03 ก.พ.2564 - นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 795 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 783 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 24 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 759 ราย ในจำนวนนี้เป็นการค้นหาเชิงจาก จ.สมุทรสาครทั้งหมด โดยเป็นแรงงานเมียนมา 662 ราย ลาว 2 ราย กัมพูชา 3 ราย และไทย 92 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 21,249 ราย หายป่วยสะสม 14,001 ราย อยู่ระหว่างรักษา 7,169 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 79 ราย อย่างไรก็ตาม หากดูเฉพาะการติดเชื้อระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 3 ก.พ.64 จะเห็นว่า มีผู้ติดเชื้อใน จ.สมุทรสาคร จำนวน 12,746 ราย หรือ 78.23% กทม. จำนวน 799 ราย หรือ 4.90% และจังหวัดอื่นๆ 2,749 ราย หรือ 16.87% ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 104,391,187 ราย เสียชีวิตสะสม 2,262,733 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า วันนี้มี 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม คือ จ.ตาก และมหาสารคาม โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ทาง จ.ตากได้ขอคุมพื้นที่เฉพาะเจาะจงลงไปอาจใช้มาตรการที่เข้มขึ้น โดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รับพิจารณาเพื่อจะมีการปรับโทนของการดูแลให้เข้มขึ้น นอกจากนี้ ถ้าดูแผนที่ประเทศไทย ขณะนี้มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในช่วง 1-2 วัน จำนวน 7 จังหวัด มีจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 3-4 วัน จำนวน 7 จังหวัด มีจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 5-6 วัน จำนวน 3 จังหวัด มีจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จำนวน 46 จังหวัด และมีจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่ จำนวน 14 จังหวัด จึงขอจังหวัดที่สถานการณ์ดีดูแลสุขลักษณะส่วนตัว จะได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้ยาวนานที่สุด และหวังว่าจากมาตรการผ่อนคลายที่มีมาจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจังหวัดอื่นๆ รวมถึง กทม. และสมุทรสาครลดลง
นพ. ทวีศิลป์ กล่าวว่า กองระบาดวิทยา ได้สรุปรายงานการติดเชื้อในยานพาหนะต่างๆ โดยจากตัวเลขพบผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย ซึ่งอาจจะติดเชื้อจากจุดอื่น ไม่ได้ติดภายในยานพาหนะสาธารณะ อาจเป็นเพราะการป้องกันของผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงแค่รายงานข้อมูลเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการสรุปผลการดำเนินการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติในประเทศไทย ในรูปแบบสถานที่กักกันเฉพาะองค์กร (OQ) ที่ควบคุมการเดินทางของผู้ร่วมแข่งขันและมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่าง 4-31 ม.ค. ภาพรวมเป็นไปด้วยดี มีการพบผู้ติดเชื้อเพียง 4 ราย และพบผู้ที่มีประวัติติดเชื้อมาก่อนแต่หายแล้ว 6 ราย กรณีนี้ประเทศได้รับคำชื่นชมจนมีชื่อเสียงในด้านนี้ เป็นเพราะการทำงานอย่างหนักของหลายหน่วยงาน หวังว่าหลังจากนี้จะได้มีกีฬาดีๆ เกิดขึ้นในประเทศไทย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคที่ จ.มหาสารคาม นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าว่า ในเรื่องดังกล่าวปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ติดตามผ่านการประชุมทางไกลผ่านระบบเทเรคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้รายงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ พบว่าคลัสเตอร์ของ จ.มหาสารคาม ขณะนี้รวมตัวเลขอยู่ที่ 21 ราย เป็นคนที่อยู่ในมหาสารคาม จำนวน 17 ราย ราชบุรี 3 ราย และขอนแก่น 1 ราย และตอนนี้ได้มีการติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยง เพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกจำนวนทั้งหมด 4,149 ราย ปรากฏผลออกมาแล้ว จำนวน 2,477 รายไม่พบเชื้อแต่อย่างใด รอผลอยู่อีก 1,672 ราย นอกจากนี้ จ.มหาสารคามได้ประกาศ อ.เมือง อ.กันทรวิชัยให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมกับปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ จำนวน 17 แห่ง นี่ คือการทำงานทั้งหมดของพื้นที่ ดังนั้น ขนาดนี้หากใครพบว่าตัวเองมีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ จ.มหาสารคาม แล้วมีอาการผิดปกติ ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว มีรายงานล่าสุดว่ามีแพทย์ท่านหนึ่งที่รับตรวจคนไข้ในกรณีนี้ มีการติดเชื้อด้วย 1 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.มีการพูดคุยกันว่าจะสื่อสารกับประชาชนว่าในเวลานี้ยังวางใจไม่ได้ เบาใจได้บ้างสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด แต่สถานการณ์ขณะนี้พื้นที่ที่มีสีแดงเข้มอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และกทม. ทั้งสองจังหวัดนี้อยู่ใจกลางของแผนที่ประเทศไทย สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดอื่นได้หลากหลายมาก ดังนั้น ขณะนี้เมื่อเวลาผ่านไปเราต้องค้นหาผู้ป่วยให้ได้โดยเร็ว แต่อย่างไรก็ตามการค้นหาผู้ติดเชื้อจะต้องใช้งบประมาณ และสรรพกำลังของบุคลากรทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก จึงต้องวางยุทธศาสตร์ในการให้เกิดการสมดุลระหว่างการสูญเสียด้านเศรษฐกิจ การลงเม็ดเงินงบประมาณเข้าไปเพื่อตรวจรายละ 2,000 บาทโดยประมาณ ถ้าตรวจหมื่นราย จะใช้วันละ 20 ล้านบาท ไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวตอนท้ายว่า เราจะมีวิธีใดที่จะผสมผสานกันหลายๆอย่าง สิ่งที่ทางกระทรวงสาธารณสุข และศบค.ชุดเล็ก ต้องช่วยกันคิดและกำลังทำอยู่ในขณะนี้เพื่อให้ได้รู้ขนาดและจำกัดวงเอาไว้ ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือประชาชนที่ จ.สมุทรสาคร และกทม.ต้องพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด และขณะเดียวกันคนที่อยู่ต่างจังหวัด เรามีตัวอย่างที่ จ.มหาสารคามทำให้เราเห็นภาพว่าโรคไปได้ทุกที่ สรุปว่าคนทั้ง 77 จังหวัดยังการ์ดตกไม่ได้ ยังต้องเข้มกันอยู่ทุกคน เพราะถ้าเผลอเมื่อไหร่ไวรัสตัวนี้จะเข้าไปในทางเดินหายใจของเราได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าตอนนี้งานเลี้ยงที่มีสุราร่วมด้วย และยังมีงานรื่นเริงต่างๆ ล้วนแต่เป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น ทั้งโต๊ะแชร์ งานเลี้ยงวันเกิด ซึ่งในส่วนของกฎหมายที่จะบังคับใช้นั้นจะทำให้เราสามารถเรียนรู้ไปด้วยกัน แต่ไม่ใช่การยากที่จะนำกฎหมายไปบังคับเพื่อให้ใครต้องไปติดคุกติดตะราง แต่การบังคับใช้กฎหมายนั้นเพื่อที่จะให้เราทุกคนอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกัน ใช้ชุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน เราทำเพื่อให้คนอื่นปลอดภัย ไม่ได้ทำให้เพื่อเกรงกลัวกฎหมาย ศบค. อยากขอความร่วมมือมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเราต้องยืนระยะตรงนี้ไปอีกนานระยะหนึ่ง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |