1 ก.พ.64 - ผู้สื่อข่าวพาไปที่บ้านเลขที่ 310 หมู่ 2 ตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนางกัญญาณี ปาสเซรา อายุ 36 ปี พร้อมด้วยสามี นายสตีเว่น พอล ปาสเซรา อายุ 30 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าของบ้านที่ยึดอาชีพเลี้ยงควาย ทำไร่ ทำนาตามวิถีชีวิตชนบท หันมาหารายได้เสริมจากการทำข้าวหลามมะพร้าวอ่อนในกะลามะพร้าวน้ำหอม โพสต์ขายทางออนไลน์ ได้เพียง 2 เดือน ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก ด้วยรสชาติของข้าวหลามมะพร้าวน้ำหอม ที่อร่อย มัน เข้มข้น ทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสายวันละไม่ต่ำกว่า 300 ฝา นอกจากนี้ยังแปรรูปน้ำมะพร้าว 100% บรรจุขวดขายเพียงขวดละ 10 บาท และวุ้นน้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้ๆ ไม่ผสมน้ำเชื่อม ถ้วยละ 10 บาทเช่นกัน จากรายได้เสริมเป็นรายได้หลักของครอบครัวอีกทาง พร้อมจ้างลูกหลานมาช่วยวิ่งส่งของตามออเดอร์กลายเป็นอาชีพทำเงินของครอบครัว

นางกัญญาณี เล่าให้ฟังว่าครอบครัวของเขาคุณพ่อเป็นอดีตตำรวจเกษียณอายุ คุณแม่อาชีพแม่ค้าตลาดนัด ขายปลาร้า ปลาส้ม ส่วนตัวเองก็ช่วยครอบครัวเลี้ยงควายกว่า 50 ตัว ระยะหลังตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้อาชีพขายของตลาดนัดของแม่ซบเซา จนโควิดระบาดรอบ 2 เมื่อช่วงปลายปี 2563 ตลาดนัดถูกปิด ทำให้แม่ขายของไม่ได้เลย แม่ก็เริ่มเครียด จนมาวันนึงที่บ้านเผาข้าวหลามกินกัน ตนลองเอาข้าวหลามใส่ในกะลามะพร้าวน้ำหอม ปรากฏว่า รสชาติอร่อย หอมกลิ่นมะพร้าวน้ำหอม แม่ก็เอาไปฝากเพื่อนบ้าน เพื่อนๆที่ขายของตลาดนัดด้วยกัน ทุกคนบอกอร่อยมาก อยากกินอีก อยากให้ทำขาย ตนก็เลยลองทำขายเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แรกๆทำแค่วันละ 40 ฝา ขายฝาละ 25 บาท มีอยู่วันหนึ่งขายไม่หมด เหลือ 10 ฝา ตนเลยลองโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า มีออเดอร์สั่งเข้ามาเพียง 1 ชั่วโมง มากถึง 100 ฝา แม่ก็ดีใจที่มีช่องทางขาย ก็เริ่มทำขายเรื่อยมา เพียง 2 เดือน ออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย วันละไม่ต่ำกว่า 300 ฝาเลยทีเดียว

นางกัญญาณี บอกต่ออีกว่า ตั้งแต่วันนั้น ทางครอบครัวก็มาช่วยกันทำให้ทันออเดอร์ที่เข้ามา โดยจะเลือกวัตถุดิบที่สำคัญคือมะพร้าวน้ำหอม ก็ติดต่อสวนที่รู้จักให้มาลงที่บ้าน เริ่มจากปอกมะพร้าว แยกน้ำมะพร้าวออกมา ขูดเนื้อมะพร้าวน้ำหอม น้ำมะพร้าวก็ทำวันต่อวันแพ็คใส่ขวดขาย ราคาเพียง 10 บาท ขายดีเพราะเป็นน้ำมะพร้าวแท้ 100% ไม่ผสมน้ำเชื่อม ที่เหลือก็นำไปทำวุ้นมะพร้าวน้ำหอมแท้ๆ ไม่ใส่น้ำเชื่อมเช่นกัน ขายเพียงถ้วยละ 10 บาท เรียกได้ว่า ทุกส่วนของมะพร้าววัตถุดิบหลักสามารถนำมาแปรรูปเป็นเงินได้หมดเลย

ส่วนข้าวหลามของตนก็จะใช้วิธีการทำที่ใส่ใจทุกขั้นตอนเหมือนกับทำกินในครอบครัว เริ่มจากคัดข้าวเหนียวใหม่ มีทั้งข้าวเหนียวขาว และข้าวเหนียวลืมผัว(ข้าวเหนียวดำ) แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน เช้ามาก็นึ่ง จากนั้นก็ต้มถั่วดำ เผือก ถั่วลิสง คั้นน้ำกะทิรอ ทำข้าวเหนียวและถั่ว เผือก ถั่วลิสง มะพร้าวอ่อน มามูนน้ำกะทิ ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงให้ข้าวเหนียวมูนจับตัวก็ตักใส่กะลามะพร้าวโดยจะใช้เนื้อมะพร้าวน้ำหอมรองพื้น ราดด้วย หัวกะทิ ตกแต่งด้วยใบเตย จากนั้นนำไปเข้าซึ้งนึ่งประมาณ 15-20 นาที นำออกมา อบด้วยเตาอบลมร้อนอีกประมาณ 10 นาที เพื่อให้หน้ากะทิแตกมัน จัวตัวและแห้ง จากนั้นก็ใช้พลาสติกแรปปิดหน้าให้เรียบร้อย ก็แพ็คจัดส่งออเดอร์ได้เลย โดยสามารถนำเข้าตู้เย็น ได้ 3 วัน เวลาทานก็นำมาอุ่นนึ่ง หรือ เวฟ ก็จะได้รสชาติเหมือนเดิม หรือหากอยากเก็บนานกว่านั้น ก็สามารถใส่ช่องแช่แข็งได้เลย เวลาจะทานก็นำออกมาเวฟ มานึ่ง ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่สนใจอยากจะลิ้มรส ข้าวหลามมะพร้าวอ่อนในกะลามะพร้าว ขายเพียงฝาละ 25 บาทเท่านั้น ขายส่ง 100 ฝาขึ้นไปคิดราคาฝาละ 20 บาท ส่วนในตัวเมืองพิษณุโลก สามารถส่งได้ขั้นต่ำ 4 ฝา 100 บาท หรือจะอุดหนุน น้ำมะพร้าวแท้ๆ 100% หรือ วุ้นมะพร้าวน้ำหอมที่ใช้น้ำมะพร้าวล้วนทำไม่ผสมน้ำเชื่อม ในราคาเพียง 10 บาทก็สามารถสั่งได้ที่ Facebook : Azumi Jeab หรือโทรสั่งทางหมายเลขโทรศัพท์ 081-156-2656