หญิงหน่อยโผล่ ทวงแจกเงินสด เยียวยาสู้'โควิด'


เพิ่มเพื่อน    


    เด็กเพื่อไทยสวมบทกูรูเศรษฐกิจ อ้างสื่อนอกอัด ”บิ๊กตู่” ทำเศรษฐกิจเตี้ยติดดินยาว 10 ปีแน่หากยังไม่รับแนวคิด คาดจีดีพีปี 64 อยู่ที่ 1.6-2.8% “หญิงหน่อย” ย้ำต้องแจกเงิน "ธนกร" ย้อนเกล็ดไปไล่เคลียร์ปัญหาภายในก่อนจุ้นเรื่องบริหารชาติ    
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ให้ผ่านวิกฤติไวรัสโควิด-19 นี้ไปให้ได้ โดยปรับวงเงินทั้งหมด 9 แสนล้านบาทจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้มาช่วยเอสเอ็มอีทั้งหมด 
    “อยากให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยนำโครงการน้ำประปาฟรี ไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ที่รัฐบาลเคยทำไว้กลับมาทำใหม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายประชาชนที่กำลังลำบากกันอย่างมาก” นายกฤษฎากล่าวและว่า ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ปรับกรอบคิดและคิดล่วงหน้าก่อนปัญหาจะเกิด แต่ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์รู้ตัวว่าขาดความรู้ความสามารถที่จะพัฒนากรอบคิดได้ ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งเพื่อถ่วงความเจริญของประเทศอีกต่อไปแล้ว เพราะจะทำให้ประเทศเสื่อมถอยต่อไปอีก 10 ปีตามคำเตือนของสื่อต่างประเทศ 
    นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค ประเมินว่า ในปี 2564 เศรษฐกิจไทยจะขยายอยู่ที่ 1.6-2.8% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 2.2% เนื่องจากการระบาดของโควิด-19  ระลอกใหม่ถึงแม้จะกระทบระบบเศรษฐกิจ แต่ไม่มากเท่าระลอกแรก เนื่องจากเป็นมาตรการกึ่งล็อกดาวน์และเจาะจงเป็นบางพื้นที่ แต่ต้องไม่มองข้ามภาวะของภาคเอกชน ภาคครัวเรือน และตลาดแรงงานที่เปราะบางกว่าช่วงก่อนการระบาดระลอกแรกมาก 
    “คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 3 ล้านคน บนสมมติฐานว่าประเทศพัฒนาแล้วได้รับวัคซีนอย่างแพร่หลาย วัคซีนมีประสิทธิภาพ และภาครัฐไทยมีมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีน หากปัจจัยไม่เป็นไปตามปัจจัยข้างต้น มีแนวโน้มที่กรณีเลวร้ายไทยจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลยในปี 2564” นายเผ่าภูมิกล่าวและว่า ศูนย์ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะไม่กลับไปยังระดับก่อนโควิด-19 ระบาดถึงแม้ปลายปี 2565 ก็ตาม 
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย  กล่าวระหว่างลงพื้นที่ชุมชนตรอกไผ่ บางเสาธง ว่า ข้อเรียกร้องเดิมยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล คือ 1.การเยียวยาด้วยเงินสดเป็นรายครอบครัว 2.การพักชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้กับรัฐ และ 3.เงินกู้ เพราะขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องกู้เงินนอกระบบซึ่งแพงมาก ไม่สามารถรับภาระไหวจนต้องปิดกิจการ ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีประมาณ  3 ล้านราย จ้างงาน 13 ล้านคน เชื่อว่าหากในไตรมาส 2  ยังไม่มีเงินช่วยเหลือจะมีคนตกงานอีก 5-6 ล้านคน
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวโต้ทีมเศรษฐกิจพรรค พท.ที่กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ทำเศรษฐกิจทรุดต่อไปอีก 10 ปี ว่า พรรคเพื่อไทยเอาเวลาไปประสานรอยร้าวภายในพรรคก่อนจะดีกว่า เพราะหลังจากคุณหญิงสุดารัตน์ลาออกไป  ทำให้เกิดรอยร้าวในพรรคถึงขนาดนายพิชัย นริพทะพันธุ์  รองหัวหน้าพรรค พท.ไม่เผาผีกับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. 
    “บอกหลายครั้งแล้วว่าเศรษฐกิจแย่เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งกระทบทั่วโลก พล.อ.ประยุทธ์ทำดีที่สุดแล้ว มาตรการเยียวยาต่างๆ ก็สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ แต่ต้องใช้เวลา ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยหลายอย่างรัฐบาลก็ดูอยู่” นายธนกรระบุ พร้อมแจกแจงถึงมาตรการที่รัฐบาลได้ทำและได้ออกเป็นมาตรการไป ก่อนย้ำว่าข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์รัฐบาลก็รับฟัง แต่ไม่ใช่ค้านไปทุกเรื่อง  พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรก็ผิดไปหมด คิดว่าไม่ถูกต้อง และอยากบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้วประเทศดีขึ้น ไม่ได้อยู่แบบถ่วงความเจริญปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเหมือนรัฐบาลในอดีต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"