ส.อ.ท.ยันกฎหมาย ’อีอีซี’ มีผลดันการลงทุนไทยเดินหน้า


เพิ่มเพื่อน    

ส.อ.ท.ยันกฎหมายอีอีซีมีผลสร้างความเชื่อมั่นดันการลงทุนไทยเดินหน้า เร่งรัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยอมรับอุตสาหกรรมไทยบางกลุ่มยังไม่พร้อมต้องรอเอกชนต่างชาติหนุน ชี้สัญญาณการตอบรับของนักลงทุนยังดีเรื่อย ๆ 

15 พ.ค. 2561 – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าหลังจากราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ในโครงการการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีผลบังคับใช้แล้วจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และจะก่อให้เกิดการผลักดันให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีมากยิ่งขึ้นโดยขณะนี้ก็จะเห็นว่ามีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เข้ามายังพื้นที่อีอีซีอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ในส่วนของภาครัฐจะต้องเร่งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสนามบิน ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูง เพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซี ซึ่งอยากให้เห็นสำคัญว่าการลงทุนในอีอีซีจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยพัฒนาขึ้นมา ขณะที่ความพร้อมของภาคเอกชนต้องยอมรับว่าถ้าเป็นเอกชนไทยเองยังไม่พร้อมเต็มที่ในทุกด้าน ซึ่งก็ต้องรอการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมไทยในส่วนก็จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่การผลิตได้ ทั้งนี้แนวโน้นการลงทุนของต่างชาติ ยังพอมีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากต่างชาตินั้นมีความสนใจอยู่เดิมแล้ว

“ในตัวกฎหมายจะออกมากำหนดความชัดเจนทั้งของด้านการลงทุน การจ้างงาน ทั้งของไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ตามการที่กฎหมายอีอีซีสามารถออกมาบังคับใช้ได้แล้ว ก็จะเป็นผลดีอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่ทำไว้ขณะนี้ถือว่าดีอยู่แล้วและที่ผ่านมาเองก็จะเห็นว่ากฏหมายการลงทุนของไทยโอกาสเปลี่ยนแปลงน้อยมากแม้การเมืองจะเปลี่ยนไป”นายสุพันธุ์ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"