สัญญาณชัดเจน "การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี" หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี โดยให้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ กกต.ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง
โดยประเดิมที่สนามการเมืองท้องถิ่นระดับเทศบาลนครอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา คือสนามเลือกตั้ง "เทศบาลนครหาดใหญ่"
สนามของเทศบาลนครหาดใหญ่มีการเตรียมความพร้อมของแต่ละทีม แต่ละกลุ่มการเมืองมีการหาเสียงล่วงหน้ากันมาตั้งแต่ไก่โห่
โดยสนามเลือกตั้งของเทศบาลนครหาดใหญ่ พบว่ามีทีมผู้สมัครเพื่อให้ประชาชนเข้า "คูหา” กาหมายเลขถึง 5 ทีมด้วยกัน
ประเดิมด้วยทีมที่ 1 ซึ่งมีความพร้อมตั้งแต่ "ไก่ยังไม่โห่” มีการเดินพบปะ แนะนำตัวกับคนในพื้นที่ และขึ้น "คัตเอาต์” ให้เห็นโฉมหน้าของทีมผู้บริหารที่ให้ชื่อว่า “ทีมปลัดแป้น” ซึ่งนำโดย นายณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตนายอำเภอหาดใหญ่ อดีตปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา
ด้วยนโยบายสั้นๆ ได้ใจความว่า "เปลี่ยนหาดใหญ่” ให้เป็น "เมืองสวัสดิการและความสุข”
ทีมที่ 2 ซึ่งความจริงน่าจะเป็นทีมแรกที่เคยออกแนะนำตัวกับคนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ตั้งแต่ต้นปี 2563 คือทีมของ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีต ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว แต่หลังจากเดินแนะนำตัวในฐานะ "ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลนครหาดใหญ่” ได้ระยะหนึ่ง ก็เบนเข็มไปยังตำแหน่ง "นายก อบจ.” สงขลา แต่สุดท้ายด้วยเหตุผลส่วนตัวจึงไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งในตำแหน่ง “นายก อบจ.” แต่เป็น ประธานที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลาแทน
และหลังจากที่มีการตรวจสอบคะแนนนิยมของประชาชนด้วยการ "ทำโพล” โดยผลของโพลพบว่า คะแนนนิยมในตัวยังสู้ได้ จึงตัดสินใจกลับมาขึ้น "คัตเอาต์” บอกกับชาว "นครหาดใหญ่” ว่า "หลวงคร” พร้อมที่จะลงเลือกตั้งด้วยการโชว์ชื่อของ “สมพร ใช้บางยาง” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะเป็นที่ปรึกษาของทีม
ทีมที่ 3 คือทีมของ สมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากรณ์ เจ้าของธุรกิจโรงแรม, รีสอร์ต ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเคยขึ้นเวที "หาเสียง” กับคู่แข่งทีมของไพร พัฒโน อดีตนายกเทศบาลนครหาดใหญ่มาแล้ว โดยเข้าวินเป็นที่ 2
วันนี้ “สมบูรณ์” ได้รวบรวมพลพรรคที่มี "ไอเดีย” ในการ “ฟื้นเมืองหาดใหญ่” เพื่อลงเป็น "ตัวเลือก” ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจซึ่งย่อมเข้าใจในปัญหาธุรกิจได้ดี โดยเฉพาะ “หาดใหญ่” วันนี้ได้กลายเป็น "เมืองร้าง” ที่ต้องอาศัย “ผู้รู้” ในการเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์
ทีมที่ 4 ที่ขึ้นป้าย โชว์รูป และ "วิสัยทัศน์” คือทีมของ พงษ์ศักดิ์ จิโนภาส นักธุรกิจที่อยู่ในเมืองหาดใหญ่มานาน และทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็จะขึ้นเวที "หาเสียง” เพื่อการ "สัประยุทธ์” กับคู่ต่อสู้ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของการแพ้-ชนะ
ครั้งนี้มีการหาเสียงด้วยการขายไอเดียเรื่องการตรวจสอบงบประมาณและการใช้งบประมาณของเทศบาลเป็นเรื่องสำคัญ
ทีมสุดท้าย คือทีมของ ไพร พัฒโน อดีตนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ตก "บัลลังก์” ด้วยการลาออกจากตำแหน่งก่อนถึงวันหมดวาระ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่หลังจากลาออกจากตำแหน่งก็เกิด "อุบัติเหตุ” ทางการเมืองที่ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ในครั้งนั้น
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไพร พัฒโน ยังคงยืนยันกับ “พลพรรค” ที่เป็น ส.ท.และผู้สนับสนุนว่าจะอาสาเป็นหัวหน้าทีมในฐานะว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลนครหาดใหญ่เช่นเดิม ไม่ได้ส่งศรีภรรยาหรือน้องชายขึ้นเวที "หาเสียง” กับทีมคู่แข่งทั้ง 4 ทีม ในฐานะ "แชมป์เก่า” ที่ดูแลพื้นที่และ "หล่อเลี้ยงชุมชน” มาอย่างยาวนานแต่อย่างใด
ถือว่าเป็นโอกาสของคนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาที่ "รุมเร้า” ของคนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้า ที่ต่างได้รับผลกระทบจากเรื่องของเศรษฐกิจตกต่ำก่อนที่จะมีโรคระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นเสียอีก และหลังจากประเทศมาเลเซียประกาศปิดประเทศตั้งแต่โควิด-19 รอบแรกจนถึงรอบสอง โดยมาเลเซียจะปิดประเทศถึงวันที่ 1 ส.ค.2564 จึงทำให้หาดใหญ่ที่ "ซบเซา” มาเป็นเวลากว่า 3 ปี ขณะนี้ถึงขั้นเป็น "เมืองร้าง” ผู้นำท้องถิ่นอย่าง "นายกเทศบาล” คือ "หัวใจ” สำคัญของการมีหน้าที่ในการสร้างความเจริญ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องให้กับท้องถิ่น
วันนี้คนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่คงไม่ต้องการถนนหนทาง คู คลอง ไฟฟ้า และสิ่งสาธารณูปโภคอื่นใด แต่ต้องการผู้บริหารที่มี "วิสัยทัศน์” เข้ามาเพื่อ "กอบกู้” ธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และปัญหา "ปากท้อง” ของผู้ที่ “หาเช้ากินเช้า หาค่ำกินค่ำ” ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่น้อยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
ดังนั้นเมื่อมีผู้เสนอตัวเพื่อเป็นผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ถึง 5 ทีมด้วยกัน จึงเป็นโอกาสของคนหาดใหญ่ว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารคนต่อไป เพื่อทำหน้าที่ "กอบกู้” หาดใหญ่ให้กลับมามี "ชีวิตชีวา” อีกครั้ง.
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
รายงาน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |