เริ่มศักราชใหม่ “กรมปทุมวัน” อุณหภูมิยังร้อนฉ่าเหมือนเดิม นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดรอบสองถือว่าหนักหนาสาหัส ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมใกล้จะทะลุ 2 หมื่นคน โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง จ.สมุทรสาคร ยอดผู้ติดเชื้อแต่ละวันหลายร้อยคนจากแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันแข่งขันกับเวลาเพื่อสกัดการแพร่ระบาดและรักษาผู้ติดเชื้อ ขณะที่พ่อเมืองสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอาการยังน่าเป็นห่วง แพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด
ต้นตอการแพร่ระบาด “ตำรวจ” คือหนึ่งหน่วยงานของรัฐที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานที่ตลาดกุ้งมหาชัยติดเชื้อมาจากประเทศเมียนมา ลักลอบเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติแนวชายแดน จ.กาญจนบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการถึงตำรวจชั้นผู้น้อยรับเงินใต้โต๊ะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายหน่วยเปิดไฟเขียว อำนวยความสะดวกนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย จนเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ระบาดไปทั่วประเทศ เช่นเดียวกันกับการลักลอบเล่นการพนันทั่วประเทศ ต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเต้น “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นแม่งาน อำนวยการร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบการลักลอบเล่นการพนันและลักลอบนำแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้าประเทศ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการผิดกฎหมาย ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 33 คน เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 22 นาย ส่วนบ่อนการพนัน ตำรวจพื้นที่ถูกเด้งระนาว ทั้ง 2 กรณีตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกตั้งคณะสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเสนอ ผบ.ตร.เอาผิดทั้งวินัยและอาญา
ทั้ง “บ่อน-แรงงานเถื่อน” หลังถูกสังคมถล่มเละ โดยเจ้าตัวน้อมรับข้อผิดพลาดเพื่อนำไปแก้ไของค์กร “เนื้อร้ายต้องตัดทิ้ง หาคนที่เหมาะสมไว้ใจได้ไปทำงานแทน ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทุ่มเททำงานก็ต้องให้กำลังใจ” กระแสถาโถมโจมตีจนสื่อตั้งฉายาให้ “ผบ.หลบฉาก” พล.ต.อ.สุวัฒน์ออกสื่อนับครั้งได้ ด้วยตัวตนเป็นนักสืบ ชีวิตราชการเติบโตมากับงานสืบสวน ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตน บ่อยครั้งเกิดเหตุคดีอุกฉกรรจ์ สังคมถามหา “ผบ.ตร.” ผู้นำองค์กรตำรวจ ถ้าใครรู้จักตัวตนจริง “ผบ.ปั๊ด” จะยกผลงานให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแถลงผลงานเอง จะไม่ไปจ้อไมค์ออกสื่อเอาหน้าเหมือนตำรวจใหญ่หลายๆ คน
นับตั้งแต่รับตำแหน่ง “ผบ.ตร.” มีไม่กี่คดีที่ “ผบ.ปั๊ด” เป็นผู้นำแถลงข่าวเอง นอกจากคดีน้องชมพู่ ที่เจ้าตัวยืนยันว่าถึงแม้คดีจะล่วงเลยเวลามานาน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำงานต่อเนื่องไม่มีหยุด และจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ คดี “เคนมผง” จับกุมตัวนายโช วาย เชิน ฉายา “ลูแปงไต้หวัน” ผู้ต้องหายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ หลบหนีหมายจับของประเทศไต้หวันคดียาเสพติดหลายคดีมาซุกซ่อนอยู่ในประเทศไทย และเป็นผู้ค้า “เคนมผง” รายใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดในหมู่นักเสพจนมีผู้เสพเสียชีวิตกว่า 10 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน
ล่าสุดก็เป็นการนำแถลงผลการปฏิบัติจับกุมขบวนการทุจริตโครงการ “เที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของรรัฐบาลที่จัดขึ้น พบมีผู้ประกอบการ เจ้าของโรงแรม ร้านค้าและประชาชนร่วมกันทุจริตกว่าหมื่นคน มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 1/2564 ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีผลงานหลายๆ เรื่อง บางเรื่องไม่ได้ออกมาชี้แจง พร้อมเน้นย้ำ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นให้เป็นไปตามกฎหมาย และประพฤติตนซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้เป็นที่เชื่อมั่นไว้วางใจของประชาชนทั้งประเทศ”
แต่เหมือนจะสวนทางกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บางหน่วย บางคน ตั้งแต่นายกฯ เปล่งอาญาสิทธิ์ให้ตำรวจกวาดล้างบ่อนการพนันทุกชนิดที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พบว่าบ่อนการพนันของ “หลงจู๊ชาย” ผู้กว้างขวางแห่งภาคตะวันออกถูกสั่งปิดหมด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด ถูกเด้งระนาวมานั่งตบยุงที่ ศปก.ตร. พร้อมถูกตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเอาผิดทั้งวินัย-อาญา
ซึ่งในครานั้น นายทุนใหญ่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผลประโยชน์เต้นเป็นเจ้าเข้า ปัดสวะออกจากตัว ได้ว่าจ้างรถบรรทุกเข้ามาขนตู้สล็อตไฟฟ้า ตู้ม้า จากพื้นที่ภาค 2 ไป ซุกไว้ที่โกดังแห่งหนึ่งที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 นำหมายศาลเข้าทำการตรวจยึดได้กว่า 418 ตู้ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ยังอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม ยังไม่ถอดวงจรอิเล็กทรอนิก เสียบปลั๊กใช้ได้ทันที
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุดเป็นของกองปราบปราม นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโกดังในพื้นที่ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบตู้ม้าซึ่งเป็นของหลงจู๊สมชายเช่นเดียวกันซุกอยู่อีกกว่า 300 ตู้ ไม่นับที่ถูกนำมาทิ้งไว้ตามข้างถนน ป่าละเมาะ และที่ชาวบ้านไม่ทนขนตู้ม้าไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกก็หลายตู้ ตำรวจอ้างไม่ได้รับรายงานการลักลอบเล่นการพนัน ทั้งหมดทั้งมวลที่ปรากฏ “บ่อน” คือท่อน้ำเลี้ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทุกยุคทุกสมัย หลงจู๊สมชาย หรือนายทุน ผู้มีอิทธิพลเขารู้ดี จ่ายใคร ราคาค่างวดเท่าไหร่ ธุรกิจสีเทาเขาจะไปต่อได้
โป๊ะแตก เมื่อมีข้อมูลขบวนรถบรรทุกตู้ม้าจากพื้นที่ภาค 2 ใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ตำรวจภาค 3 มีรถสายตรวจของ สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ขับนำขบวนรถบรรทุกตู้ม้าไปซุกโกดังที่ จ.ขอนแก่น หลักฐานได้จากกล้องวงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.โชคชัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกับคนขับขบวนรถบรรทุก งามไส้! เมื่อ พล.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ออกมายอมรับว่า ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบการกระทำความผิดวินัยระดับโรงพัก ขณะที่ “บิ๊กหิน” พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาทองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ส่งชุดจเรตำรวจเข้าตรวจสอบพบมีการกระทำความผิดหลายนายของ สภ.โชคชัย ตั้งแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชา และได้ส่งเรื่องให้ บช.ภ.3 ดำเนินการทางวินัยและอาญา
“บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. ต้องยกเครื่องตำรวจใหม่ทั้งระบบ ตำรวจมีทั้งคุณและโทษ เมื่อกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นบิดเบี้ยวด้วยผลประโยชน์ โดยภาพลักษณ์ “ผบ.ตร.” เป็นคนมือสะอาด แต่องค์กรไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้เพียงคนเดียว ผู้ใต้บังคับบัญชากว่า 2 แสนคือฟันเฟือง ผบ.ตร.เองพยายามสื่อถึงลูกน้องให้ทุกคนปรับทัศนคติใหม่ อย่ามอง “การพนัน” เป็นปัญหาเล็กน้อย ให้มองเห็นโทษเป็นบ่อนทำลายสังคม ทำลายประเทศชาติ ถึงเวลาแล้วที่ ผบ.ตร.ต้องจัดแถวตำรวจใหม่ให้เป็นไปตามนโยบายและวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่นำสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” อย่าเพียงลูบหน้าปะจมูก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |