับมาเช่นนี้

“ความน่าเชื่อถือของกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรื่องสำคัญมากในสถานการณ์แบบนี้ แต่กลับแทบไม่เหลืออยู่เลยในสายตาประชาชนภายใต้การบริหารของนายอนุทิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่รู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะทักษะการสื่อสารที่อ่อนด้อยของรัฐมนตรีเองหรือเพราะไม่มีความรู้ในการบริหารระบบสาธารณสุขกันแน่ กรณีวัคซีนชิโนแวคก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตา เพราะวันหนึ่งบอกว่าจะไม่ยอมให้คนไทยเป็นหนูลองยา อีกวันหนึ่งก็บอกต้องหาวัคซีนอื่นมาเพิ่ม ประเด็นคือ กรณีวัคซีนชิโนแวค จะเอาอย่างไรก็ไม่ชัด ซึ่งวัคซีนตัวนี้ผลการทดสอบยังค่อนข้างไม่แน่นอนมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปในหลายประเทศ อย่างในบราซิลมีประสิทธิภาพแค่มากกว่า 50 % เล็กน้อย เรียกว่าผลสำเร็จพอๆกับเสี่ยงโชค เมื่อผลแบบนี้จะยังเก็บอยู่ในแผนไหม ถ้ายังอยู่แล้วคนไทยจะเป็นหนึ่งในหนูทดลองของรัฐมนตรีหนูหรือไม่ เรื่องแบบนี้คนไทยไม่ได้รับความชัดเจนเลย”

น.ส.อมรัตน์ กล่าวด้วยว่า แผนวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขควรจะต้องมีไทม์ไลน์ที่ตอบประชาชนอย่างแม่นยำได้ เพราะเวลานี้เรื่องสาธารณสุขก็คือเรื่องความมั่นคงของประชาชน ส่งผลกระทบมากต่อทั้งเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตปกติ รัฐมนตรีสาธารณสุขก็เปรียบเสมือนแม่ทัพใหญ่ของงานนี้ ถ้ายังวางแผนสับสน ลวงไปลวงมากระทั่งลวงจนตัวเองก็งงแล้วปล่อยให้เป็นผู้นำทัพรบต่อไปได้อย่างไร แม่ทัพแบบนี้นอกจากไม่ชนะศึกแล้ว ยังอาจทำแพ้สงครามที่มีชีวิตประชาชนเป็นเดิมพันด้วย