1 ก.พ. 2564 พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดและเทศบาลเมืองกระบี่ได้จัดตั้งและเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาและจัดการขยะอย่างยั่งยืน เนื่องด้วยกระบี่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอันดับ 4 ของประเทศ โดยภาวะปกติมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ปี 2563 แม้ต้องเผชิญผลกระทบโควิด– 19 ก็ยังมียอดนักท่องเที่ยวกว่า 1.5 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 9 แสนคน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 แสนคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 29,000 ล้านบาท
แต่นั่นแลกมากับขยะที่เพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับประชากรพื้นที่อีกกว่า 400,000 คน ส่งผลให้มีขยะตกค้างมหาศาลที่รอกำจัด เฉพาะขยะในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ก็มีกว่า 800,000 ตัน นอกจากส่งผลกระทบเรื่องกลิ่นและสุขภาวะ ยังกระทบต่อทัศนวิสัย รวมถึงความประทับใจและความทรงจำของนักท่องเที่ยวด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดกระบี่จึงจัดทำโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาและจัดการขยะล้นเมืองที่เป็นอีกมิติสำคัญในการขับเคลื่อนจังหวัดกระบี่สู่เมืองท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมของโลก ตามแนวคิด KRABI Goes Green ได้อย่างตรงจุด
“โรงไฟฟ้าขยะชุมชนแห่งนี้ ถือเป็นการพลิกวิกฤตขยะให้เป็นโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับชุมชน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัยสะอาด สวยงามและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเหมาะสำหรับใช้เป็นโมเดลต้นแบบในการแก้ไขปัญหาขยะชุมชนในทุกพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งของประเทศและของโลกอย่างยั่งยืน”
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ตั้งอยู่ภายในบริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลฯ ณ ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยให้กลุ่มบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เป็นผู้บริหารจัดการภายใต้อายุสัญญา 25 ปี วัตถุประสงค์สำคัญเพื่อบริหารกำจัดขยะทดแทนการฝังกลบในบ่อขยะแบบเดิมซึ่งเปิดใช้มากว่า 20 ปีส่งผลให้ขยะตกค้างรอกำจัดจำนวนมาก และเมื่อรวมกับขยะใหม่แต่ละวันไม่น้อยกว่า 200 ตัน หากปล่อยไว้นานยิ่งกระทบต่อปัญหาเรื่องพื้นที่ฝังกลบมีไม่เพียงพอและส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน นักท่องเที่ยว รวมถึงทำลายภูมิทัศน์อันสวยงามของจังหวัดกระบี่
เหตุผลที่เลือกกลุ่ม ACE เป็นผู้ดำเนินโครงการเพราะเป็นผู้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพทั้งทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทางด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าขยะจนเป็นที่ยอมรับของชุมชน ประกอบกับนวัตกรรมที่นำมาใช้ก็เป็นการกำจัดขยะที่ถูกวิธีแบบเบ็ดเสร็จสามารถเผาขยะทุกชนิดได้พร้อมๆ กัน เช่น กระดาษ พลาสติก ยาง ผ้า เศษอาหารจากขยะเก่าและขยะใหม่ของเทศบาลเมืองกระบี่ รองรับการนำขยะมากำจัดได้สูงสุดวันละ 450 ตัน ซึ่งมาจากเทศบาลในพื้นที่กระบี่ 14 แห่ง อบต.48 แห่ง รวมกับขยะเก่าที่ฝังกลบในศูนย์ฯ แห่งนี้
“การนำขยะมาเผาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุด เพราะนอกจากลดปัญหาเรื่องพื้นที่ฝังกลบแบบเดิมที่ก่อมลพิษตกค้างแล้ว ด้วยเทคโนโลยีแบบเผาตรงในระบบปิดของโรงไฟฟ้าขยะแห่งนี้ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ไม่มีฝุ่นละออง ไม่มีการปล่อยน้ำเสีย จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ หรือ ผลกระทบใดต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมแน่นอน ในขณะเดียวกันนั้น พบว่า ACE มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างโดดเด่น อย่างไม่มีใครเทียบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีการนำน้ำชะขยะขุ่นข้นเป็นโคลนสีดำมาบำบัดจนกลายเป็นน้ำใสสะอาดเหมือนน้ำดื่ม แล้วนำกลับไปใช้ในโรงไฟฟ้าทั้งหมด จึงมั่นใจได้ว่าการตัดสินใจเลือก ACE นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่ออนาคตของพี่น้องชาวกระบี่”
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย ระบุว่า โรงไฟฟ้าขยะชุมชนเทศบาลเมืองกระบี่ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 6 เมกะวัตต์ ดำเนินการโดย บริษัท อัลไลแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยของ ACE ได้เริ่ม COD จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้วตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยจะสร้างรายได้ให้ ACE ปีละประมาณ 220 ล้านบาท มาจากรายได้การจำหน่ายไฟฟ้าและรายได้ค่ากำจัดขยะ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป
โรงไฟฟ้าขยะชุมชนแห่งนี้ สามารถกำจัดขยะชุมชนที่มีความชื้นได้สูงถึง 80% ด้วยวิธีการเผาตรงระบบปิดแบบสูญญากาศโดยไม่จำเป็นต้องมีการคัดแยกและแปรรูปขยะให้เป็นเชื้อเพลิงก่อน สามารถใช้ได้กับขยะทุกประเภทในโลก โดยเฉพาะขยะที่มีความชื้นสูง (ขยะเปียก) ซึ่งระบบอื่นไม่สามารถเผาไหม้ได้ดีเพียงพอ รวมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีการปล่อยของเสียใดๆ ออกสู่ธรรมชาติ (Zero Discharge) แม้กระทั่งน้ำชะขยะก็ยังสามารถบำบัดให้เป็นน้ำใสและนำกลับมาใช้ประโยชน์ภายในโรงไฟฟ้าต่อได้ นอกจากนี้ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้ายังเชื่อมสัญญาณตรงไปยังกรมโรงงาน สามารถมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มีความปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้างสูง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |