03 ก.พ.2564 -  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ "โควิด-19" ผ่านเฟซบุ๊ก ว่าสถานการณ์ทั่วโลก 3 กุมภาพันธ์ 2564 ทะลุ 104 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 397,067 คน รวมแล้วตอนนี้ 104,251,152 คน ตายเพิ่มอีก 13,213 คน ยอดตายรวม 2,258,795 คน อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 118,949 คน รวม 26,985,144 คน ตายเพิ่มอีก 2,920 คน ยอดตายรวม 456,524 คน อินเดีย ติดเพิ่ม 11,047 คน รวม 10,778,206 คน บราซิล ติดเพิ่ม 1,543 คน รวม 9,230,865 คน รัสเซีย ติดเพิ่ม 16,643 คน รวม 3,884,730 คน  สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 16,840 คน รวม 3,852,623 คน ต่ำกว่าสองหมื่นคนเป็นวันที่สองติดต่อกัน ยอดตายรวมขณะนี้ 108,013 คน 

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน  แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น  แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องแบบทรงตัว เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ 

ช่วงนี้เวียดนามติดเชื้อเพิ่มหลายสิบคนต่อวัน ต่อเนื่องมา 6 วันแล้ว เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่คือจากสหราชอาณาจักร ซึ่งทำให้แพร่ได้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ติดไปแล้ว 276 คน กระจายไปใน 10 เมือง คงต้องเอาใจช่วยให้เค้าควบคุมได้โดยเร็ว

วิเคราะห์สถานการณ์ของเรา...ย้ำอีกครั้งว่าไม่ปลอดภัย  วาทกรรมที่ว่า "ตรวจเชิงรุกเจอเยอะแล้วแปลว่าสถานการณ์ดี"นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะการไปสุ่มตรวจแล้วเจอเยอะนั้น แท้ที่จริงแล้วแปลว่ามันมีการแพร่ระบาดกันอยู่ โดยไม่เคยไปตรวจมาก่อน จึงไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งแปลตรงๆ ก็คือ  หนึ่ง การตรวจโรคยังไม่เพียงพอ ไม่ทันเวลา และไม่ครอบคลุม จึงจำเป็นต้องเร่งขยายการตรวจให้มากและต่อเนื่อง สอง การระบาดยังควบคุมไม่ได้ 

วาทกรรมที่ว่า "ตรวจเชิงรุกพบคนติดเชื้อเยอะ แล้วถือว่าดีกว่าปล่อยให้เค้าติดเชื้อโผล่ขึ้นมาให้เจอเอง"นั้น ไม่ได้เป็นการสื่อความหมายที่ครบถ้วนสมบูรณ์  เพราะการตรวจเชิงรุกเจอเยอะนั้น เค้าติดกันอยู่เยอะ และไม่ได้รับการตรวจ หรือตรวจไม่พอ ตรวจไม่ทันต่อเวลาของการระบาด จึงทำให้มันติดเชื้อกันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แปลง่ายๆ คือ "เชื้อกำลังระบาดกันอยู่แล้วและยังคุมไม่ได้จึงเห็นกลุ่มคนที่ติดเชื้อกันเยอะแบบนี้" 

หากเข้าใจ present perfect continuous tense ก็จะไม่สรุปว่าดีกว่าปล่อยให้โผล่มาให้เจอเองแต่เพียงอย่างเดียว แต่ควรสรุปเป็นบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่า แนวทางเดิมที่ทำมานั้นยังไม่เพียงพอที่จะตรวจได้อย่างครอบคลุมและทันกาล และเราจะได้นำมาขันน็อตเสริมระบบการตรวจให้มีศักยภาพมากขึ้น และเร่งทำต่อเนื่อง ด้วยข้อมูลสถานการณ์ที่สาธารณะได้รับรู้รับทราบกันตอนนี้ จึงต้องเน้นย้ำว่า ทุกคนในทุกพื้นที่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิต ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตรออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ใช้ระยะเวลาสั้นๆ พบปะคนให้น้อยๆ สั้นๆ  ลดละเลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย อาการคล้ายหวัด ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่ามีโอกาสเป็นโควิด และควรหยุดเรียนหยุดงานแล้วรีบไปตรวจรักษา

บอกตรงๆ ว่า สถานการณ์แบบนี้ เราเหมือนตกอยู่ในภาวะให้เลือกกระโดดโดยอาศัยความเชื่อใจ หรือเรียกว่า "Trust jump" การจะมีสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตได้นั้น การกระโดดโดยอาศัยความเชื่อใจนั้น จำเป็นจะต้องใช้สติ และปัญญา ใช้ความรู้ที่พิสูจน์ได้มาช่วยในการคิด วิเคราะห์และตัดสินใจ ว่าท่านจะกระโดด หรือไม่กระโดด  และจะกระโดดไปทางไหน...จึงจะเกิดสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตของตนเองและครอบครัว ด้วยรักต่อทุกคน